“ฉันไม่หย่า อย่าฝันไปเลย”
“ทำไมล่ะคะ เราอยู่ด้วยกันก็ไม่มีความสุข”
“ไม่ทำไม ก็ฉันแค่ไม่อยากหย่า”
“แต่ใสจะหย่า ใสจะฟ้องหย่า”
“เธอกล้าเหรอสดใส ฟ้องหย่าฉันมันต้องใช้เงิน เธอมีเงินเหรอ”
“ทนายอาสาเยอะแยะ มันต้องมีสักคนที่ช่วยใสได้”
“เธออยากสู้กับทนายตระกูลฉันจริง ๆ เหรอ คิดให้ดี ๆ นะสดใส” พอได้ยินแบบนั้นหญิงสาวก็หยุดคิด จริง ๆ แล้วการต่อสู้กับตระกูลแอมเมอร์สันไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก พวกเขาร่ำรวยมากขนาดไหนเธอเองก็รู้ดี
คนจน ๆ จะไปสู้คนรวย ๆ ได้อย่างไร สู้ให้ออร์ดี้เอ่ยปากขอหย่าเองจะดีกว่า
คิดได้อย่างนั้นหญิงสาวจึงเชิดคอตั้งก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่ยอมแพ้ ไม่อยากหย่าก็ไม่ต้องหย่า แต่เขาจะไม่ได้เจอเธอในเวอร์ชันแบบนี้อีกแน่นอน นางมารร้ายสดใสได้ตื่นขึ้นมาแล้ว
“ก็ได้ นับตั้งแต่นี้ต่อไป ตาต่อตาฟันต่อฟัน ในเมื่อคุณออไม่ยอมหย่า ใสก็จะทำให้คุณออทนใสไม่ไหวแล้วขอหย่าเอง คอยดูนะ คุณออต้องอ้อนวอนขอร้องใสให้หย่าแทบไม่ทัน”
แค่คิดก็สนุก ใบหน้าของหญิงสาวจึงเปื้อนยิ้มราวกับผู้มีชัย นาทีนี้เธอจะไม่ยอมแพ้ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าสามีอีก เป็นไงเป็นกัน สดใสคนแสนดีได้ตายไปแล้ว แต่ออร์ดี้มีเหรอจะกลัว
“ฉันจะรอวันนั้น พรนับพัน การแก้แค้นจะเริ่มตั้งแต่นี้เป็นต้นไป” หนึ่งในสาเหตุที่ไม่ยอมหย่าเพราะอยากแก้แค้นเมีย ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือไม่อยากเสียหน้า ไม่มีผู้ชายคนไหนในตระกูลโดนภรรยาขอหย่ามาก่อน เขาจะกลายเป็นแกะดำของตระกูลไม่ได้ ถ้าจะมีการหย่าร้างเกิดขึ้นมันต้องเกิดจากที่เขาต้องการ ไม่ใช่เธอ
พรนับพันถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก ก่อนจะเอียงคอมองหน้าผู้ชายใจแคบด้วยความสงสัย สามีอยากแก้แค้นเธอเรื่องอะไร ไม่เห็นจะรู้เลยว่าไปล่วงเกินออร์ดี้ตอนไหน
สองปีที่แต่งงานกันมา เธอแทบจะเข้าไปยุ่งเรื่องของเขานับครั้งได้ ก็มีบ้างตามประสาภรรยา เช่นเรื่องเมื่อวันก่อนที่เธอไปตามเขาถึงสถานบันเทิง แต่เรื่องแค่นั้นมันต้องแก้แค้นกันเลยหรือ ไร้เหตุผลเกินไปไหม
“แก้แค้นอะไร ใสไม่เข้าใจ”
“แก้แค้นที่เธอทำให้ฉันหมดอิสรภาพตั้งสองปีไง”
พอเขาเฉลย เธอก็ถึงบางอ้อที่แท้แค้นเพราะเรื่องนี้เอง ออร์ดี้คงรอเวลาแก้แค้นมานานแล้วสินะ พอมีโอกาสถึงได้ลงมือ หญิงสาวถึงกับต้องถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ตัวเองไปหลงรักผู้ชายแบบนี้ได้อย่างไร ปัญญาอ่อนจริง ๆ
“เฮ้อ อยากทำอะไรก็เชิญ ตามสบายเลย เชอะ”
“แต่ฉันจะหย่าให้เธอนะ”
“...”
ได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวถึงกับตาโตดีใจแต่แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อสามีกระซิบบอกว่า เขาจะยอมหย่าก็ต่อเมื่อแก้แค้นสำเร็จ เธอทำให้เขาทนทุกข์ทรมานมานานถึงสองปี เขาจะทำให้เธอทุกข์ทรมานกว่าหลายเท่า
“หลังออกจากโรงพยาบาล ฉันจะเริ่มแก้แค้นเธอ เตรียมตัวแล้วกัน” คนป่วยไม่โต้ตอบเพราะยังตกใจไม่หายกับความเอาแต่ใจของสามี
อดโทษตัวเองไม่ได้จริง ๆ ที่ไปหลงรักผู้ชายร้าย ๆ อย่างออร์ดี้ บนโลกใบนี้จะมีผู้หญิงคนไหนโง่เท่าเธออีกไหม
แต่ไม่เป็นไร เพราะนับจากวันนี้ไปจะไม่มีสดใสคนเดิมอีกแล้ว ร้ายมาร้ายกลับ ไม่โกง มีหนึ่งสมองสองมือเหมือนกันทำไมเธอต้องกลัว แล้วเจอกันคุณสามีที่รัก
หญิงสาวคิดในใจอย่างร้ายกาจ ตัวเธอไม่ใช่นางเอกผู้อ่อนแอ ไม่จำเป็นต้องยอมให้สามีโขกสับ ถ้าเขาร้ายมาเธอจะร้ายกลับสองเท่า คอยดูก็แล้วกัน เธอจะร้ายจนเขาต้องร้องขอชีวิตและขอหย่า หัวเราะทีหลังดังกว่า
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ หึ ๆ ๆ ๆ”
“เธอหัวเราะแบบนั้นทำไมสดใส”
“เรื่องของใส คุณออไม่เกี่ยว”
ช่วงสาย ๆ มารดาของชายหนุ่มมาดูแลลูกสะใภ้ มาพร้อมกับลูกสาวคนโตอย่าง คูเปอร์ แอมเมอร์สัน แต่บรรยากาศในห้องพักคนป่วยดูอึมครึมประหลาด ๆ ทำให้คนที่มาเยี่ยมทำตัวไม่ถูก และแอบสงสัยว่าทำไมออร์ดี้ถึงไม่ยอมไปทำงาน ทั้ง ๆ ที่บอกให้มารดามาอยู่เป็นเพื่อนเมียเพราะตัวเองจะไปทำงานแต่ไม่ไป
“นี่เจ้าออ ทำไมเธอไม่ไปทำงาน เธอบอกให้แม่มาอยู่เป็นเพื่อนน้องใส ไม่ใช่เพราะจะไปทำงานเหรอ”
พี่สาวถามก่อนจะขมวดคิ้วแล้วใช้สายตาสงสัยมองน้องชายตั้งแต่หัวจดเท้า เธอรู้สึกว่าวันนี้สีหน้าออร์ดี้ไม่ค่อยดีเท่าไร เหมือนกำลังโกรธใครอย่างไรอย่างนั้น
“นั่นน่ะสิลูก ไปทำงานก็ได้ เดี๋ยวแม่กับพี่เปอร์อยู่เป็นเพื่อนหนูใสเอง” คนเป็นแม่สำทับคำพูดของลูกสาวคนโต อดสงสัยไม่ได้เหมือนกันทำไมลูกชายที่รักงานมากถึงยังไม่ไปทำงาน
ออร์ดี้มองหน้าพี่สาวกับแม่ก่อนจะตอบตามที่คิด ตอนแรกเขาก็อยากไปทำงานอยู่หรอก แต่คิดไปคิดมา เมียป่วยขนาดนี้จะไปทำงานก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร เจ้าของบริษัทลาพักสักวันสองวัน บริษัทคงไม่เป็นอะไร
“ผมคิดว่า สามีดูแลภรรยาเองจะดีกว่า เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าผมเป็นสามีใจร้าย”
“จริงเหรอ ทำไมพี่รู้สึกเหมือนไม่ใช่แบบนั้น”
“จริงสิครับคุณพี่สาว ผมจะโกหกทำไมกัน”
“ก็แล้วแต่ ถ้าเป็นแบบนั้นพี่กับแม่จะได้กลับตอนเที่ยงเลย”
“แล้วหมอบอกว่ายังไงบ้าง หมอให้หนูใสกลับบ้านวันไหน แม่จะได้มาดูแลแทนลูก”
“ตอนแรกจะให้กลับบ้านพรุ่งนี้ แต่ก่อนที่แม่กับพี่เปอร์จะมา สดใสปวดท้องอีกแล้ว หมอเลยขอดูอาการก่อนครับแม่ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมดูแลเอง”
“แสดงว่าสดใสตื่นแล้ว ก่อนที่แม่กับพี่จะมาหาใช่ไหม” คูเปอร์หรี่ตาถามน้องชาย สายขนาดนี้แล้วทำไมน้องสะใภ้ยังไม่ตื่นอีก มันต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่ ความรู้สึกของเธอบอกแบบนั้น
คูเปอร์คิดถูกแล้ว หลังจากสองผัวเมียมีปากเสียงกันเสร็จ อยู่ ๆ พรนับพันก็ปวดท้องขึ้นมาอีก หมอจึงฉีดยาระงับอาการปวด เพิ่งจะหลับไปได้ไม่นานก่อนสองแม่ลูกจะมาถึง
“ครับ เราทะเลาะกันนิดหน่อย อาการปวดท้องกำเริบขึ้นมาเลย”
“ทะเลาะเรื่องอะไรกัน เมียป่วยขนาดนี้ ออยังหาเรื่องทะเลาะอีกเหรอลูก”
“ลูกสะใภ้คนดีของแม่ต่างหากที่เป็นคนเริ่ม ผมอยู่ของผมดี ๆ ก็มาขอหย่า”
“อะไรนะ!” / “ขอหย่า!”
