ตอนที่ 6 โจวเหวินหลง! /2

1765 คำ
พระตำหนักเทียนหลง ตำหนักใหญ่ขนาดมหึมาตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับตำหนักเย่วเชียง มีสระน้ำที่มีความกว้างนับสิบหมู่ขวางกั้นทอดยาวระหว่างกลางพระตำหนักของเชื้อพระวงศ์ชายและเชื้อพระวงศ์หญิง อุปราชแห่งเทียนจินพระนามว่าโจวเหวินหลง ประทับอยู่ในพระตำหนักเทียนหลงอันเป็นตำหนักที่ประทับของอดีตฮ่องเต้โจวลู่อี้พระราชบิดา ทั่วทั้งวังหลวงมักจะเรียกตำหนักนี้ว่าตำหนักไร้รัก ด้วยเพราะทุกพระองค์ที่เข้ามาประทับอยู่ในตำหนักดังกล่าวจะมีความรักที่ไม่สมหวังด้วยกันทั้งสิ้น อดีตฮองเต้โจวลู่อี้พระราชบิดาของอุปราชแห่งเทียนจิน ทรงมีความรักลึกซึ้งกับฮองไทเฮามากมายยิ่งนัก แต่แล้ววันหนึ่งพระองค์กลับทรงเปลี่ยนไปจากที่รักมั่นคงดั่งหินผากลับเฉยชาไม่แลเหลียวและไม่เคยประทับอยู่กับฮองไทเฮานับตั้งแต่ทรงมีพระประสูติกาลองค์ชายโจวเหวินหลงหรืออุปราชแห่งเทียนจินองคปัจจุบัน แต่ที่น่าแปลกประหลาดยิ่งไปกว่านั้นก็คือ พระเชษฐาโจวจื่อหยวนก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของอดีตฮ่องเต้แม้แต่น้อย ในขณะที่พระองค์ซึ่งเป็นพระอนุชาร่วมสายพระโลหิตเดียวกับโจวจื่อหยวน ฮ่องเต้แคว้นเทียนจินองคปัจจุบัน มีพระราชบิดาและพระราชมารดาเดียวกันกลับเป็นที่โปรดปรานของพระราชบิดามากกว่า แต่กลับกลายเป็นว่าพระโอรสโจวเหวินหลงไม่เป็นที่โปรดปรานของพระราชมารดาซึ่งตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิงจนทั่วทั้งวังหลวงโจษขานกันไปทั่วว่า ผู้ใดได้ครอบครองตำหนักไร้รักหลังนี้ ผู้นั้นไร้หัวใจและเย็นชาประดุจดั่งน้ำแข็งช่างสอดคล้องกับอุปราชแห่งเทียนจินไม่มีผิด เดิมทีพระราชบิดาทรงมีพระราชประสงค์มอบราชบัลลังก์นี้ให้แก่พระโอรสองค์รองขึ้นปกครองแผ่นดินเทียนจิน สืบต่อไป ด้วยเพราะโจวเหวินหลงเต็มไปด้วยความปราดเปรื่อง ฉลาดรอบรู้ไปทุกด้านรวมไปถึงมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวและเจ้าเล่ห์เกมโกง ไม่เคยเสียเปรียบแก่ผู้ใด อีกทั้งมีพลังวรยุทธ์สูงทรงเป็นผู้นำกองทัพของเทียนจินตั้งแต่พระชนมายุเพียงสิบเจ็ดชันษาเท่านั้น จนก้าวขึ้นมาคุมกองทหารทั้งแปดเหล่าทัพทั้งหมด ทว่าพระราชมารดาซึ่งก็คือหลิวฮองเฮา พระยศในขณะนั้นต้องการให้พระเชษฐาโจวจื่อหยวนได้ขึ้นปกครองแผ่นดินเทียนจินสืบต่อไปตามกฎมณเทียรบาลของแคว้น หากแต่อดีตฮ่องเต้ทรงเล็งเห็นว่าด้วยปัญหาทางด้านสุขภาพของพระโอรสองค์โตที่เจ็บออดแอดมาตั้งแต่งยังทรงพระเยาว์ อีกทั้งหากวัดกันที่ปัญญาและความรอบรู้ห่างไกลจากพระอนุชาเป็นยิ่งนักไม่อาจปกครองขุนนางที่มีอำนาจในราชสำนักและต้านทานเอาไว้ได้ และเกรงว่าพระโอรสองค์โตจะอายุไม่ยืนยาวจึงเลือกที่จะแต่งตั้งพระโอรสองค์รองเป็นองค์รัชทายาทแทนที่จะเป็นพระโอรสองค์โตตามกฎของมณเทียรบาล ด้วยเหตุของการแต่งตั้งองค์รัชทายาทดังกล่าวทำให้หลิวฮองเฮาพระราชมารดาเดินทางไกลไปถึงเมืองตงฟางทางตอนเหนือของแคว้นซึ่งโจวเหวินหลงกำลังเตรียมทัพที่จะบุกยึดสิบห้าเมืองตามเขตบริเวณชายแดนซึ่งอยู่ติดกับแคว้นเฟิ่งเพื่อขอร้องพระโอรสองค์รองให้ปฏิเสธที่จะเข้ารับการแต่งตั้งขึ้นเป็นองค์รัชทายาทตามพระบัญชาของพระราชบิดา ความรักลูกที่ไม่เคยเท่ากันเลยของหลิวฮองเฮาทำให้โจวเหวินหลงพระโอรสองค์รองทรงเสียพระทัยเป็นอย่างมากที่พระราชมารดาดั้นด้นเดินทางรอนแรมมาทางเหนือ เพียงเพื่อขอร้องให้พระองค์ปฏิเสธที่จะรับการแต่งตั้งขึ้นเป็นองค์รัชทายาท ไม่เคยถามพระองค์สักคำเลยว่า บาดเจ็บจากสงครามเป็นอย่างไรบ้าง รั้งทัพอยู่ชายแดนมานานหลายปีเป็นเช่นไรและไม่มีคำว่าคิดถึงและเป็นห่วงพระโอรสไม่มีเลยสักประโยคเดียว แต่ด้วยความรักที่มีต่อพระราชมารดาเหนือสิ่งอื่นใด โจวเหวินหลงทรงยินยอมที่จะไม่เข้ารับการแต่งตั้งขึ้นเป็นองค์รัชทายาทด้วยหวังว่าพระมารดาจะมีความรักแบ่งปันให้แก่พระองค์บ้าง จึงยอมทำทุกอย่างตามที่พระมารดาทรงต้องการ และเพราะด้วยเหตุนี้เองโจวจื่อหยวนผู้อ่อนแอจึงได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นองค์รัชทายาท โดยให้เหตุผลว่ากำลังติดพันสงครามชิงสิบห้าเมืองทางตอนเหนือมิอาจปลีกกายกลับไปรับการแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าวนั้นได้ แม้ว่าพระราชบิดาจะทรงรั้งรอเพื่อให้พระโอรสองค์รองกลับมารับการแต่งตั้งดังกล่าวจนเวลาผ่านไปนานกว่าห้าปี พระโอรสโจวเหวินหลงก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลับคืนสู่วังหลวง จึงทำให้ตำแหน่งรัชทายาทตกเป็นของพระโอรสองค์โตสมความตั้งใจของหลิวฮองเฮาพระราชมารดา แต่ถึงกระนั้นอดีตฮ่องเต้ลู่อี้ยังทรงมีพระราชโองการ ต่อหน้าที่ปรึกษาขุนนางทั้งสี่และขุนนางในราชสำนักทั้งหมด ให้รับรู้กันอย่างถ้วนหน้าว่าทรงมีพระราชโองการให้กองทัพทั้งแปดอยู่ภายใต้คำสั่งของพระโอรสองค์รองโจวเหวินหลงแต่เพียงพระองค์เดียวเพื่อคอยดูแลและปกป้องแคว้นเทียนจิน โดยที่ปรึกษาขุนนางทั้งสี่และบรรดาขุนนางทั้งหมดต่างไม่มีผู้ใดมีความเห็นคัดค้านแต่อย่างใดทุกคนล้วนมีความเห็นชอบตรงกับพระบัญชาของอดีตฮ่องเต้ทุกประการ อีกทั้งยังทรงแต่งตั้งให้ชินอ๋องโจวเหวินหลงซึ่งเป็นตำแหน่งในขณะนั้น ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นมหาอุปราชเพื่อให้มีอำนาจคอยดูแลและร่วมปกครอง แคว้นเทียนจินร่วมกับพระโอรสองค์โต ซึ่งอาจมีพระชนม์ชีพไม่ยืนยาวเพราะปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพที่สามวันดีสี่วันไข้ ทำให้ไม่สามารถออกว่าราชการและปกครองแคว้นเทียนจินได้อย่างที่ควรจะเป็น จวบจนกระทั่งเมื่อห้าปีก่อนอดีตฮ่องเต้โจวลู่อี้เสด็จสวรรคตลงอย่างกะทันหัน ทำให้แคว้นเทียนจินผลัดเปลี่ยนแผ่นดินใหม่โจวจื่อหยวนได้ขึ้นปกครองแคว้นสืบต่อไปพระชนมายุในเวลานั้นยี่สิบห้าพระชันษา หลังจากที่ได้รับการสถาปนาขึ้นปกครองแผ่นดินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพระอนุชาโจวเหวินหลงซึ่งถูกแต่งตั้งจากอดีตฮ่องเต้ให้ดำรงตำแหน่งขึ้นเป็นมหาอุปราชในช่วงท้ายรัชกาลก่อนจะเสด็จสวรรคตลงอย่างกะทันหันซึ่งพระชนมายุในขณะนั้นยี่สิบสามพระชันษา ส่วนพระโอรสโจวอี้หานซึ่งพระชนมายุในขณะนั้นสิบสองพระชันษา เป็นพระโอรสเพียงพระองค์เดียวจากจำนวนสิบพระองค์ซึ่งอีกเก้าพระองค์ล้วนเป็นพระราชธิดาหมดทั้งสิ้น ขึ้นรับตำแหน่งเป็นองค์รัชทายาทปกครองแผ่นดินต่อไป และจะสามารถเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระราชการแผ่นดินได้ต่อเมื่อมีอายุครบยี่สิบสองปีและจบศาสตร์เรียนรู้ทั้งบู๊และบุ๋นได้อย่างครบครัน ด้วยเพราะเหตุนี้เองทำให้อุปราชโจวเหวินหลงจึงทรงมีพระราชอำนาจมากกว่าฮ่องเต้พระองค์จริงที่ปกครองแคว้นอยู่ในเวลานี้ ซึ่งเป็นไปตามคาดของอดีตฮ่องเต้โจวลู่อี้ว่าพระโอรสองค์โต มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพไม่ผิดไปจากที่คิดเอาไว้ ในขณะที่องค์ชายรัชทายาทก็ยังทรงพระเยาว์เพิ่งจะสิบสองพระชันษาเท่านั้น ในยามนี้แคว้นเทียนจิน ทั้งอำนาจทางการทหารและอำนาจการปกครองตกอยู่ในกำมือของอุปราชโจวเหวินหลงหมดทั้งสิ้น โจวจื่อหยวนฮ่องเต้แทบจะไม่ได้ออกว่าราชการเสียเท่าใดนักด้วยเพราะปัญหาสุขภาพ ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนจะออกว่าราชการแทบไม่ถึงสิบวัน เวลาที่เหลือจึงหมดไปกับการรักษาอาการประชวรของพระองค์ ด้วยเพราะเหตุนี้เองอุปราชโจวเหวินหลงจึงต้องเข้ามาร่วมบริหารราชการแผ่นดินกับพระเชษฐาอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้เลยเพราะพระองค์ไม่อยากทำให้พระมารดาขุ่นเคืองพระทัย แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรฮองไทเฮาก็ไม่ทรงโปรดพระโอรสองค์ที่สองของพระนางแม้แต่น้อย จะด้วยเพราะเหตุผลใดก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าทำไมจึงรักลูกลำเอียงและไม่เท่ากันเช่นนี้ ปลายนิ้วเรียวยาวดั่งเช่นสตรียกถ้วยชาขึ้นเสวยอย่างช้าๆ เมื่อหลัวอี้เซิงและองครักษ์หลี่ซ่านเพิ่งกลับมาจากตำหนักเย่วเชียงเมื่อครู่ที่ผ่านมาภายหลังจากตรวจอาการขององค์หญิงจากแคว้นจ้าวจนล่วงรู้สาเหตุที่แท้จริงว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับองค์หญิงผู้นั้น ตึก! ถ้วยชาถูกวางลงบนโต๊ะครั้นได้ล่วงรู้อาการทั้งหมดขององค์หญิงจ้าวลี่ยาจากปากหลัวอี้เซิง หมอประจำพระองค์ซึ่งไว้วางพระทัยให้เข้ามาดูแลสุขภาพและอาการบาดเจ็บของพระองค์จากการทำสงครามมานานนับสิบปี “องค์หญิงจากแคว้นจ้าวถูกแมลงมีพิษอย่างนั้นเหรอ”รับสั่งถามกลับไปเมื่อได้ยินรายงานดังกล่าว “พ่ะย่ะค่ะ!”หลัวอี้เซิงตอบเสียงหนักแน่นพร้อมเอ่ย “แมลงพิษชนิดนี้เกิดจากการถูกเลี้ยงให้สะสมพิษในตัวของมันเอง ป้อนอาหารที่ทำให้แมลงเหล่านี้เกิดพิษแม้ว่าพิษนั้นจะเกิดจากธรรมชาติก็จริงอยู่ แต่แมลงชนิดนี้หากเติบโตตามวิถีธรรมชาติจะไม่สะสมพิษในตัวของพวกมันแต่อย่างใด แต่ถ้าเกิดจากการถูกนำมาเลี้ยงเพื่อต้องการพิษในตัวมันแน่นอนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับองค์หญิงแคว้นจ้าวไม่ได้เป็นเหตุสุดวิสัยแต่เกิดจากความตั้งใจของคนพ่ะย่ะค่ะ” คำอธิบายของหลัวอี้เซิงปรากฏรอยยกยิ้มที่มุมปากขึ้นมาโดยพลันเมื่ออุปราชหนุ่มได้ยินเช่นนั้น พระองค์ล่วงรู้ทันใดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับองค์หญิงแคว้นจ้าวเป็นฝีมือของผู้ใด “ดูท่าหลานชายของข้าผู้นี้โหดเหี้ยมเกินกว่าที่คิดเอาไว้มากเลยทีเดียว ใช้แมลงพิษสังหารว่าที่พระชายาของตัวเองเพียงเพื่อไม่ต้องการที่จะเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับนาง แต่จากสติปัญญาของอี้หานแน่นอนว่าไม่มีทางวางแผนลึกซึ้งได้อย่างแยบยล” รับสั่งพลางครุ่นคิดตามก่อนจะเงยพระพักตร์ทอดพระเนตรองครักษ์คนสนิท
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม