“ท่านแม่ ข้าจะให้ท่าน 15 ตำลึงสำหรับค่าที่พักและค่าแรงของม่านลู่และม่านอวี้ บุตรสาวท่านไม่ได้โง่เจ้าค่ะ”
กัวฮูหยินถลึงตาใส่สาวใช้สองคน แน่ล่ะกู้ลี่ถิงจะไปรู้ราคาที่พักได้จากที่ใดในเมื่อนางไม่เคยออกไปค้างคืนนอกจวน ย่อมเป็นสาวใช้ข้างกายบุตรสาวนั่นล่ะที่ปากยื่นปากยาว!
กัวฮูหยินรับ 15 ตำลึงเงินมาส่งให้บ่าวชราด้านหลังนาง ก่อนจะแบมืออวบอิ่มออกมาอีกครั้ง
“สามสิบตำลึง สองวันนี้ข้าจะให้ครัวใหญ่ส่งอาหารมาให้พวกเจ้าครบทุกมื้อ”
กู้ลี่ถิงกัดฟันแน่น ไม่อยากจะเชื่อว่าบทสนทนานี้จะเกิดขึ้นกับผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นมารดากับบุตรสาว!! หากนางไม่มีเงินส่วนตัวอยู่ในเรือนเล่า? มารดานางคิดจะให้นางไปแย่งอาหารสุนัขมากินหรือไม่!
สมควรแล้วที่นางคิดจะไปให้ไกลจากสกุลกู้ ออกจากเมืองหลวงที่อีกไม่นานก็จะวุ่นวายจากการก่อกบฏชิงบัลลังก์ และวางใจได้เลยว่านางจะไม่เสียน้ำตาสักหยดยามที่คนสกุลกู้ถูกประหารไปพร้อมกับซ่างกวนหลินฟ่ง!!
ยินยอมตกลงราคากันเรียบร้อยกัวฮูหยินจึงได้จากไปอย่างไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก
ส่วนกู้ลี่ถิง นางแทบจะไม่สามารถหลุดออกจากอารมณ์ขุ่นมัว น้อยใจ สังเวช โกรธเคือง หวาดกลัว ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ตื่นมาในชีวิตใหม่นี้ได้เลย คล้ายกับว่าตัวนางที่แท้จริงและกู้ลี่ถิงในนิยายเริ่มจะหล่อหลอมให้เป็นคนๆ เดียวกันไปทีละนิด
หญิงสาวฉวยโอกาสที่สาวใช้ออกไปเตรียมน้ำอาบให้นาง หยิบเอานิยายที่ซุกซ่อนเอาไว้หัวเตียงกลับมาเปิดอ่านดู
“เป็นเช่นนี้จริง ๆ นิยายเขียนตามสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน นี่ก็เท่ากับว่าข้ากำลังเขียนนิยายเรื่องของตัวเองขึ้นมา” หญิงสาวรำพันออกมาเบาๆ
นางไล่สายตามองหาฉากที่ไม่เกี่ยวข้องกับนาง นิยายเรื่องเดิมเน้นเรื่องราวของเย่เซิ่งเจีย การเดินทางออกจากเมืองหลวงไปเหลียงโจว ระหว่างนี้แม่ทัพเย่เฟิงจะเสียใจจนล้มป่วย ซ้ำร้ายระหว่างทางยังถูกดักปล้น
“ไม่มีจริง ๆ ด้วย” หญิงสาวพลิกอ่านซ้ำไปซ้ำมาอีกหลายรอบ
ฉากที่บรรยายถึงครอบครัวสกุลเย่มีเพียงบอกว่าเดินทางออกจากเมืองหลวงทันทีที่ราชโองการมาถึง แม้แต่สมบัติบางส่วนก็ยังต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทางการเทียบประวัติตรวจสอบก่อนว่าส่วนใดยึดเข้าหลวง ส่วนใดต้องส่งคืนไปที่เหลียงโจว
ตามจริงต้องมีฉากแม่ทัพเย่เฟิงป่วยกะทันหันภายในวันเดียวกัน แต่ในนี้ไม่ได้เขียนไว้ ส่วนใหญ่จะกลับมาเน้นที่เรื่องราวของนางที่เกิดขึ้นไปแล้วไม่นานแทน อย่างเวลานี้ในนิยายก็จบตรงที่นางจ่ายเงิน 30 ตำลึงเงินให้ท่านแม่ ไม่มีฉากที่นางกำลังนั่งอ่านนิยายอยู่เสียหน่อย
กู้ลี่ถิงเลิกสนใจ เก็บนิยายลงหีบเอาไว้ไม่คิดจะกลับไปอ่านอีก ในเมื่อไม่มีเรื่องราวบอกล่วงหน้าที่เป็นประโยชน์ให้นางใช้ นางก็จะใช้เพียงความทรงจำที่เคยอ่านมาแล้วรอบหนึ่ง และต่อจากนี้ไปเรื่องของนาง นางก็จะเขียนเอง!!
……….
สองวันต่อมา
พระชายากู้ลี่หม่านมาเยือนสกุลกู้ด้วยตนเองจริงอย่างที่นางลั่นวาจาเอาไว้ และกู้ลี่ถิงก็ไม่แปลกใจสักนิดที่ไม่เห็นเงาร่างของซ่างกวนหลินฟ่งเดินทางมาด้วย
หญิงสาวนั่งฟังรายการสินเดิมของนางจากเจ้าหน้าที่ ที่คัดแยกทรัพย์สินออกมาจากจวนสกุลเย่อย่างเบื่อหน่าย
นางเข้าใจดีว่าทรัพย์สมบัติหลายรายการจำพวกเครื่องเรือน ฉากกั้นห้อง โต๊ะเก้าอี้เตียง แม้กระทั่งปะการัง ต้นไม้ประดับ หรือโคมไฟ ในยุคสมัยนี้เป็นสิ่งของที่มีค่ากว่าจะประดิษฐ์ขึ้นมาสักชิ้นก็ยากเย็น ไม้ต้นหนึ่งกว่าจะเสาะหามาเลื่อยเป็นแผ่นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกมันจึงมีค่ามากในสายตาของทุกคน
แต่สำหรับนางในเวลานี้.. จะให้นางขนเตียงลายนกยวนยาง ขนตู้ ขนอ่างอาบน้ำสลักสลายโบตั๋นเดินทางไปชนบทห่างไกลเพื่อ!!! นางต้องการเพียงข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเท่านั้น อย่างเสื้อผ้า อาหาร และเงิน!!!
มีเงินนางไปซื้อของเหล่านี้เอาภายหลังก็ได้ เอาแค่พอถึงเมืองเหลียงโจวแล้วนางจะมีที่ซุกหัวนอนหรือไม่ก่อน ยังไม่ต้องไปคิดเรื่องจะเก็บข้าวของเหล่านี้ไว้ที่ใดด้วยซ้ำ!!
หญิงสาวเบือนหน้าหนีจากอ่างล้างมือประดับมุก ก็เผอิญได้เห็นใบหน้าอวบอ้วนของผู้เป็นมารดาลอยอยู่ใกล้ๆ เข้าพอดี
“ท่านแม่ ข้ามีเรื่องจะตกลงกับท่านเจ้าค่ะ”
สองแม่ลูกประสานสายตาเข้าใจความคิดกันอย่างรู้ไส้รู้พุง ราวกับเป็นคู่ค้าที่ดำเนินการค้ากันมาเนิ่นนานหลายสิบปี
“เจ้าต้องการอะไรว่ามา”
“หนังสือหมั้นหมายของข้ากับคุณชายเย่ท่านพ่อทำลายมันทิ้งไปหรือยังเจ้าคะ” กู้ลี้ถิงถือคติกำขี้ดีกว่ากำตด หากไปถึงเหลียงโจวแล้วนางอับจนหนทางเข้าจริง ๆ ก็อาจใช้หนังสือหมั้นหมายให้เป็นประโยชน์ได้
กัวฮูหยินยกยิ้มมุมปาก กางพัดออกมาโบกสองสามทีแล้วยกขึ้นมาบังหน้าเอาไว้ครึ่งหนึ่ง
“เครื่องเรือนพวกนั้นเจ้าเอาติดตัวไปด้วยก็คงจะลำบากไม่น้อยเลยสินะ”
หญิงสาวดึงรายการที่ตรวจสอบเสร็จแล้วจากม่านอวี้มาสามแผ่น ใช้นิ้วมือจิ้มลงบนทรัพย์สินหลายรายการส่งสัญญาณให้มารดา
“ตกลง” นางหันไปพยักหน้าให้กับแม่นมชราข้างกาย สตรีนางนั้นก็เดินแยกตัวออกไปอย่างเข้าใจความหมาย
“ยังมีหนังสือรับตัวเจ้าสาวจากสกุลเย่อีกฉบับ หากเจ้าออกจากจวนไปแล้วข้าก็จะเผาทิ้งเสียเรือนข้าไม่มีที่จะเก็บของไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”
กู้ลี่ถิงกลอกตากลับไปมองสมบัติที่ยังเหลืออีกหลายรายการของนาง พวกภาพวาด พระพุทธรูปหยก เครื่องเคลือบเครื่องประดับอลังการเกินมนุษย์จะสวมใส่อีกหลายชิ้นถูกจัดให้มาอยู่ในรายการของมารดาจนนางพอใจ
กัวฮูหยินหน้าบานคับจวน ในใจพลางตำหนิตัวเองอยู่ลึกๆ ว่านางเลี้ยงดูบุตรสาวได้โง่งมยิ่งนัก ต่อให้สามีฉีกหนังสือเหล่านั้นทิ้งไป ก็ยังมีบันทึกสำเนาอยู่ที่สกุลเย่และกับทางการอยู่อีก ใช่ว่ามีเพียงแผ่นเดียวอยู่ที่สกุลกู้เมื่อใด!
“ดูเหมือนว่ายังมากเกินไปที่ข้าจะนำติดตัวไปด้วยเจ้าค่ะ” กู้ลี่ถิงทำสีหน้ายุ่งยากใจออกมา
“อย่างไรเจ้าก็เป็นบุตรสาวข้า ฝากข้าวของที่เจ้ายังไม่ต้องการใช้ไว้ในจวนสกุลกู้ของเราจะเป็นไรไป สะดวกมาเอาไปเมื่อใดแม่ก็จะจัดการให้ทันที”
กู้ลี่ถิงอยากจะกรีดร้อง หากนางเชื่อก็บ้าแล้ว!! บุตรสาวจะไปตกระกำลำบากหรือไม่ สองสามีภรรยาไม่เอื้อนเอ่ยถามไถ่สักประโยค หากนางฝากของไว้มีหรือจะได้คืน!!
“เหลียงโจวห่างไกลพันลี้ โอกาสที่ข้าจะมาแสดงความกตัญญูกับท่านพ่อท่านแม่อีกครั้งคงยากยิ่งนักเจ้าค่ะ ข้าขอแลกของขวัญแต่งงานบางส่วนไถ่ตัวม่านลู่กับม่านอวี้ได้หรือไม่เจ้าคะ ลูกต้องเดินทางไกล หากไม่มีนางสองคนคงจะลำบากไม่น้อยเลยทีเดียว”
กัวฮูหยินอยากจะกัดลิ้นให้ขาดไปเสียเดี๋ยวนั้น นี่นางคลอดตัวโง่งมอันใดออกมากันแน่!! ของขวัญแต่งงานหลายชิ้นส่งมาจากเชื้อพระวงศ์ด้วยเห็นแก่ว่าองค์ชายรองเป็นประธานในพิธี แล้วเชื้อพระวงศ์ให้ของกำนัลไร้ค่าได้หรือ!!
“ของเหล่านี้หาใช่ของเจ้าแต่เพียงผู้เดียว หากสกุลเย่รู้เข้าจะไม่มาฉีกอกมารดาเจ้าปะไร พวกเขาเป็นอดีตขุนนางทางการทหารเชียวนะ ข้ากับพ่อเจ้ารับเอาไว้ไม่ไหวหรอก”
เหนือชั้น!! นางประเมินมารดาตนเองต่ำเกินไปแล้ว!!
หญิงสาวเริ่มไม่มั่นใจแล้ว ว่าตัวตนก่อนหน้าของนางเป็นสตรีเยี่ยงไรกันแน่ มีมารดากับพี่สาวที่เหลี่ยมทุกดอกเช่นนี้ นางจะผ่าเหล่าผ่ากอแตกต่างจากพวกนางจริงหรือ?
สินเดิมของนาง สกุลกู้ที่มีแต่ขนห่มไส้กลวงเอาไว้มีเพียงขี้ปะติ๋ว อย่างมากก็มีร้านค้ากับที่ดินที่พอจะมีราคาหน่อย เทียบไม่ได้กับของขวัญแต่งงานจำนวนมากเหล่านั้นเลยด้วยซ้ำ
มารดานางช่างละโมบเสียจริงที่ไม่คิดให้นางแบ่งบางส่วนออกมาแต่ต้องการเก็บไว้ทั้งหมด!!
“คุณหนู/คุณหนู” ม่านอวี้กับม่านลู่ น้ำตาคลอเต็มหน่วย
“พวกเราไม่คู่ควรหรอกเจ้าค่ะ ของเหล่านั้นมีค่ามากเกินไป”
กู้ลี่ถิงเหลือบตามองสาวใช้ผู้ซื่อสัตย์ทั้งสองเพียงแวบเดียว แน่นอนว่าหากนางใช้เงินเพียงไม่กี่สิบตำลึงก็สามารถหาซื้อตัวสาวใช้ใหม่เอาภายหลังได้ แต่อยู่ในจวนมาสองวันม่านอวี้กับม่านลู่แสดงให้นางเห็นแล้วว่าพวกนางไว้ใจได้
หาคนหาได้ แต่หาคนซื่อสัตย์จงรักภักดีนั้นหาได้ยากยิ่ง
สำคัญที่สุดคือยิ่งนางมีทรัพย์สินติดตัวไปมากเท่าใด อันตรายก็จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น นางไม่วางใจพี่เขยและพี่สาว พวกเขาอาจส่งคนมาดักปล้นนางกลางทางได้ทุกเมื่อ
“ไม่ยากเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าจะไปบอกทางนั้นเองว่าของขวัญถูกส่งคืนกลับไปทั้งหมด เท่านี้ก็สิ้นเรื่อง”
“นั่นมันของมีค่าไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะถิงเอ๋อร์ แต่ก็อย่างว่าหากแบ่งไปบางส่วนก็คงจะมีคนสงสัย สู้บอกว่าเจ้าไม่ได้รับของเหล่านั้นไว้เลยจะดีกว่า ถิงเอ๋อร์ของแม่คิดได้รอบคอบยิ่งนัก"
ม่านลู่กับม่านอวี้อ้าปากกว้างจนแทบจะกินไข่ได้คราวละ 5 ฟอง เพื่อไถ่ตัวนางสองคนให้เป็นอิสระ คุณหนูถึงกับยอมแลกทรัพย์สมบัติมีค่าจำนวนมหาศาล!! ราคาที่คุณหนูต้องจ่ายในวันนี้พวกนางสัญญาเอาไว้ในใจว่าจะตอบแทนบุญคุณด้วยชีวิต!!