ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูเบาๆ จากด้านนอกทำให้คนที่ง่วนอยู่กับแฟ้มเอกสารเงยหน้าขึ้นมอง... ปรกติเลขาของเขาจะโทรบอกผ่านอินเตอร์คอมว่ามีแขกคนใดมาขอพบ แต่หากเป็นการเคาะประตูเช่นนี้ย่อมแสดงว่าคนที่รอเขาอยู่ข้างนอกเป็นแขกพิเศษที่รู้เฉพาะเขาและเลขาว่าเป็นใคร...
“เข้ามาได้” พงศกร อโณทัย ผู้บริหารหลักสายการบินเอเชียแอร์ไลน์เอ่ยบอกเสียงเรียบ...
หน้าประตูห้องมีการเคลื่อนไหว แล้วลูกสาวคนโตของเขาก็เดินเข้ามาหาเขา... หล่อนคือ รินรดา อโณทัย โคลล์ ลูกสาวที่เกิดจากโรเชลีน่าภรรยาคนแรกของเขา หลังจากที่พวกเขาหย่ากันโรเชลีน่าเลือกที่จะไปใช้ชีวิตใหม่แล้วให้เขาเลี้ยงลูกสาวคนนี้ตามลำพัง แต่เนื่องจากเขาไม่มีเวลาได้เลี้ยงดูลูกสาวสักเท่าไหร่ มารดาของเขาเลยแนะนำให้เขาแต่งงานใหม่เพื่อหาคนมาช่วยเลี้ยงลูก เขาแต่งงานใหม่อีกครั้งกับลูกสาวเพื่อนมารดาซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันแล้วจึงมีลูกสาวอีกหนึ่งคน คือ ระรินทิพย์ อโณทัย ถึงแม้เขามีลูกสาวสองคนแต่ทั้งคู่หน้าตาและนิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
วันนี้พงศกรไม่รู้ว่าลมอะไรหอบลูกสาวคนโตของเขาให้มาหาเขาที่นี่ได้... เพราะร้อยวันพันปีเจ้าตัวไม่ค่อยอยากจะมาที่นี่เท่าไหร่ นอกจากว่าจะมีปัญหาเรื่องงานและมีเรื่องบางเรื่องที่ต้องการให้เขาจัดการให้...
รินรดาเป็นคนสวย ด้วยส่วนผสมระหว่างพ่อที่เป็นคนไทยและแม่ชาวอิตาลีนั้นทำให้หล่อนได้ส่วนดีมาทั้งทางฝั่งพ่อฝั่งแม่... ผิวสีขาวสวยเนียนละเอียด รูปร่างสูงโปร่งและสัดส่วนผ่านมาตรฐานนางแบบนานาชาติได้อย่างสบาย... ใบหน้าเรียวสวยงามลงตัวกับดวงตาสีน้ำตาลอ่อน... จมูกโด่งปลายเชิดรั้นขึ้นบ่งบอกนิสัยแสนรั้นของเจ้าตัวอย่างเด่นชัด... ใบหน้าหล่อนรับกับผมสีน้ำตาลอ่อนที่ได้จากแม่เป็นอย่างดี...
พงศกรรู้ว่าหล่อนสวย สวยเหมือนแม่ของหล่อน...
แต่นิสัยของรินรดา เขาไม่รู้ว่าได้จากใคร!
“คุณพ่อคะ หนูดีมีเรื่องให้คุณพ่อช่วยค่ะ”
“พ่อว่าอยู่แล้วเชียว ว่าถ้าไม่มีเรื่องอะไรลูกไม่มีทางมาที่นี่หรอก แล้วว่าไง วันนี้มีเรื่องอะไร อยากให้ไล่ใครออก หรือว่าอยากเปลี่ยนเส้นทางบินอีก” เขาถามลูกสาวซึ่งเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินที่บริษัทของเขาเป็นเจ้าของ
เจ้าตัวโดนร้องเรียนจากเพื่อนร่วมงานหลายต่อหลายครั้ง แต่คนที่โดนเด้งออกกลับเป็นเพื่อนร่วมงานกันเอง นั่นเป็นเพราะการที่เขาตามใจลูกสาวคนเดียว... เขาเคยขอให้ลูกสาวลาออกจากการทำงานแล้วอยู่เฉยๆ เผื่อว่าจะเลิกมีเรื่องกับคนอื่นให้เขาต้องไล่คนออกโดยไม่มีเหตุผล แต่ลูกสาวเขาก็ไม่ยอม เขาจึงยอมตามใจ เพราะการตามใจเป็นสิ่งเดียวที่เขาพอจะทำลูกสาวมีความสุขได้ เพื่อทดแทนกับการที่เขาไม่มีเวลาให้ลูก ถ้าสิ่งไหนซื้อความสุขให้ลูกได้ เขาทำทั้งนั้น...
