“ฉันอยากทำงานค่ะ” ฉันเอ่ยบอกสามีของฉันออกไประหว่างกินข้าวเย็นร่วมโต๊ะกัน นั่นทำให้เขาปรายตาขึ้นมามองฉันนิ่ง
“ไปทำบริษัทพ่อเธอ”
“บริษัทพ่อฉันคนพอดีงานแล้วค่ะ แล้วฉันก็อยากหางานทำเอง” ฉันอยากเข้าทำงานด้วยความสามารถของตัวเอง ไม่อยากเข้าไปเพราะเส้นสาย อีกอย่างบริษัทพ่อฉันก็มีคนพอดีกับงานแล้ว หากฉันเข้าไปก็อาจจะเป็นการแทรกแซงเข้าได้ อาจจะทำใหพนักงานบางคนเดือดร้อน
“.....” คุณ สิงหา สามีของฉันมองฉันนิ่งอีกครั้งโดยที่ฉันไม่รู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ เพราะสายตาของเขามีแต่ความเรียบนิ่ง บางเวลาก็เย็นชา
ฉันขอหางานทำได้ไหมคะ”
“อืม” สุดท้ายเขาก็ตอบกลับมาสั้นๆถือเป็นการตกลง
แล้วถ้าถามว่าทำไมฉันไม่ทำงานที่บริษัทของเขา คำตอบก็คือฉันไม่มีสิทธิ์ยุ่งเรื่องของเขา เขาไม่ให้ฉันยุ่งกับงานของเขาเลย ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นนักธุรกิจที่โด่งดังฉันเองก็คงไม่รู้ว่าบริษัทเขาทำเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ติดหนึ่งในสามของประเทศ
แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะการได้อยู่ใกล้ชิดเขามากๆมันไม่ได้ทำให้ภรรยาอย่างฉันรู้สึกดีใจเลย มันมีแค่ความอึดอัดไม่เป็นตัวของตัวเองเลยสักนิด เพราะทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับเขา เพราะทุกอย่างอยู่ในสายตาของเขาตลอด
.
.
หลังจากฉันได้รับอนุญาตให้หางานทำได้ ฉันก็จดจ่ออยู่นหน้าจอแท็บเลตเพื่อหางานที่สนใจ และก็มีอยู่หลายที่ที่ฉันเล็งไว้ก่อนจะพูดกับเขาแล้ว แน่นอนว่าฉันเลือกจะสมัครออนไลน์ทิ้งไว้ทันทีเพื่อไม่ให้เสียโอกาส จนกระทั่งมาเจอบริษัทหนึ่งที่เกี่ยวกับรถนำเข้าที่กำลังรับสมัครพนักงานอยู่เช่นกัน เป็นบริษัที่ฉันพึ่งเห็นผ่านตามาเมื่อไม่นานมานี้ นั่นทำให้ฉันกดเข้าไปดูรายละเอียดทันที
ตำแหน่ง หน้าที่งาน ค่าตอบแทนและสวัสดิการต่างๆ พร้อมกับที่ตั้งของโชว์รูมรถที่ถือว่าไม่ไกลจากบ้านที่ฉันอยู่ตอนนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกสนใจขึ้นมาง่ายๆ และมันก็ไม่เสียหายอะไรถ้าฉันจะกรอกข้อมูลเพื่อทิ้งใบสมัครทิ้งไว้
สิงหา
“พวกเขามาแล้วครับ” ผมออกจากบ้านมาตอนเที่ยงคืนของวันก่อนจะตรงมายังโกดังไม้ของผมพร้อมกับเขตที่เดินเข้ามาบอก
“อืม” ผมตอบรับก่อนจะเดินไปยังที่นัดหมายนั่นก็คือพื้นที่หลังโกดังที่เป็นโถงกว้าง
“สวัสดีครับคุณสิงหา” ลูกค้ารายใหญ่ที่ผมต้องมารับหน้าเองทักขึ้น
“สวัสดีครับ”
“ผมยินดีมากเลยนะครับที่คุณสิงหามาด้วยตัวเอง”
“ครับ เช็ดของเลยดีกว่า” จะได้ไม่เสียเวลา แล้วลูกค้าก็หันไปพยักหน้าให้ลูกน้องมันเปิดของเช็คดูความเรียบร้อย
“นี่ครับ” มันยื่นกระเป๋าใบใหญ่ยื่นมาตรงหน้าโดยเขตเดินเข้าไปรับก่อนจะเปิดดูและสุ่มหยิบธนบัตรขึ้นมาปึกคลี่ดูสองสามปึก ก่อนจะปิดกระเป๋าลงอีกครั้ง
“เรียบร้อยครับ” ผมพูดหลังจากเขตรายงาน
“แล้วพบกันใหม่เร็วๆนี้นะครับ” ลูกค้าเดินเข้ามายื่นมือหาผมพร้อมพูดขึ้น ผมยื่นมือไปจับตามมารยาท
“ยินดีครับ”
แล้วพวกมันก็ถยอยยกลังไม้ออกจากโกดังของผมเพื่อไปขึ้นรถโดยมีคนของผมยืนเฝ้าดูความเรียบร้อย ส่วนผมก็เลือกจะกลับออกมาหลังจากเสร็จงาน
“ไปรับปรางค์มาหรือยัง” พอขึ้นมาบนรถผมก็ถามเขตขึ้น
“เรียบร้อยแล้วครับ”
แล้วรถก็ขับเคลื่อนออกจากโกดังมาเข้าสู่เขตชุมชนและตัวเมือง ก่อนจะมาหยุดที่คอนโดแห่งหนึ่ง
ผมขึ้นไปหยุดอยู่หน้าห้องหนึ่งก่อนจะสแกนคีย์การ์ดเข้าไปด้านในที่ตอนนี้เงียบกริบเพราะป่านนี้เธอคงหลับไปแล้ว
“อื้อ” เสียงครางดังขึ้นหลังจากผมสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มผืนหนาและดึงร่างอรชรมากอดแน่น
“คิดถึง” ผมกระซิบลงที่ข้างหูเล็กนั่น
พรึ่บ สักพักโคมไฟหัวเตียงก็ติดขึ้นพร้อมกับร่างบางที่ลืมตามองผมพร้อมรอยยิ้ม มือเล็กยกขึ้นมากอดผมไว้แน่น
“คิดถึงเหมือนกันค่ะ” ฟอดด
“นอนเถอะ” ผมยกยิ้มก่อนจะลูบหัวเธอให้หลับต่อจากเวลาที่ดึกมากแล้ว
“อื้อ” ร่างเล็กผงกหัวรับก่อนจะซุกตัวเข้าอกผมและนิ่งไปโดยมีผมก็เลือกจะพักผ่อนไม่ต่างกัน