4

1413 คำ
เล่นใหญ่กันเหลือเกินพวกคนดีย์! ถ้วยน้ำชาดังกล่าวตกลงพื้นก่อนถึงหยุนเมี่ยง และดูเหมือนจิวเจียกยี้ไม่พอใจอย่างที่สุด ซึ่งก่อนหน้านั้น เมื่อเห็นว่าลูกชายคนรองผู้พึ่งเลื่อนขั้นขึ้นเป็นแม่ทัพฝ่ายหน้าอยากแต่งอิงเยี่ยหลิง แล้วยกขึ้นนางเป็นฮูหยินเอก จิวเจียกยี้ก็แทบกระอักเลือดตาย ฝ่ายนั้นมาจากชนชั้นต่ำ อาชีพบิดานางคือเปิดร้านขายเต้าหู้! อย่างไรก็ไม่สมควรเชิดหน้าชูตาเป็นฮูหยิน เมื่อคิดอยู่นาน จิวเจียกอี้จึงหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้ได้สำเร็จ ด้วยมีแม่สื่อที่รู้จักกับฝ่ายสกุลหยุนเป็นการส่วนตัว จึงฝ่ายทาบทามให้เกี่ยวดองกัน ช่วงนั้นหยุนเหลียงอยากให้ลูกสาวของตนออกเรือนพอดี ตัวเขาอยู่ที่เมืองกุยห่างไกลนับพันลี้จากนครหลวงจึงไม่ทราบว่าคนที่นี่หน้าซื่อใจคนโดยเฉพาะจิวเจียกยี้ และลูกสาวของเขาก็อยู่ในวัยสมควรแต่งงาน พอรู้ว่าสกุลเก่าแก่ที่ปกป้องแคว้นต้าจินมาช้านานอยากเป็นทองแผ่นเดียวกัน หยุนเหลียงก็ตกลงทันทีด้วยถือว่าสกุลเซียวมีหน้ามีตาคงไม่มีเล่ห์กลอันใด ฝ่ายหยุนเหลียงรับใช้บ้านเมืองมานับสิบปีเงินทองมีพอสมควร และพื้นฐานของสกุลเดิมคือทำการเกษตร ดังนั้นจึงมีที่ทางมิน้อย พร้อมสมบัติที่จะเป็นสินเดิมให้แก่ลูกสาวกับลูกเขยมีกินมีใช้อย่างไม่อดตายเป็นแน่ ทว่าความที่อยู่ห่างไกล ทั้งมองโลกในแง่ดีเกินไป ฝ่ายหยุนเหลียง จึงหารู้ไม่ว่าคนที่หยุนเมี่ยงต้องแต่งงานด้วยคือเซียวหมิงเซินบุรุษผู้นั่งบนรถเข็น กระนั้นฝ่ายจิวเจียกยี้ก็ไม่ได้หลอกลวงเสียทั้งหมด ลูกชายคนโตรับใช้ราชสำนักอยู่หลายปี สอบจอหงวนก็ได้อันดับหนึ่ง และฮ่องเต้เลือกให้เป็นผู้สอนรัชทายาทด้วย กระทั่งพักหลังร่างกายย่ำแย่หนัก ด้วยอาการป่วยเรื้อรังจากเข้าช่วยน้องชายเมื่อหลายปีก่อน ทำให้ต้องอยู่ที่เรือนของตนเป็นส่วนใหญ่ เซียวหมิงเซินจึงใช้ความรู้ที่มี เปิดสำนักศึกษาเพื่อถ่ายทอดความรู้แก่ลูกขุนนาง และเหล่าองค์ชาย ยามนั้น จิวเจียกยี้มือสั่น และใจยิ่งสั่นหนักกว่าเดิม นางมารน้อยแซ่หยุน ปีนขึ้นเตียงลูกชายคนรองของนาง และยังกล้าลอยหน้าลอยตามาที่นี่ อันที่จริง นางหวังให้อีกฝ่ายแต่งกับเซียวหมิงเซิน จากนั้นก็คิดหาทางผลักไสไปอยู่เรือนนอก ด้วยการโยนข้อหาชั่วๆ ให้สักหน่อย ขี้คร้านหยุนเมี่ยงคงจนตรอก มินานก็สิ้นใจตายห่างจากจวนเซียว ไม่ต้องพบเห็นกันอีก ส่วนสินเดิมของนางย่อมตกเป็นของสกุลเซียว เพียงเท่านี้ทุกอย่างก็ยุติธรรม คนบ้านนอกไฉนจะคู่ควรกับลูกชายสุดที่รักของนางกันเล่า แต่สิ่งที่นางวาดหวังไว้ กับพลิกตลบกลับด้าน นังมารน้อยเข้าห้องหอเซียวเฮ่อป๋อ และสมสู่กันราวกับสัตว์ป่า จนบ่าวและสาวใช้ ซุบซิบกันอย่างสนุกปาก! “ท่านแม่...