กดขี่ทางใจ…4/2

911 คำ
“อยู่คุยกันก่อนซี” ร่างสูงก้าวเข้ามาหยุดขวางทางเธอในระยะประชิด จนหญิงสาวเกือบชนเข้ากับเขา ดวงตากลมถึงกับเบิกโต “ฉันจะรีบกลับเข้าไปในงานค่ะ กรุณาหลีกทางให้ด้วย” “หึ รีบมากงั้นเหรอ ได้!” เสียงต่ำลอดไรฟันออกมา ตวัดสายตามองสิ่งรอบตัวแวบเดียวมือหนาก็บีบต้นแขนเรียวกระชากจนร่างบางปลิวติดมือตามเขาไป “นี่คุณ ฉันจะร้องให้คนช่วยนะ” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบด้วยซ้ำเขาก็กระชากประตูบานหนึ่งที่เขียนป้ายติดไว้ว่า “STAFF ONLY” แล้วผลักเธอเข้าไปข้างใน กดล็อกประตูทันที อัยวามีสีหน้าตื่นกลัวพยายามมองหาทางออก แต่เมื่อจะกระโจนเข้าไปแขนแกร่งก็ยื่นออกมาขวาง “ต้องการอะไร เราไม่มีเรื่องอะไรต้องคุยกันอีกแล้วนะ” ดวงตาสีเข้มวาวโรจน์หากมองลึกเข้าไปจะเห็นดวงไฟลุกโชนอยู่ และมันไม่ใช่ไฟเสน่หาแบบที่ครั้งหนึ่งเคยมี “หาทางปีนขึ้นที่สูงเก่งนี่ จากเลขาอีกไม่นานก็คงได้พ่วงตำแหน่งอื่น” “พูดอะไรของคุณไม่ทราบ...” คนถูกค่อนแขวะนิ่วหน้าไม่เข้าใจในทีแรก แต่วินาทีต่อมาเธอก็ตีความคำพูดของเขาได้กระจ่าง “อ๋อ ถ้าคุณจะหมายถึงเรื่องของฉันกับคุณปรเมศวร์ นั่นก็ไม่แน่ ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต” “หึ เรื่องของอนาคตงั้นเหรอ ผู้หญิงอย่างเธอคงกระเสือกกระสนไขว่คว้าหาแต่อนาคตที่สุขสบายให้ตัวเองสินะ” “ใครบ้างที่ไม่คิดจะหาความสุขสบายให้ตัวเอง? ตอนนี้คุณเองก็ออกจะมีชีวิตที่สุขสบาย ฉันยินดีกับคุณด้วยมาก ๆ” “ใช่ ตอนนี้ฉันมีชีวิตที่ดี ดีกว่าเมื่อก่อนมาก ๆต่างกันยังกับหน้ามือกับหลังเท้า” ประโยคุดท้ายเขาจงใจกระแทกคำพูดใส่หน้าเธอ ย้ำให้นึกถึงสิ่งที่เขาเองก็... ไม่ลืมมัน “แล้วคุณจะเอายังไงกับฉันอีก มันคงไม่เหมาะแน่ถ้าใครรู้ใครเห็นว่าคุณลากฉันเข้ามาอยู่ในห้องนี้” อัยวาขู่ฟ่อ อย่างน้อยเขาควรจะเกรงใจคู่หมั้นคนสวยของเขาบ้าง แต่ตรงกันข้ามเขายังมีสีหน้าที่ไม่รู้เดือดรู้ร้อนในสิ่งที่เธอพูด “ใครที่นี่ก็รู้จักฉันทั้งนั้น ฉันจะทำอะไรก็ได้ แม้แต่จะบีบคอใครสักคนให้ตายอยู่ในห้องนี้แล้วโยนศพลงไปตามท่อก็ยังไม่มีใครกล้าเปิดปากเลย” สิ่งที่คับคั่งอยู่ในใจอัดแน่นพร้อมระเบิดออกมา อัยวามองเข้าไปในตาของเขา มันเหมือนมีเงาทมึนของปีศาจร้ายอยู่ในนั้น ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว เขาไม่ใช่ชายหนุ่มคนนั้นที่เธอรู้จักอีกต่อไปแล้ว