พงศกรรู้ดีว่าการที่เขาเลี้ยงลูกอย่างนี้จะทำให้หล่อนเสียคน และลูกสาวเขาก็เสียคนไปแล้ว... แต่เขาก็ยังตามใจหล่อนไม่เลิก เพราะเขาทนเห็นน้ำตา และทนเห็นความผิดหวังบนใบหน้าสวยงามของลูกสาวคนโตไม่ได้
และเขาก็รู้ว่าตอนที่ลูกสาวมาด้วยใบหน้าบูดบึ้งเช่นนี้ นั่นแปลว่าเจ้าตัวกำลังไม่พอใจเพื่อนร่วมงาน หรือว่ามีใครที่ทำอะไรไม่ถูกใจเจ้าตัวอยู่แน่ๆ
กันสองคน... ตัวเองไม่เคยทำอะไร แค่ประกาศแนะนำตัวกับผู้โดยสารแล้วก็เฉย เราเสิร์ฟอาหารเหนื่อยเกือบตาย ไม่ยอมช่วย โน่น นั่งอ่านนิตยสารอยู่นั่นลืมไปหรือเปล่าว่านี่ทำงานไม่ใช่มาบินเก็บแต้ม” เริ่มแรกเป็นเสียงของหญิงสาวที่บอกอย่างไม่พอใจ... สักพักก็มีเสียงคู่สนทนาอีกคนหนึ่งบอกมาอีก
“โอ๊ย เธอน่ะไม่รู้อะไร ใครเขาก็รู้กันหมดจ้า ไฟลท์ไหนที่บินพร้อมกับพี่เค้านะ ได้ทำงานหัวปั่นเพราะพี่เค้าไม่ทำอะไร แค่ยืนรับกับยืนส่งผู้โดยสารเท่านั้น แต่ไม่มีใครว่าเค้าได้ เพราะนั่นน่ะลูกสาวท่านประธานใหญ่”
“จะลูกใครก็ช่างเถอะ ถ้าอยากจะมาทำงานแล้วก็ช่วยทำหน่อยเถอะ คงคิดว่าตัวเองสวยมากนะ เดินลอยหน้าลอยตาไปมา”
“จะว่าได้อย่างไรล่ะ ใครกล้าว่าเค้าได้ก็ต้องแลกกับการโดนไล่ออก รุ่นพี่ที่เคยทำงานที่นี่บอกมา ฉันไม่คิดว่าจะได้บินไฟลท์เดียวกัน ดันมาจ๊ะเอ๋กันซะได้... บอกแล้วว่าใครอยู่ด้วยจะซวย รู้ไหมว่าคนนี้น่ะแค่ไหน เค้ามีสิทธิ์ได้เลือกไฟล์บินก่อนใคร เวลาจะบินไฟล์ไหนชั้นเฟิร์สคลาสต้องว่างให้หนึ่งที่สำหรับพี่เค้า... แทนที่จะมาทำงานก็ไปพักผ่อนประหนึ่งว่ามาเป็นผู้โดยสาร ฉันล่ะเบื่อ”
“โอย... ฉันหวังว่าเค้าคงเลิกทำงานในเร็วๆ นี้นะแก ไม่อย่างนั้นมาร่วมไฟล์กันบ่อยๆ มีหวังฉันคงแย่เพราะเหนื่อยตาย...”
“อูย เค้าทำมานานแล้วไม่เคยเลิก เธออย่าหวังเลยว่าเขาจะเลิก”
“ก็แหม หน้าตาดี ฐานะดีออกอย่างนั้น เดี๋ยวก็ได้แต่งงาน คราวนี้ก็เลิกเป็นแอร์แล้ว”
“เรื่องนั้นฝันไปเถอะ ฉันเรียนที่เดียวกันกับพี่เค้าตั้งแต่สมัยมัธยม เธอเอ๊ย นิสัยอย่างนั้นใครๆ ก็ขยาด อย่าว่าแต่แฟนเลย แม้กระทั่งเพื่อนก็แทบไม่มีใครคบพี่เค้าที่มีคบอยู่ก็คบเพราะรวยแล้วจะได้หลอกใช้เงินด้วยเท่านั้น... เห็นสวยๆ อย่างนั้นนะ ไม่เคยหรอกเรื่องมีแฟนน่ะ... พวกผู้ชายที่ทำงานที่นี่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ต่อให้รวยกว่านี้หรือสวยกว่านี้สิบเท่าแต่นิสัยแบบนี้ ให้ตายก็เอาไม่ลง ยอมคบกับคนขี้เหร่แต่นิสัยดีดีกว่าว่างั้น... ฉันว่านะ ยัยระรินน้องสาวของพี่เค้าที่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับฉันนิสัยดีกว่าเยอะเลย รายนั้นเพื่อนเยอะ ไปไหนใครก็รักไปไหนใครก็ชอบ”
รินรดากดปิดบทสนทนาแล้วหล่อนก็มองหน้าเหนื่อยๆ ของบิดา...