เมื่อครู่โสเภณีที่ท่านเรียกหาเสียงอ่อน เสียงหวานหมายความถึงผู้ใด!”เสียงของหยุนเมี่ยงเรียกสติเดือดพล่านของหญิงวัยกลางคนกลับคืนมา ดวงตาเรียวเล็กของคนเป็นแม่ผัว แทบถลนออกมานอกเบ้า ขอบตานางร้อนจัด โกรธ เกลียด ทั้งชิงชังราวกับมีกองอา จมเหม็นเน่าอยู่ตรงหน้า “แล้วใครที่มันโผล่เข้ามาในห้องนี้อย่างไร้มารยาท... อีกทั้งก่อความบัดซบ น่าขยะแขยง ที่ข้าไม่คิดบัญชี และลงโทษสถานหนัก เพราะอยากให้ทุกอย่างยุติเพียงเท่านี้ ก็นับว่าให้เกียรติเจ้ามากพอแล้ว และที่เรียก โสเภณี เพราะตำแหน่งนี้เหมาะสมกับเจ้ามากกว่าการเป็น สตรีข้างห้องหอ ที่ข้ากล่าวทั้งหมดนี้ ขัดเคืองใจเจ้าเยี่ยงนั่นหรือ” “แม่สามี...” หยุนเมี่ยงลากเสียงยาว และมองจิวเจียกยี้ด้วยสายตาเข้าอกเข้าใจ ตัวนางในร่างนี้ยังเป็นเด็กสาว อีกทั้งในเมืองหลวงหาได้มีใครปกป้องได้ แม้แต่สินเดิมที่นำมาด้วย ตอนนี้บางส่วนก็ถูกแม่บ้านของสกุลเซียวยึดเข้าคลังกลางตามคำสั่งจิวเจียกยี้ และนี่คือสิ่งที่นางต้องรีบสะสางเร็วไวที่สุด มิเช่นนั้นหยุนเมี่ยงอาจเหลือเพียงแต่ตัวในมิช้า “ไร้ยางอาย ข้าไม่ยอมรับเจ้าเป็นลูกสะใภ้!” จิวเจียกยี้ตวาดใส่หน้าหยุนเมี่ยง “ถึงท่านไม่ยอมรับ แต่ข้านอนกับแม่ทัพเซียวแล้ว หรืออยากให้ข้านอนกับคุณชายใหญ่ด้วย ท่านจึงจะเอ่ยปากเรียกว่า ลูกสะใภ้เหมือนใครบางคน!” หยุนเมี่ยงกล่าวจบก็เบนสายตาไปยังอิงเยี่ยหลิง มองอีกฝ่ายด้วยสายพินิจว่า สตรีผู้นี้กำลังเล่นละครอยู่หรือไม่ “สกปรก! ปากของเจ้าคงเต็มไปด้วยหนอน และมูลสัตว์สินะ ส่วนตรงนั้นก็อย่าได้คิดว่าจะใช้มันคลอดทายาทของสกุลเซียวออกมาได้เลย” จิวเจียกยี้มีวาจาเผ็ดร้อนยิ่งนัก ยามนี้หยุนเมี่ยงรู้แล้วว่า ลูกชายคนรองของนาง หรือแม่ทัพเซียว ได้พรสวรรค์นี้จากผู้เป็นมารดานั่นเอง “ฮึ สิ่งที่ท่านต้องรู้อย่างกระจ่างชัดคือ ปากบนและปากล่างของข้านี้ เมื่อคืนจนถึงรุ่งสาง มันล้นทะลักเต็มไปด้วยความสุขจากแม่ทัพเซียว ลูกชายของท่านที่ชอบกินของเน่าและมูลสัตว์เช่นข้า