ณ ร้านอาหารแห่งนึง
"สวัสดีค่ะคุณราชัน และคุณลุง" น้ำเสียงสดใสเอ่ยทักทาย ยามที่เธอเข้ามาในร้านอาหารหรู ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยรอยยิ้มเหมือนทุกครั้ง
ราชันคือเจ้านายเก่าบิดา มีอายุประมาณสามสิบต้นๆ ราวกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงคนนึง
"มาแล้วเหรอน้ำชา นั่งลงก่อนสิ เรียนมาเหนื่อยๆอยากกินอะไรไหม?" ราชันพูดบอกอย่างเอ็นดูในตัวเด็กสาว เขาส่งเสียเธอมาหลายปี หลังจากบิดาเธอตายในหน้าที่
"น้ำชาทานอะไรก็ได้ค่ะ แค่นี้ก็เยอะมากแล้วค่ะ" อาหารมาหมายบนโต๊ะอาหาร หากเดาราคาเล่นๆคงไม่ต่ำกว่าหลักแสน เธอโชคดีที่บิดาเจอเจ้านายดีๆ ไม่เคยทอดทิ้งให้ลำบาก
"เรากำลังเรียนหมอมันต้องใช้สมองเยอะนะน้ำชา กินเยอะๆเถอะลุงเป็นห่วง" ผู้เป็นลุงอาสาตักอาหารใส่จานให้หลานสาว คอยดูแทนบิดาให้เหมือนตอนเขาอยู่
"ขอบคุณค่ะคุณลุง"
"ว่าแต่น้ำชาได้เข้าทำงานที่สนามกอล์ฟเหรอ เป็นไงบ้างล่ะ?" ราชันตั้งคำถามขึ้น เขายังวางท่าทีปกติ จับช้อนตักอาหารทานเหมือนอยู่กับคนสนิท
"น้ำชาเข้าใกล้ตัวเขาแล้วค่ะ" เธอเอ่ยบอกตามตรง จุดประสงค์หลักเพื่อเข้าใกล้พิพัฒน์ให้มากที่สุด
"ดีแล้วล่ะ มันต้องรับกรรมที่มันเคยก่อไว้" ราชันยังพูดต่อ เขาโน้มตัวจากเก้าอี้ตัวฝั่งตรงข้าม แล้วเอื้อมตักสเต๊กเนื้อแกะชั้นดีให้สาวนักศึกษา
"ขอบคุณนะคะ...น้ำชาจะเอาคืนให้ถึงที่สุดค่ะ" น้ำเสียงสดใสจริงจังในท้ายประโยค ก่อนเงยหน้าขึ้นโชว์ยิ้มหวานให้ชายสองคนบนโต๊ะอาหาร
"ลุงยังอยู่ข้างเรานะน้ำชา มีอะไรเกิดขึ้นให้บอกลุงนะ" ลุงธนาเอื้อมมือบีบไหล่มนให้กำลังใจเบาๆ
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ แต่คุณลุงต้องทานเยอะๆนะ คุณราชันก็ด้วยค่ะ จะได้อยู่ดูน้ำชาประสบความสำเร็จนะคะ" เธอตักอาหารให้แก่พวกเขาอย่างสนิทสนม
"ต้องแน่นอนอยู่แล้ว วันที่เธอประสบความสำเร็จ ฉันจะมีรางวัลให้อย่างงามเลยนะน้ำชา" ราชันเอ่ยบอก
"งั้นผมต้องอยู่ให้ถึงวันนั้นด้วยนะครับ" แต่ลุงธนาดันหันไปยิ้มส่งสัญญาณแก่เจ้านาย ดูเหมือนว่าเกมส์ฉากนี้พวกเขาผู้ที่รู้ตอนจบว่าต้องชนะแน่นอน
@ หอพักแห่งนึง
จนกระทั่งรถยนต์คันหรูผ่านเข้าซอยเส้นทางเก่า ถนนไม่ค่อยดีมีผู้คนเดินเพ่นพ่าน เป็นแหล่งนักศึกษาใกล้มหาลัยโคจร รวมถึงอบายมุขของพวกคนต้องหาผลประโยชน์
"คุณลุงส่งน้ำชาตรงนี้ก็ได้ค่ะ ถนนหน้าหอพักไม่ค่อยดีค่ะ" นักศึกษาสาวนั่งหลังรถคนขับเอ่ยบอก ส่วนเจ้านายเก่าบิดานั่งฝั่งข้างคนขับรถ เขาไม่ได้ถือตัวแบ่งชนกับลูกน้องเลย
"แล้วอย่าลืมตั้งใจเรียนนะน้ำชา ไม่ใช่ทุกคนจะเข้ามหาวิทยาลัยดีๆแบบเธอได้...รู้ใช่ไหม" ราชันบอกย้ำอีกครั้ง เขามองใบหน้าสวยผ่านกระจกหลังด้วยความเอ็นดู
"ค่ะ น้ำชาจะตั้งใจเรียนสุดๆเลย" พอรถยนต์จอดเทียบข้างตึกเก่า ร่างบางรีบโกยหนังสือขึ้นแนบอกอวบ มุ่งเดินลัดเลาะไปตามทาง
กึก!
"....." เป็นเสียงรองเท้าใบสองข้างหยุดฝีเท้ากระทันหัน ตอนเจอบอดี้การ์ดของพิพัฒน์ยืนอยู่ข้างล่างตึก
หัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้น ไม่ยักรู้ว่าพวกเขาจะตามหาเธอถึงที่นี่
"พวกคุณมาหาน้ำชาเหรอคะ" เธอพยามข่มน้ำเสียงให้เป็นปกติ แน่ใจดีว่าเบลไม่มีทางเห็นเธอลงจากรถคันนั้นแน่
"อืม นายรออยู่ที่ห้อง" แต่บอดี้การ์ดหน้าเลือกจะไม่สนใจ
"ได้ค่ะ" ร่างบางรีบวิ่งขึ้นบนหอพัก ใช้แค่บัตรแสกนเข้าออกเท่านั้น ความปลอดภัยที่นี่ค่อนข้างน้อย แต่ก็ดีตรงที่ค่าเช่าไม่แพง
ก็อก! ก็อก!
เธอกลั้นใจเคาะประตูตามมารยาท ก่อนจะแง้มเปิดเบาๆ ซึ่งตัวล็อคด้านนอกถูกเลาะออก มีกลิ่นบุหรี่โชยตอบสนองกลับทันที
"คุณมาหาหนูถึงที่นี่เลยเหรอคะ?" น้ำเสียงสดใสแสร้งทำทีปกติ แสดงใบหน้าดีใจรีบวางหนังสือเรียน แล้วมุ่งตรงไปหาร่างสูง ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เก่าๆตรงโต๊ะการบ้าน
"นักศึกษาเลิกเรียนแล้วไม่กลับที่พัก แบบนี้จะไปไหนได้?" พิพัฒน์ไม่ได้สนใจในคำถามของเธอ แต่เขาตั้งคำถามใหม่ คว้าเอาเอวบางมานั่งบนตักแกร่ง
กลิ่นกายสาวยังหอมละมุน ตรงท้ายทายเล็กถ้าไม่มีผมสลวยสีน้ำตาลปิด ก็จะเห็นรอยที่เขาจงใจทิ้งไว้
"คือหนูไปห้างมาค่ะ จะไปดูแบบหนังสือเรียนเพิ่มค่ะ" เธอตอบ ก่อนใช้มือบางนวดต้นแขนแกร่งเอาใจ เรียนรู้ประสบการณ์จากในละครไทยล้วนๆ
"เธอรู้ใช่ไหม ถ้าทำตัวไม่น่ารักเมื่อไหร่ ฉันพร้อมจะยกเลิกสัญญาทันที" ใบหน้าคมวางแนบไหล่มน ใช้มือใหญ่ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษา พ่นลมหายใจร้อนราดรดผิวขาว
"ระรู้ค่ะ แต่หนูเหมือนจะไม่สบายจากเมื่อวานนี้เลย ขอพักสักวันได้ไหมคะ" เธอรีบคว้ามือหนาข้างที่ลุกลามเข้าในเสื้อ ใช่ว่าจะลุ่มหลงหรืออยากให้เขามาครอบครองเหมือนสตรีคนอื่น
แต่เพราะความรังเกียจขยะแยงในสัมผัสนี้ เลยเลือกจะหาข้ออ้างให้ร่างกายตัวเองผ่านพ้นไปสักวัน
"ต่อต้านฉันไม่มีประโยชน์หรอกนะ ไปนอนอ้าขาบนเตียงเธอซะ ว่ามันจะรองรับแรงกระแทกจากฉันได้เท่าไหร่?"
......................................................
ความเลวไม่มีใครหยุดยั้ง 555