สองแม่ลูกเอ่ยพร้อมกันด้วยความตกใจ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แล้วถึงขนาดขอหย่า แสดงว่าพรนับพันคงจะหมดความอดทนกับออร์ดี้
เรื่องความสัมพันธ์ของพรนับพันกับออร์ดี้ ใช่ว่าคนในบ้านจะไม่รู้ แต่ทุกคนไม่อยากยุ่งเพราะถือว่าเป็นเรื่องของคนสองคน
“ครับ สดใสขอหย่า แต่ผมไม่ยอมหรอก เธอมีสิทธิ์อะไรมาขอหย่า ผมไม่หย่าเด็ดขาด”
“ถ้าพี่เป็นสดใส พี่หย่าไปนานแล้ว อยู่ทำไมกับคนที่ไม่รักตัวเอง ไปหาผัวใหม่ดีกว่า”
“แม่ ดูพี่เปอร์สิ ไม่เข้าข้างน้องตัวเองเลย”
“แม่ก็เห็นด้วยกับพี่เปอร์นะเจ้าออ ถ้าไม่รักก็หย่าเถอะ เฮ้อ แม่ผิดเองที่บังคับลูกสองคนให้แต่งงานกัน”
“แม่ไม่ผิด สดใสต่างหากที่ผิด คนที่จะขอหย่าได้มีแต่ผมคนเดียวเท่านั้น สดใสไม่มีสิทธิ์”
“เอาเถอะลูก จะทำอะไรก็เรื่องของลูก แต่อย่าลืม หนูใสก็เป็นลูกของแม่เหมือนกัน”
“คิดดี ๆ นะออ ที่เธอไม่ยอมหย่าเป็นเพราะกลัวเสียหน้าหรือเป็นเพราะรัก”
“อย่างผมเนี่ยนะจะไปรักผู้หญิงร้าย ๆ แบบสดใส ฝันไปถึงชาติหน้าเถอะพี่เปอร์”
“แล้วพี่จะคอยดู ร้อยทั้งร้อยคนที่พูดแบบนี้ รักทั้งนั้นแหละแต่ไม่ยอมรับความจริง”
“ผมคนจริง รักก็บอกว่ารัก ไม่รักก็บอกไม่รัก”
มารดาของชายหนุ่มเองก็รู้สึกหมั่นไส้ลูกชายไม่น้อย แต่ไม่อยากยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวชีวิตคู่ของลูกอีกแล้ว แค่บังคับให้ออร์ดี้รับผิดชอบพรนับพันด้วยการแต่งงานมันก็มากเกินพอ แต่ถ้าวันใดที่ลูกสะใภ้ต้องการความช่วยเหลือ ตัวท่านเองพร้อมยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือรวมถึงการหย่า ขอแค่พรนับพันเอ่ยปากเท่านั้น แต่ใจจริงก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะชอบลูกสะใภ้คนนี้มาก
“แสดงว่าแม่อดอุ้มหลานแล้วใช่ไหม”
“แม่รออุ้มหลานของพี่เปอร์กับไอ้เช่ดีกว่า ของผมอีกนาน”
“แล้วพี่จะคอยดู ถ้าเมียเธอท้องเมื่อไหร่ พี่จะขำคนแรกเลย”
“มองปากของผมนะครับพี่เปอร์ ไม่มีทาง”