หญิงสาวพยายามข่มความกลัวทำใจกล้าโต้ตอบออกไป เธอยังมีสิ่งสำคัญที่ทำให้เธอตายไม่ได้ “ฉันไม่เชื่อว่าคุณจะทำอย่างนั้นกับผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ ถ้าทำคุณก็ไม่ควรถูกเรียกว่าคน!” ‘หนอย ไอ้ผู้ชายเฮงซวยทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้มันไม่สมควรเรียกว่าคน ต้องเรียกมันว่าสัตว์!’ ครั้งนั้นที่อัยวานั่งดูซีรีส์กับผู้ชายคนหนึ่งบนโซฟา ถึงฉากที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ถูกรังแกเธอทนดูไม่ได้จึงตะโกนด่ามันออกไปอย่างอินจัด “หึ ยังปากเก่งเหมือนเดิม” “ปล่อยฉันออกไปเถอะค่ะ เราไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว” “เธอคิดว่าฉันอยากกลับไปเกี่ยวนักเหรอ สำคัญตัวผิดไปหน่อยแล้วมั้ย” “แล้วเรื่องอะไรที่ต้องพาฉันเข้ามาอยู่ในนี้ด้วย” มุมปากหยักยกยิ้มเหี้ยม ดันร่างของเธอให้ถอยหลังไปจนติดผนัง ครั้นหญิงสาวจะหาทางออกเขาก็ยกมือขึ้นเป็นการกักขัง “แค่จะบอกว่า ต่อจากนี้อย่าหวังว่าชีวิตของเธอจะมีความสุขสมหวัง ต่อจากนี้จะเป็นฉันที่ทำให้เธอต้องทุกข์ทรมาน” “นี่คุณยังไม่ปล่อยวางมันอีกเหรอ ทำไมไม่ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับคนที่คุณรัก” เธอครางถาม “คนอย่างเธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนฉัน แล้วก็จะบอกให้ชัด ๆ ว่าชีวิตฉันตอนนี้มีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่กับเธอเป็นร้อยเท่าพันเท่า แค่ว่าฉันเห็นเธอแล้วฉันอยากหาอะไรสนุก ๆ ทำเล่น” สายตาที่มองเธอเหมือนกับนกอินทรีที่กำลังจ้องลูกเสือชีตาห์ “คุณคิดจะทำอะไร” หึ มีเสียงเคาะประตูจากด้านนอก แขนแกร่งข้างหนึ่งลดลงเปิดทางให้หญิงสาวได้หลบหนีไปได้เมื่อเขาพอใจ อัยวาเปิดประตูห้องเฉพาะเจ้าหน้าที่ออกมา สวนกับพนักงานควบคุมระบบคนหนึ่งที่ทำหน้าตกใจ เพราะมีคนนอกเข้ามาในส่วนที่ระบุไว้ชัดเจนว่าสงวนไว้สำหรับเจ้าหน้าที่เท่านั้น หญิงสาวรีบเดินออกจากตรงนั้นทันที ก่อนที่พนักงานที่มาเคาะประตูจะหันไปเห็นผู้ชายอีกคนหนึ่งเดินตามออกมา “ท่าน...” อินทวิชญ์เป็นที่รู้จักของพนักงานแทบทุกคนในโรงแรมอยู่แล้ว เพียงแค่เขาใช้สายตาออกคำสั่งชายคนนั้นก็รู้ว่าต้องปิดปากเงียบ ^ ^ ^ ***ฝากติดตามกันด้วยนะค้า ขอกำลังใจเยอะๆ เลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม