ไลลารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลุดลอยเข้าไปในแดนลี้ลับ เธอตอบรับจูบอย่างเงอะๆ งะๆ ทิ้งตัวพิงรถแยกขาอ้าออกเปิดทางให้มือเขาแทรกผ่านแพนตี้เข้าถึงเนื้อใน เขากดคลึงและชำแรกผ่านความชุ่มฉ่ำของเธอ ไลลาหายใจสะท้านจนเขาต้องปล่อยปาก ไม่ให้ขาดอากาศเสียก่อน
“แด๊ดดี้ขา” เธอร่อนสะโพกเข้าหาความสุขที่ได้รับจากนิ้วของเขา
“พับผ่าสิ ปากเก่ง ที่ไหนได้ จูบก็ไม่เป็น แล้วนี่ถ้ารัดนิ้วแด๊ดดี้ขาดจะว่ายังไง” เขายิ้มยั่วเย้าเมื่อเห็นเธอกัดปากตัวเองแน่น
“อวัยวะส่วนไหนควรใช้กับตรงไหน แด๊ดดี้ก็ใช้ให้มันถูกหน้าที่สิคะ” อารมณ์ที่กำลังฉุดไม่อยู่ทำให้เธอไม่ค่อยพอใจกับความสุขที่ควรจะได้มากกว่านี้
“แน่ใจนะ” เขาถามเพื่อความแน่ใจ
“พี่วัฒน์ก็เป็นเสียอย่างนี้” ตอบมาแบบนี้แล้วณวัฒน์จะปล่อยโอกาสนั้นไปได้อย่างไร
ไม่ว่าจะพ่อที่แปลว่าพ่อ
หรือพ่อพระ พ่อมหาจำเริญบ้าบออะไร
เขาไม่เอาแล้วโว้ย ตอนนี้ตบะเขาแตกยับเยินแล้ว
“ไปต่อกับแด๊ดดี้แล้วกันนะครับคุณหนูไลลา”
“ไม่พาไลลาไปโยนทิ้งที่บ้านแบบที่เคยทำแล้วเหรอ”
“มันน่าเบื่อไม่ใช่เหรอครับคุณหนู” เขาถอนมือออกมา แล้วส่งเข้าปากของตัวเองต่อหน้าหญิงสาว
*********
“เฮอะ ทำคะแนนน่าดู คงจะเอาใจญาติของฝ่ายหญิง”
เสียงค่อนขอดดังมาจากโดมินิค ทายาทคิงกาสิโน ชายหนุ่มพ่นควันบุหรี่จนสุดลมหายใจแล้วตวัดขาขึ้นมาพาดบนโต๊ะรับแขก คู่สนทนาของเขาก็กำลังพ่นควันโขมงอยู่บนเก้าอี้อีกตัวเช่นกัน โดมินิคเรียกเจฟฟ์ ผู้ช่วยที่คร่ำหวอดในวงการกาสิโนเป็นอย่างดีเข้ามาหารือ ในอดีตเจฟฟ์คือมือขวาของพ่อเขา ซึ่งได้กลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของเขา หลังจากบิดาส่งต่อกาสิโนให้เขาดูแลเนื่องจากต้องพักรักษาตัวด้วยโรคหัวใจ แล้วโดมินิคก็ทำมันได้ดี ไต่อันดับขึ้นมาจนเป็นที่หนึ่งในลาสเวกัส
“สงสัยใกล้จะลั่นระฆังวิวาห์เต็มแก่ ไม่งั้นอยู่ดีๆ มันจะหันมาจับธุรกิจนี้เหรอ”
เจฟฟ์ตั้งข้อสังเกตอย่างคนที่รู้นอกรู้ในเรื่องของคนในวงการนี้ดี และเรื่องการจับคู่ระหว่างสองตระกูลนั้นก็ไม่ได้เป็นความลับอะไร สิ่งที่สังคมจับตามองมาตลอดก็เหลือแค่ว่าเมื่อไรจะดองกันจริงๆ เสียที
“ตอนนี้มันเป็นรองก็แค่คิงกาสิโนของเรา” โดมินิคบี้บุหรี่ลงใส่ที่เขี่ยบุหรี่
“เราจะประมาทไอ้หมอนี่ไม่ได้เลยเชียว แป๊บเดียวมันดูดลูกค้าต่างชาติไปที่มันเกือบหมด” เจฟฟ์เตือน
“ฉันกับเอเดรียนเรียนมาด้วยกัน ฉันรู้จักมันดี สำอางแบบนั้นจับธุรกิจโรงแรมกับพ่อมันก็ดีอยู่แล้ว ไม่น่ามาแส่กับบ่อนเลยให้ตายเถอะ” โดมินิคน้ำเสียงขัดเคือง แววตาไร้ซึ่งความเป็นมิตรขณะนึกถึงเพื่อนร่วมชั้นที่เข่นเคี้ยวกันมาตลอดทุกเรื่อง ทั้งเรื่องเรียน เรื่องผู้หญิง แต่คราวนี้โดมินิคจะไม่ยอมแพ้มันเด็ดขาด
“เราต้องเล่นมันที่จุดอ่อน” เจฟฟ์เสนอ บี้บุหรี่ทิ้งบ้าง
“อือ” โดมินิครับคำสั้นๆ
“ระดับไหนดีครับ” เจฟฟ์ประสานนิ้วเข้าด้วยกันแล้วหักข้อนิ้ว กระหายกลิ่นคาวเลือด กระเหี้ยนกระหือรือที่จะออกแรง สมัยเป็นมือขวาให้อลัน บิดาของโดมินิค ฝ่ายนั้นชอบขับเคี่ยวด้วยสมอง ประลองด้วยฝีมือ ไม่ค่อยตะลุยด้วยกำลัง แต่ตั้งแต่โดมินิคขึ้นดำรงตำแหน่ง หนุ่มเลือดร้อนคนนี้ชอบใช้ทางลัด รวดเร็ว เด็ดขาด เห็นผล และมันทำให้พวกเขาติดใจ
“เบาะๆ แค่สั่งสอนไปก่อน” โดมินิคยิ้มเหี้ยมเกรียม ในเมื่อรู้จุดอ่อนของมันแล้ว อะไรๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
“ตีงูต้องตีให้หลังหักนะครับ” เจฟฟ์เตือน เพราะกับคนอื่น พวกเขาไม่เคยยืดเยื้อ
“แบบนั้นจะมันอะไร จบง่ายมันไม่ทรมาน ส่งการ์ดเชิญงานประมูลเครื่องเพชรของแซนดี้ไปให้ตาของพวกมัน”
อีกสองเดือนภรรยาของโดมินิคจะจัดงานประมูลเครื่องเพชร ทุกปีภรรยาของเขาสามารถโกยเงินได้มหาศาล เธอประมาณการคร่าวๆ ว่างานคราวนี้จะต้องได้มากกว่าทุกปี
“จะไม่แปลกเหรอครับ ทุกปีเราไม่เชิญพวกเขา” เจฟฟ์ทักท้วง การทำอะไรที่ผิดสังเกตจะทำให้อีกฝ่ายสงสัยได้
“ปีนี้แซนดี้จะจัดงานใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จะเชิญเหล่าเศรษฐีทั่วทุกวงการมาแข่งขันโชว์ความร่ำรวย ไม่แปลกหรอกที่เราจะเชิญตาของพวกมัน แล้วพวกไอ้แก่สมองฝ่อนั่นก็คงไม่มาด้วยตัวเอง”
“แล้วงานจะไม่เละเหรอครับ” เจฟฟ์ถามอย่างกังวล
“ไม่หรอก ฉันจะให้มันชิมลางไปก่อน เผื่อจะถอนตัว มันจะได้รู้ว่าใช้สมองน่ะมันยาก ปวดหัวเปล่าๆ ใช้กำลังมันเห็นผลเร็วกว่าเยอะ”
*********
มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไอ้คนเชิญก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าผู้ชายอายุแปดสิบเก้าสิบคงไม่ไปงานประมูลเครื่องเพชรกันหรอก แผนตื้นๆ แบบนี้เด็กอนุบาลก็รู้ แต่เขาจะเล่นไปตามเกมของมันก่อน เอเดรียนแสร้งทำหน้ายินดีขณะเดินเข้าไปในงาน แต่คนที่ไม่ต้องปั้นหน้าเลยก็คือไลลา วันนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เอเดรียนกับเธอได้ออกงานร่วมกันในฐานะตัวแทนของคุณตาของทั้งสองฝ่าย
เรื่องเครื่องประดับสวยๆ งามๆ มันก็คู่กับรอยยิ้มเจิดจ้าบนใบหน้าของผู้หญิงอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เธอแสดงท่าทางมีความสุขจนออกนอกหน้า แถมวันนี้ยังแกล้งยั่วด้วยการอ้อนเอเดรียน ณวัฒน์ก็เลยปั้นปึ่งใส่เธอ หึงนั่นแหละเธอรู้ แล้วก็ชอบด้วยที่เขาแสดงออกแบบนั้น
“ไงเพื่อน ไม่ได้เจอกันซะนาน” โดมินิคเดินมาต้อนรับเอเดรียน