หลายวันผ่านไป
ยาหยีเริ่มเข้าสู่การสอบปลายภาคเรียนทำให้ยูต้องให้ปลื้มมาติวให้น้องสาวถึงแม้จะดูขัดหูขัดตาไปบ้างแต่ก็ต้องยอมเพราะถ้าไปจ้างครูมาสอนก็คงไม่ไหว เดือนนี้รายจ่ายเยอะเกินไปจึงต้องช่วยกันประหยัดให้มากที่สุด ที่สำคัญคนเรียนเก่งก็มีแค่ปลื้ม หล่อ รวย เรียนดีแต่เลวไปหน่อย
"อีกอย่างบ้านนี้เค้าเรียนเก่งกันเป็นทุนเดิมตั้งแต่ไปร์ท โปรด ปราน แล้วก็ปลื้ม หล่อยันรุ่นทวดถึงรุ่นเหลนกันเลย"
ปลื้ม: กูไม่ได้อะไรเลยนะมาติวให้น้องมึงแถมต้องเลี้ยงข้าวน้องมึงอีก ติวช้าก็บ่นกู//ผมพยายามบ่นเพื่อกลบเกลื่อนไปอย่างนั้นแหละมันจะได้ไม่สงสัยอะไรมาก
ยู: ถือว่าช่วยๆกันไปก่อน กูเพิ่งลงอะไหล่รถไป แม่กูก็ไม่สบายต้องหาเงินส่งไปให้
ปลื้ม: เออๆ แล้วนี่มึงจะไปอู่แล้วหรอ เอารถกูไปก็ได้นะ
ยู: เกรงใจว่ะ
ปลื้ม: เอาไปเถอะ!
ปลื้มยื่นกุญแจรถให้เพื่อนก่อนจะเปิดแอปGPSไว้คอยเตือนจากนั้นก็เดินเข้าห้องไปหายาหยีที่กำลังอ่านหนังสืออยู่เงียบๆคนเดียว
ปลื้ม: ยาหยีคะพี่ซื้อขนมมาฝากค่ะ
ยาหยี: ขอบคุณค่ะ เมื่อคืนไปต่อที่ไหนหรือเปล่าคะ
ปลื้ม: เปล่าเลยนะ พี่กินกับไอ้ยูเสร็จก็เข้าห้องนอนเลย
ยาหยี: ค่ะ
ปลื้ม: อ่านหนังสือไปถึงไหนแล้วคะ
ยาหยี: ยังไม่ถึงไหนเลย เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ
ทั้งสองติวหนังสือกันอย่างหนักจนถึงเวลาบ่ายชายหนุ่มจึงพายาหยีมาร้านอาหารในห้างก่อนจะไปต่อกันที่ร้านไอศกรีม
ปลื้ม: กินเก่งนะเรา
ยาหยี: ฮ่าๆ เลี้ยงหนูไหวไหมล่ะ
ปลื้ม: สบายมากค่ะ
"เฮ้ย ยาหยี!"
ชายหนุ่มถึงกับหันไปมองเสียงเรียกยาหยี จนเห็นเด็กหนุ่มคนนึงวิ่งเข้ามาหาที่โต๊ะ
ยาหยี: ภู....
"เป็นไงบ้างสบายดีไหมแล้วนี่แฟนหรอ พี่ยูล่ะยังเปิดอู่อยู่หรือเปล่า"
ยาหยี: เราสบายดี นี่เพื่อนพี่ยูมาช่วยติวให้เรา ส่วนพี่ยูอยู่ที่อู่น่ะ แล้วภูมาทำอะไรที่กรุงเทพหรอ
"มาเรียนต่ออ่ะดิ ที่เดียวกับพี่ยูเลย เราแอดเฟสบุ๊คยาหยีไปแล้วนะเมื่อเช้าว่าจะแวะเข้าไปหา เดี๋ยวไว้คุยกันนะพวกไอ้ก้องรออยู่ ไว้เจอกัน"
ยาหยี: อื้อ!
ปลื้มถึงกับวางช้อนแล้วมองหน้ายาหยีอย่างต้องการคำตอบ ยาหยีเองก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆก่อนจะตักไอศกรีมขึ้นมาทาน
ปลื้ม: ใคร?
ยาหยี: ภูค่ะ
ปลื้ม: แล้วมันเป็นใคร?
ยาหยี: แฟนเก่าค่ะ
ปลื้ม: ดีจะได้รับน้องหนักๆหน่อย
ยาหยี: พี่ปลื้มคะ!
ปลื้ม: รีบกินเถอะจะได้กลับหอ
เมื่อถึงเวลากลับทั้งสองก็เดินข้ามสะพานลอยมายังอีกฝั่ง โชคดีที่หอพักของยาหยีอยู่ไม่ไกลจากห้างเท่าไหร่จึงทำให้ทั้งสองใช้เวลาเดินไม่นาน และเหมือนเวรกรรมหรือบุญนำพาก็ไม่รู้ เพราะตอนนี้แฟนเก่าของยาหยีก็มาดูหอพักที่เดียวกับยาหยีพอดี
ก้อง: ยาหยีนี่หน่า
ยาหยี: อ่าวก้องมาดูหอที่นี่เหรอ
ก้อง: ใช่ ไอ้ภูกำลังไปจ่ายเงินอ่ะแล้วยาหยีพักอยู่ที่นี่เหรอ
ยาหยี: ใช่ๆ เราอยู่ชั้น3อ่ะ
ก้อง: แฟนหล่อดีนะ
ยาหยี: ไม่...นี่เป็น...
ปลื้ม: ขอบใจ ไปขึ้นห้องเถอะยาหยีพี่ง่วงแล้ว
ยาหยี: หืมมม อะไรของพี่เนี่ย!!
ชายหนุ่มดึงแขนยาหยีขึ้นมาบนห้องก่อนจะยืนมองหน้ายาหยีด้วยความไม่พอใจที่ตอนนี้แฟนเก่าของเธออยู่ใกล้กันแค่ปลายจมูก ไม่ได้ดิแบบนี้ไม่ปลื้มมมมม
ปลื้ม: เดี๋ยวบอกไอ้ยูนะว่าจะแยกไปอยู่หอใน หรือไปอยู่หอกับเพื่อนแล้วไปอยู่คอนโดกับพี่
ยาหยี: เรื่องอะไรคะ เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันนะอีกอย่างพี่ปลื้มก็ยังมีสาวเยอะแยะหนูไม่ขอเข้าไปเป็นตัวเลือกหรอกค่ะ
ปลื้ม: หรือจะให้พี่บอกเรื่องของเรากับไอ้ยู?
ยาหยี: พี่อยากตายหรือไงคะ!
ปลื้ม: ช่างเถอะ!
ปลื้มเดินหนีมานั่งอยู่ที่ระเบียงก่อนจะมองชมวิวในยามบ่าย ยาหยีถึงกับส่ายหัวแล้วเดินไปชงน้ำหวานออกมาให้ปลื้มดื่มเพื่อดับความร้อนในใจ คนอะไรอารมณ์ขึ้นลงเป็นไบโพล่าร์หรือไง
ปลื้ม: เอามาง้อพี่เหรอคะ
ยาหยี: เอามาลดต้นไม้ค่ะ
ปลื้ม: อืม!
ยาหยี: ล้อเล่นค่ะเอามาให้พี่นี่แหละ หนูกับภูเลิกกันไปแล้วนะอีกอย่างตอนนั้นก็ยังเด็กกันทั้งคู่ อย่าคิดมากเลยนะคะ
ปลื้ม: ยาหยีถ้าพี่จะจริงจังกับหนู หนูคิดว่าไงอ่ะ
ยาหยี: เรื่องนี้หนูว่าพี่ยูคงไม่ยอม พี่สองคนนิสัยเหมือนกันมากขนาดนี้หนูเดาทางได้เลยว่าเรื่องของเรามันจะเป็นยังไง
ปลื้ม: ก็ถูกของหนู ช่างเถอะไว้พี่จะหาทางออกของเรื่องนี้เองแต่สัญญาได้ไหมว่าความสัมพันธ์ของเราจะไม่มีลดลง เข้ามหาลัยเมื่อไหร่ก็คงได้เปิดหูเปิดตาพี่จะพาเราไปอยู่คอนโด
ยาหยี: ไม่ดีมั้งคะ พี่ยูคงไม่ยอม
ปลื้ม: นานๆไปก็ได้ค่ะ อยู่คณะเดียวกันยังไงก็ต้องเจอกันทุกวันอยู่แล้ว
ยาหยี: เข้าไปข้างในเถอะไม่ร้อนหรือไงมานั่งตรงนี้
ปลื้ม: พี่หายเจ็บแล้วเข้าห้องกันไหม
ยาหยี: ทะลึ่ง!
ยาหยีดุชายหนุ่มก่อนจะเดินหนีเข้าห้องทำให้ชายหนุ่มถึงกับหัวเราะออกมา ปากบอกไม่แต่ไม่ปิดประตูด้วยนะ
ปลื้ม: แหมเดินหนีเข้าห้องเชิญชวนกันใช่ไหมคะ