อัยวากลับมานั่งที่โต๊ะของเธอ สายตามองไปยังเจ้านายที่นั่งร่วมโต๊ะกับคนสำคัญของอัครากรุ๊ปและแขกวีวีไอพี ปรเมศวร์หันมามองเลิกคิ้วนิด ๆ แล้วยิ้มให้ เลขาสาวยิ้มตอบหางตาเหลือบเห็นร่างสูงผึ่งผายที่เดินกลับเข้ามานั่งโต๊ะประธานข้างคู่หมั้นของเขา แต่ก็เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นก่อนจะเบนสายตาไปยังการแสดงบนเวที
ปรเมศวร์ลุกเดินออกจากโต๊ะใหญ่เพื่อไปพูดคุยกับแขกที่มาร่วมงาน อัยวาขยับลุกขึ้นทันทีและเดินตามเจ้านายไปโดยทิ้งระยะห่างประมาณสามก้าว จนกระทั่งเจ้านายหนุ่มพูดคุยกับแขกครบทุกกลุ่มซึ่งใช้เวลานานพอสมควรเขาก็หันมาถาม
“คุณได้ทานอะไรหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วค่ะบอสไม่ต้องห่วง”
ในระหว่างที่ปรเมศวร์กำลังพูดคุยอยู่กับเลขาสาวของเขา แก้วแชมเปญในมือของอินทวิชญ์ก็ถูกบีบอย่างแรงจากความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ภายในจนแก้วแตกเศษแก้วบาดมือ
“ว้าย! พี่อวิ๋น”
นิ่มอนงค์ร้องเสียงดังอย่างตกใจเมื่อเห็นเลือดสีแดงสดไหลอาบมือคนรัก ทำเอาทุกคนในโต๊ะพลอยตกใจไปด้วย
“ไม่เป็นไรครับ ผมโอเค ขอโทษที่ทำให้เสียบรรยากาศ”
เขากล่าวคำขอโทษพร้อมกับลุกออกจากโต๊ะไปโดยมีนิ่มอนงค์เดินตามออกไปอย่างห่วงใย
“พี่อวิ๋น ไปหมอมั้ยคะ”
“ไม่ต้องครับ พี่ไม่เป็นไรน้องนิ่มกลับเข้าไปในงานเถอะ” แต่นิ่มอนงค์ยังคงไม่ยอมไป สีหน้าเป็นห่วงคู่หมั้นหนุ่มเต็มที่
“ที่นี่มีห้องพยาบาลแล้วก็มีพยาบาลที่มีใบรับรองประจำอยู่ เรื่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นเขาพร้อมอยู่แล้ว น้องนิ่มยังมีแขกผู้ใหญ่ที่ต้องรับรองอยู่นะครับ เดี๋ยวจะถูกตำหนิได้ว่าเสียมารยาท”
“แต่...”
“เชื่อพี่นะครับ”
เมื่อปรเมศวร์กลับมานั่งที่โต๊ะเดิมก็ไม่เห็นหลานสาวกับคู่หมั้นแล้วหากเขาก็ไม่ได้ถามถึงเพราะมีเรื่องอื่นให้ต้องพูดคุยอยู่ต่อเนื่อง บรรยากาศในงานดำเนินไปใกล้ถึงการแสดงชุดสุดท้าย แขกในงานเริ่มทยอยเดินทางกลับ ชายหนุ่มจึงเดินไปบอกเลขาคนเก่งของเขาว่า
“คุณกลับได้เลยนะ ไม่ต้องรอผม”
อัยวากำลังจะตอบว่า หน้าที่ของเธอยังไม่เสร็จเพราะเธอต้องรอจนกว่าเจ้านายเสร็จงาน
“กลับไปเถอะนี่เป็นคำสั่ง”
“ค่ะ” หากเป็นคำสั่งเธอก็ต้องปฏิบัติตาม
“ดี งั้นเจอกันเช้าวันจันทร์ครับ”
“ค่ะบอส”
อัยวาขับรถส่วนตัวกลับคอนโดมิเนียมที่เธออาศัย ความรู้สึกหนักอึ้งในวันนี้ไม่ใช่ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานแต่เป็นการได้พบพานกับเขาอีกครั้งอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน แถมยังมาพร้อมกับคำขู่อาฆาตพยาบาทเธอซึ่งอัยวาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามันไม่ใช่แค่คำขู่!
อินทวิชญ์กลับออกจากงานเลี้ยงตั้งแต่งานยังไม่เลิก เขาให้พยาบาลประจำห้องพยาบาลของโรงแรมช่วยทำแผลให้เสร็จแล้วก็ขับรถกลับคอนโดที่พักเลยโดยไม่ได้กลับเข้าไปในงานอีกครั้ง แต่ส่งข้อความไปบอกเธอว่าไปส่งเธอกลับบ้านไม่ได้แล้วเพราะมือข้างที่เจ็บทำให้ขับรถไม่สะดวก นิ่มอนงค์กดโทรศัพท์หาเขาทันทีด้วยความเป็นห่วง
‘พี่ไม่อยากเสี่ยงให้น้องนิ่มมีอันตรายครับ’ เขาบอกกับเธอว่าเพราะสภาพมือที่บาดเจ็บไม่อาจทำหน้าที่ได้เต็มร้อย ‘พี่ห่วงความปลอดภัยของน้องนิ่ม แค่รู้ว่ามีความเสี่ยงเล็กน้อยพี่ก็รู้สึกไม่สบายใจแล้วครับ’
‘ไม่เป็นไรเลยค่ะ พี่อวิ๋น นิ่มเรียกให้คนขับรถที่บ้านเอารถมารับได้ค่ะ’ นิ่มอนงค์เป็นปลื้มที่คู่หมั้นหนุ่มช่างใส่ใจทะนุถนอมเธอ
‘พี่อวิ๋นกลับไปพักผ่อนนะคะ แล้วค่อยเจอกันค่ะ’
‘ครับ แล้วเจอกันครับ’
อินทวิชญ์กลับถึงห้องก็นั่งเปิดขวดเหล้ายกดื่มเพียว ๆ รู้สึกสะใจกว่าการนั่งจิบทีละนิดอย่างรักษามารยาทต่อหน้าคนเหล่านั้น มือหนายกขวดเหล้าเข้ม ๆ กระดกดื่มแม้จะมีส่วนหนึ่งที่ไหลรดร่างกายก็ไม่เสียดายเพราะในบัญชีมียอดเงินมหาศาลที่จะซื้อมาอาบตัวเองเมื่อไหร่ก็ได้ ดวงตาคมสองชั้นเล็ก ๆ หลบในจ้องมองไปยังผนังสีขาวก่อนแสยะยิ้มออกมาอย่างนึกสมเพชตัวเองอยู่ไม่คลาย
^
^
^
***โปรดติดตามตอนต่อไป และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะค้า