เอ... หากเป็นเช่นนี้ ไม่นับว่าเซียวฮูหยินผู้สูงศักดิ์ ได้คลอดลูกสุนัขออกมาหรอกหรือ!” จิงเจียกยี้ตาค้าง และหูอื้อไปชั่วขณะ เกิดมาไฉนนางจะเคยได้ยินผู้ใด กล่าววาจาสถุนได้ถึงเพียงนี้ “นังเดรัจฉาน! หากเจ้ายังยืนหายใจอยู่ที่นี่ได้ จงอย่าเรียกข้าว่า เซียวฮูหยินเลย!” จิวเจียกยี้เลือดขึ้นหน้า นางคว้าเอาจานใส่ขนมเปี๊ยะ จากนั้นจึงออกแรงอย่างหนัก ซึ่งภาพต่อมาเกิดขึ้นรวดเร็ว ทว่าจานกระเบื้องไม่ได้ถูกส่วนใดของร่างกายหยุนเมี่ยง เพราะไม่รู้ว่าสวรรค์เล่นตลกหรืออย่างไร จู่ๆ อิงเยี่ยหลิงพลันพุ่งเข้ามาขวางไว้ และจานใบเดียวกันนั้นโดนเข้าที่บริเวณแก้มของนาง “โอ้ ลูกสะใภ้อิง! เหตุใดถึงโง่เขลาเช่นนี้!” จิวเจียกยี้ตกใจ จากที่โมโหหยุนเมี่ยงขั้นสุด เป็นการรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตัวนางไม่ชอบอิงเยี่ยหลิงก็จริง ทว่ายังเมตตาอีกฝ่ายมิน้อย แต่จะให้นางแต่งอีกฝ่ายเข้ามาเป็นฮูหยินของลูกคนรองมิได้ เพราะเซียวเฮ่อป๋อยังหนุ่มแน่น อนาคตเขาในราชสำนักยังยาวไกล จึงสมควรได้ลูกสาวขุนนางชั้นผู้ใหญ่ หรือไม่ก็เป็นองค์หญิงสูงศักดิ์เป็นศรีภรรยา และรอยของจานกระเบื้อง ส่งให้ใบหน้าอิงเยี่ยหลิงแดงเป็นปื้นใหญ่ แม้ไร้บาดแผล แต่รู้ได้ว่านางเจ็บพอสมควร ฝ่ายหยุนเมี่ยงงงอยู่ชั่วขณะ พลางหันไปถามจงลี่ “เหลวไหลนัก นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรฮึ” จงลี่เองก็คิดหัวแทบระเบิดก่อนกระซิบกระซาบว่า “แผนเจ้าค่ะ... นังชั้นต่ำ คงหวังแสดงละครปกป้องไม่ให้คุณหนูได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกันก็อยากให้แม่ผัวเห็นใจว่านางเป็นสตรีที่ดี ไม่อยากให้เกิดเรื่องรุนแรงภายในครอบครัว นางคนนี้ร้ายลึกเหลือเกินคุณหนู” “โอ้ ประเสริฐ... หญิงชนชั้นต่ำ สมกับเป็นนางเอกของเรื่องนี้จริงๆ” และคำพูดของหยุนเมี่ยงทำให้จงลี่ฉงน ไม่ต่างจากฮึงซวนที่นิ่งอยู่นานสองนาน ก่อนที่นางจะเอ่ยว่า “คุณหนู... ดูสิเจ้าคะ หน้าของเซียวฮูหยินซีดเหลือเกิน และนางมีอาการเหมือนหายใจไม่สะดวกด้วย นางคงไม่สิ้นใจตายต่อหน้าพวกเราหรอกนะเจ้าคะ” ชั่วพริบตา หยุนเมี่ยงมองไปยังแม่ผัว เป็นยามนั้น ที่นางสังหรณ์ในทางร้ายพิกล ตายล่ะ... สงครามแม่ผัวลูกสะใภ้เพิ่งเริ่มต้นแท้ๆ คนแก่หัวหงอกจะมาชิงตายง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม