เมื่อมาถึงห้องโถงวงเวียนใหญ่เขาปลดกุญแจมือดารัณและผลักหลังหล่อนกระเด็นไปทางเฮนรี่ให้รับช่วงต่อ รอบนี้เธอถูกขังในห้องสี่เหลี่ยมที่ทั้งแคบและมืดไม่ได้อยู่ในห้องพักเดิมที่แสนโอ่อ่า เธอห่างจากฝันที่คิดว่าจะได้อาบน้ำชำระร่างกายไปโดยปริยาย
“เฮ่อ ไม่น่าเลย” เธอบ่นให้ตนเองที่กล้าวิ่งหนีออกไปแบบนั้นโดยไม่ฉุกคิดเลยสักนิดว่าทำไมถึงไม่มีใครวิ่งตาม ทางมันช่างโล่งเป็นใจ บริเวณรอบคฤหาสน์ก็เงียบเชียบผิดวิสัย ที่แท้การวิ่งหนีของเธออยู่ในสายตาเขาตลอด เหมือนวิ่งวนอยู่บนฝ่ามือมารที่ไม่มีทางรอดพ้น
เป็นอีกครั้งที่เธอทรุดนั่งลงกอดเข่าร้องไห้เพียงลำพัง ความหวังว่าจะได้กลับบ้าน ได้ใช้ชีวิตเฉกเช่นคนปกติคงไม่มีแล้ว ฝ่ามือลูบไล้รอยแผลโดนมีดกรีดเป็นทางยาวจนแห้งกรัง ช่วงปลายแผลมีเลือดซึมออกอยู่บ้าง แต่เจ็บปวดภายนอกคงไม่ทรมานเท่าความหวาดกลัวในใจ ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ไหน จะเจออะไรอีกบ้าง และจะตายเมื่อไหร่ ไม่รู้เลยจริงๆ
“...!”
มือถือสั่นครืดในกระเป๋ากางเกง ดารัณรีบควักมันขึ้นมาอย่างมีหวัง สารภาพเลยว่าในใจเฝ้ารอแค่ธีร์เทพ แต่หน้าจอที่ขึ้นชื่อและภาพใบหน้าของน้ารินทำเธอต้องยกมือกุมขมับชั่วครู่
‘ถือเป็นเรื่องดีที่ฉันยังให้เธอใช้มือถือได้’
‘และมีแต่คนฉลาดเท่านั้นที่ควรรู้ว่าจะใช้งานมันอย่างไรไม่ให้ตนเองอายุสั้น’
คำขู่นั้น มันทำให้เธอรู้สึกว่ามีไปก็เหมือนไม่มี
“ค่ะน้า รัณขอโทษจริงๆนะคะที่ไม่ได้โทรไปลางานล่วงหน้า หาคนอื่นทำแทนก่อนได้เลยค่ะ” เธอกำลังหมายถึงงานเสิร์ฟในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านถนนข้าวสาร โดยมีน้ารินหรือรินซี่น้องสาวแท้ๆของแม่เธอเป็นเจ้าของร้านอาหารกึ่งผับแห่งนั้นร่วมกับน้าฌอร์นสามีชาวต่างชาติ ดารัณเก่งภาษาโดยไม่ต้องเรียนพิเศษราคาแพงก็เพราะทำงานเสิร์ฟตั้งแต่มัธยมต้นมาจนถึงตอนนี้ เธอจึงต่อยอดเรื่องทักษะการสนทนากับลูกค้ามาเรียนเอกด้านภาษาอังกฤษ
“ค่ะน้าริน รัณฝากบอกพ่อแม่ด้วยนะคะว่ารัณสบายดีแต่แค่ช่วงนี้ยุ่งๆหน่อยเลยไม่มีเวลาโทรไปหาเลยค่ะ”
เธอนั่งขัดสมาธิถอนหายใจพรืดใหญ่ เมื่อน้ำเสียงของเธอไม่โดนน้าสาวช่างสังเกตสังกาจับโกหกเธอได้
“ใครโทรมา!”
“อุ๊ย”
ร่างเล็กสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงเขา เงาทะมึนยืนพิงผนังด้านตรงข้าม ไอ้โหดนี่เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“ถ้าโง่แบบเธอฉันคงตายไปนานแล้ว”
เธอมองประตูที่เปิดออกกว้างแสดงให้เห็นว่าทักษะความหูไวตาไวของเธอช่างอ่อนด้อยเหลือเกิน แต่ช่างเถอะ เธอไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักฆ่านี่นา ขอแค่รอดพ้นจากขุมนรกแห่งนี้ก็พอเถอะ
“น้าฉันโทรมาค่ะ และฉันไม่ได้บอกอะไรด้วย” เธออธิบายเสียงอ่อนพร้อมยื่นมือถือให้เขาเช็คด้วยความบริสุทธิ์ใจ เรื่องอันตรายแบบนี้เธอไม่มีทางดึงคนที่รักเข้ามาเดือดร้อนด้วยแน่นอน
แต่มือเล็กสั่นเทายื่นมือถือค้างเก้อ เพราะเขาหาได้ใส่ใจจะรับมันมาตรวจสอบบ้าบออะไรหรอก สิ่งที่เขาสนใจอยู่ตอนนี้มีแค่กระบอกปืนในมือและกำลังอัดกระสุนเข้าเต็มรังเพลิง เสียงของมันช่างชวนเธอขนลุกจนมือไม้อ่อนยวบแทบทำมือถือตนเองหล่น
“เอาล่ะแม่สก๊อย เธอช่วยเล่าเรื่องราวคืนนั้นให้ฉันฟังหน่อย ขอแบบตรงๆนะ เธอรู้ใช่มั้ย ว่าถ้าโกหกจะเกิดอะไร”
โลอาห์นเดินเข้ามาทรุดกายนั่งยองๆตรงหน้า เขาเบนปลายกระบอกไปด้านหลัง
ปัง!
“ว้ายยย”
เธอยกสองมือขึ้นปิดหู หวีดร้องเสียงแหลม
“นี่แค่ขู่”
ฝ่ามือหนาปิดปากเธอแน่น
จึก!
ดารัณครวญในลำคออย่างทรมานเมื่อความร้อนจากปลายกระบอกปืนนาบผ่านกางเกงลงผิวเนื้อจนได้กลิ่นไหม้ มันแสบเหมือนถูกถ่านไฟร้อนๆ นี่สินะรสชาติของช้อยส์ข้อสอง
“ซี้ดดดด” ใบหน้าเล็กบิดเบี้ยวพลางส่ายไปมา
“เอาล่ะ ก่อนอื่นเลย” เขายกปืนออก “คนที่ตายคือน้องชายฉัน เค้าชื่อคูซมารส์”
ลดฝ่ามือจากริมฝีปากเล็กวางแขนค้างไว้บนหัวเข่าตนเอง ใบหน้าคมคายยื่นเข้าใกล้ใบหน้าเล็กซีดเจื่อนเพื่อรอฟังเรื่องราวในเหตุการณ์คืนนั้น
เธอพยักหน้ารับด้วยอาการลนลาน
“ตอนที่เธอเจอคูซมารส์เป็นคนแรก เธอเห็นบอดี้การ์ดเค้าไหม?”
“ไม่ค่ะ ไม่มี เค้านั่งอยู่คนเดียว เค้าเมามากด้วยค่ะ เมาเสียจนขนาดสติคิดจะข่มขืนฉัน”
ควั่บ
“แค่กๆ” ลำคอเล็กโดนรวบ เธอผิดอะไรอีก แค่พูดตามจริง
“คูซมารส์ไม่มีทางพิศวาสคนอย่างเธอ”
เขาลดสายตาลงมองสารรูปเธออย่างดูแคลน
“แค่กๆ อื้อ”
มือเล็กเอื้อมไปจับท่อนแขนเขาเมื่อใกล้จะขาดใจตายรอมร่อ ที่สุดเขาจึงยอมคลายออก
“ฉันพูดจริง”
หมั่บ
เขาบีบลำคอเธอซ้ำ รอบนี้รุนแรงขึ้นอีก ร่างบางดิ้นพล่านกำปั้นเล็กทุบตัวเขาหนุบหนับ โลอาห์นหงุดหงิดจนออกแรงน้อยนิดดันร่างเล็กลอยหวือขึ้นไปยืนชิดผนังอีกฝั่ง ใบหน้าคมโน้มลงจดจ้องใบหน้าเรียวเล็ก เขาจ้องเธอใกล้เพียงคืบจนเธอหายใจติดขัด
“มองให้ตายยังไงก็ยังหาความน่าพิศวาสไม่เจอ”
คว้างงง
“ว้ายยย”
มือใหญ่สอดเข้าไปในกางเกงจนขาเธอทรุดนั่งคุกเข่า
“หืม?”
เขาบีบหนั่นเนินเนื้อและพบกับสิ่งที่น่าขยะแขยงที่สุด
“เลือด?!”
โลอาห์นรีบดึงมือออก ถึงความมืดจะไม่สามารถเห็นอะไรได้ชัด แต่กลิ่นเลือดคาวคลุ้งทั่วฝ่ามือช่างอธิบายได้ดี
“ฟู่ววว”
ดารัณแอบถอนหายใจโล่งอก ขอบคุณประจำเดือน
“ของเหม็นเน่า”
เขาพ่นวาจาร้ายกาจพร้อมใช้เสื้อเธอเช็ดมือ เธอหันหน้าออกด้านข้างในใจก่นด่าเขามากมายหลายประโยคด้วยความเคียดแค้น
“ฉันให้โอกาสเธอพูดความจริงอีกรอบ” ฝ่ามือที่เช็ดคราบเลือดเสร็จเลื่อนขึ้นมาลูบคลำกรอบหน้า ลากมาวนเวียนริมฝีปากบาง “ว่าทำไมไอ้พวกนักเลงกระจอกผัวเธอถึงได้รุมทำร้ายน้องชายฉัน”
“ฮึก..ฉันพูดจริง น้องชายคุณเค้าจะข่มขืนชะ....อื้อ!”
ดวงตาคู่หวานเบิกถลน กายอ่อนแรงดิ้นพล่าน มือไม้ออกแรงดันหน้าท้องแบนแข็งเป็นหินให้ออกห่าง แต่แรงเธอไม่อาจทัดทานได้ไหว
พรวดด
“อื้อ”
คราวนี้ ท่อนบุรุษกายแข็งใหญ่พรวดเข้าริมฝีปากเธอจนสุดลำ ฝ่ามือใหญ่จับศีรษะเล็กเอาไว้มั่นก่อนกดส่ายสะโพกอัดเข้าโพรงปากเล็กเป็นจังหวะเร็ว
“ซี้ดดดด” เขาหลุดครางเสียงต่ำออกมา
“ฮึก”
คนถูกทารุณทำนบน้ำตาไหลพรากลงมาอย่างสุดจะกลั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสกับความเป็นชายชนิดไม่เต็มใจ ถึงต่อให้เต็มใจและมีทางเลือก ก็ขอให้เป็นแค่ธีร์เทพคนรักของเธอเถอะ ส่วนไอ้นี่ แม้แต่ชื่อของมันเธอยังไม่รู้
“ปากดีแบบนี้ต้องหาอะไรอุด ว่ามั้ย”
“ฮึก”
เธอก่นด่าเสียงอู้อี้ในลำคอ ใบหน้าเล็กแหงนขึ้นตามแรงดึงทึ้งผม มันทรมาน และอยากจะกลั้นใจตายมันตรงนี้
เฮนรี่ยืนทื่อ แม้ได้ยินเสียงริมฝีปากกระทบท่อนเนื้อเป็นจังหวะ เขาไม่กล้าหันไปมองการกระทำของเจ้านายกับเชลยสาวด้านใน เพราะหน้าที่เขาคือยืนเฝ้าประตูหน้าห้องขัง ห้ามทำอะไรมากไปกว่านั้น
ฝ่ามือหยาบค่อยคลายความรุนแรงเปลี่ยนเป็นลูบไล้ศีรษะเล็กขณะทอดมองดวงตากลมสวยเปื้อนน้ำตา
“ใกล้แตกแล้ว” เผลอครางเสียงอ่อนโยนให้เธอรับฟัง สะโพกอัดกระเด้าจังหวะเร็วจนเธอแทบหายใจหายคอไม่ทัน ดวงตาเหลือกลาน ริมฝีปากฉีกค้าง
สวบๆ
“อื้อ”
“อ๊าส์”
น้ำกามขาวขุ่นพ่นใส่ในปากและเลอะแก้มเธอ ในที่สุด ความทรมานนี้ สิ้นสุดลงสักที
เฮือกก
ร่างเล็กอ่อนฮวบลงนอนกับพื้นอย่างโรยแรง
โลอาห์นรีบจัดแจงร่างกายตนเองก่อนรวบร่างเล็กขึ้นพาดไหล่พาเธอไปพักในห้องที่เขาตั้งใจจะเตรียมไว้ให้แต่แรก แต่หล่อนดันวิ่งหนีออกไปเสียก่อน
มาเฟียหนุ่มนั่งสูบบุหรี่ขณะเฝ้ามองดารัณหลับไม่รู้เรื่องบนเตียงนุ่ม นึกถึงบทสนทนาที่ไม่คิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเขากับคูซมารส์
‘ผมอยากไปผ่อนคลายสมอง ดีขึ้นเมื่อไหร่เดี๋ยวจะกลับเอง’
‘แล้วแกไปผ่อนคลายที่ไหนล่ะ?’
ตึ๊ด ตึ๊ด ตึ๊ด
ไม่มีคำตอบ
“ไหนแกว่าจะกลับมา ทำไมมาแค่ร่าง”
ดวงตาคมเข้มแดงก่ำขึ้นเมื่อนึกถึงน้องชายที่จากไปไม่มีวันกลับ
สงสัยตัวเองว่าทำไมไม่กำจัดนังนี่ไปเสียแต่แรก จะเก็บหล่อนมานอนหลับสบายที่นี่ทำไมกัน?
“หรือจะยิงแม่งตอนนี้เลย?” เขาพึมพำอยู่ลำพัง
นึกถึงคำนั้นของเธอแล้วต้องแค่นหัวเราะในใจ น้องชายเขาน่ะเหรอ จะลวนลามผู้หญิงแบบแม่นี่ หล่อนตั้งใจปกปิดความชั่วของแฟนหล่อนต่างหากล่ะ