Chapter 9 อาชัชขา...น้องกิ่งเหงา
ชัชชาติสำเหนียกว่ากิ่งดาวไม่ใช่เด็ก เธอโตเป็นสาวสะคราญเย้ายวนใจ และทำให้แก่นกายของเขาปวดหนึบด้วยความต้องการ อยากจะร่วมรักและกกกอดเจ้าของเนื้อนวลบริสุทธิ์แทบจะขาดใจ กระนั้นก็ได้แต่บอกตัวเองให้ใจเย็นๆ ขืนบุ่มบ่ามกิ่งดาวหวาดกลัวจนนำเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น เขาจะเสียภาพลักษณ์ที่สั่งสมมาหลายสิบปี
เขาไม่ควรให้เรื่องใต้สะดือมาทำให้ชีวิตที่เขาบรรจงสร้างต้องพังลงภายในพริบตา เพียงเพราะถูกตัณหาราคะเข้าครอบงำจนขาดสติ
“ได้ครับ” ชัชชาติตั้งใจมั่นว่าจะเข้าไปส่งหญิงสาวในห้องนอนแล้วจะรีบกลับออกมาให้เร็วที่สุด
ซึ่งตรงกันข้ามกับความคิดของกิ่งดาว เธอตั้งใจว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้อาหนุ่มอยู่กับเธอให้นานที่สุด ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องได้ด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ ก็ต้องใช้เล่ห์มารยา แม้เธอจะไม่เคยใช้มารยามาก่อน แต่ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง ล้วนมีมารยาหลายร้อยเล่มเกวียนแอบซ่อนอยู่ภายใน เสียแต่ว่าใครจะงัดมันออกมาใช้ได้มากกว่ากัน
หนุ่มใหญ่แสนอบอุ่นเปิดประตูห้องพักเข้าไป ก่อนจะค่อยๆ วางร่างบอบบางของหญิงสาวลงบนเตียงนอนอย่างทะนุถนอม เปิดเครื่องปรับอากาศจนเย็นสบายแล้วจึงบรรจงห่มผ้าให้เธอ “ฝันดีนะครับคุณหนูกิ่ง อาขอตัวครับ” พูดจบเขาก็หมุนตัวหมายจะกลับออกไปทว่ากิ่งดาวกลับคว้าข้อมือของเขาเอาไว้
“น้องกิ่งเหงาจังค่ะอาชัช น้องกิ่งรู้สึกเหมือนไม่มีใครเลย”
จริงอยู่ที่เธอพยายามจะยื้อเขาเอาไว้ ทว่าสิ่งที่เธอพูดออกไปมันกลับเป็นสิ่งที่เก็บกักอยู่ในหัวใจมานานแสนนาน เธอเหงา เปล่าเปลี่ยวหัวใจและอ้างว้างมายาวนานเหลือเกิน เธอเฝ้ารอ…รอว่าจะมีใครสักคนมาหยุดความเหงาในใจเธอลงเสียที เธอเหน็ดเหนื่อยกับความเหงามาเนิ่นนานเกินไปแล้ว
“คุณหนู…”
ชัชชาติใจหายเมื่อได้ยินเสียงสั่นเครือของหญิงสาวตัวน้อย
“อยู่กับน้องกิ่งจนกว่าน้องกิ่งจะหลับได้มั้ยคะ น้องกิ่งไม่อยากอยู่คนเดียว” ดวงตาเว้าวอนและริมฝีปากที่เผยอขึ้นลงยามเอื้อนเอยตรึงขาสองข้างของเขาให้ยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน
“แต่ว่ามันคงดูไม่ดี หากใครมาเห็นเข้าจะเสียหายถึงชื่อเสียงของคุณหนูกิ่งนะครับ”
ชัชชาติพยายามปฏิเสธแต่เมื่อเห็นหยาดน้ำตาคลอหน่วยตาของหญิงสาว เขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งลงข้างเตียง
เขาจะใจร้ายทอดทิ้งเด็กสาวที่เพิ่งพานพบเรื่องราวหนักหน่วงมาได้อย่างไร ยามนี้หญิงสาวคงต้องการกำลังใจและอ้อมกอดจากใครสักคนเพื่อปลอบขวัญ ถ้าหากว่าตอนนี้อยู่ที่กรุงเทพฯ เธอก็คงเรียกหาพี่เลี้ยงคนสนิท แต่นี่เธออยู่ต่างจังหวัดจึงมีเขาเพียงคนเดียวที่เปรียบเป็นญาติผู้ใหญ่ของเธอ
“ขอบคุณนะคะที่เมตตาน้องกิ่ง”
ยิ่งเห็นกิ่งดาวยกมือไหว้ขอบคุณ ชัชชาติก็ยิ่งสำนึกผิดที่คิดอกุศลกับเด็กสาว แต่ให้ตายเถอะ! ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจสลัดภาพที่หญิงสาวนอนตกเบ็ดอยู่บนเตียงออกไปจากห้วงแห่งความคิดได้เลย ใบหน้าที่แหงนเงย ห่อริมฝีปากอย่างเสียวซ่าน นิ้วมือที่บรรจงบดคลึงกลีบกุหลาบเพื่อทำให้ตัวเธอเองมีความสุข เนื้อตัวที่ขาวนวลผุดผาด แม้ภายนอกจะแลดูหุ่นบอบบางแต่กลับซ่อนหน้าอกทรงโตยวนยั่ว เอวขอด สะโพกผายได้รูป และบั้นท้ายกลมกลึงน่าสัมผัสโลมไล้
ชัชชาติกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อจู่ๆ เขาก็คิดถึงภาพเหล่านั้นขึ้นมาอีกจนได้ “เอ่อ…อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ อารักคุณหนูกิ่งเหมือน…” เขาชะงักไม่อาจพูดคำว่า ‘รักเหมือนหลาน’ ออกไปได้ในเมื่อหัวใจของเขาในตอนนี้กำลังคิดไม่ซื่อ คิดเคลมหลานสาวนอกสายเลือดอยู่ตลอดเวลา
“น้องกิ่งคอแห้งจังเลยค่ะ” กิ่งดาวรู้สึกมึนศีรษะและคอแห้งผาก
“รอสักครู่นะครับเดี๋ยวอารินน้ำให้ดื่ม”
จังหวะที่ชัชชาติเดินไปยังตู้เย็นกิ่งดาวก็รู้สึกคลื่นไส้พะอืดพะอมคล้ายจะอาเจียน เธอกำลังจะวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำแต่ก็ซวนเซไปมาจึงเข้าห้องน้ำไม่ทันอาเจียนรดตัวเองจนเปรอะเปื้อนชุดเดรสตัวสวย
“คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างครับ”
“น้องกิ่งรู้สึกแย่จังเลยค่ะ” หญิงสาวทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง
“เดี๋ยวอาจะไปตามพนักงานผู้หญิงให้มาช่วยคุณหนูเปลี่ยนชุดและอาบน้ำนะครับ เมาแบบนี้ดูท่าแล้วจะอาบน้ำเองไม่ไหวแน่ๆ” จังหวะที่ชายหนุ่มผละจากไปกิ่งดาวก็คว้าแขนของเขาไว้อีกครั้ง
“น้องกิ่งไม่อยากให้ใครมาเห็นในสภาพนี้ อาชัชช่วยน้องกิ่งถอดชุดหน่อยได้มั้ยคะ”
กิ่งดาวไม่พูดเปล่าดึงแขนเสื้อเดรสสีขาวออกจนเห็นเนินอกอวบอิ่ม ไวโดยที่เขายังไม่ทันตั้งตัวเธอก็ถอดเดรสสีขาวออกไปจากเรือนร่างงดงามเหลือเพียงชุดชั้นในลูกไม้สีขาวตัวจิ๋ว และบราเซียลูกไม้ที่ประคองสองเต้าเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่
หนุ่มใหญ่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ตกใจทำอะไรไม่ถูก เมื่อตั้งสติได้จึบรีบไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาคลุมร่างเธอเอาไว้
“พาน้องกิ่งเข้าห้องน้ำหน่อยค่ะ” กิ่งดาวประคองตัวเองให้ลุกขึ้นยืนโดยมีชัชชาติประคองเธอเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา
“อาชัชอย่าเพิ่งหนีน้องกิ่งไปไหนนะคะ รอน้องกิ่งก่อน”
หญิงสาวขอร้องด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ทั้งเนื้อทั้งตัวของหญิงสาววัยแรกรุ่นมีเพียงผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียวพันรัดรอบกายเอาไว้ อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังร่องอกอิ่มที่โผล่พ้น้าเช็ดตัวออกมาราวกับต้องการให้เขาได้ยลโฉมนวลเนื้อกลมโต
“เอ่อ…ได้ครับ”
เสียงสายน้ำไหลซ่า ซ่า ซ่า ตกกระทบลงบนหัวใจและมโนภาพของชายหนุ่ม ให้คิดถึงเนื้อนวลยืนโลมไล้ถูไถเรือนกายตัวเองภายใต้สายน้ำเย็นชุ่มฉ่ำ เมื่อกอรปกับเสียงหวานฮัมเพลงดังลอยมากระทบหู สติของหนุ่มใหญ่ก็กระเจิดกระเจิงจนแทบกู่ไม่กลับ ชัชชาติส่ายหน้าแรงๆ เพื่อเรียกสติของตนเองกลับมา ก้มมองน้องชายของตนเองที่แข็งโด่แทบจะทะลุเป้ากางเกง คับแน่นด้วยตัณหาราคะที่ต้องการการปลดปล่อย