ดวงใจชีค
บทที่11.
ชีคอัสมาลขมวดคิ้วมุ่น เมื่อฮันน่าเข้ามารายงานกับเขาว่าคุณหญิงของเธอเป็นไข้นอนซมอยู่ในห้องนอนที่เขาสั่งให้จัดเตรียมให้ใหม่ หลังจากที่รู้แล้วว่าณัชชาไม่ใช่นักข่าวอย่างที่เขากล่าวหา
และเมื่ออัสมาลไปถึงก็พบว่าณัชชานั้นหน้าแดงก่ำ ปากแดงจัดอย่างคนที่มีไข้สูง นอนตัวสั่นคุดคู้อยู่บนเตียงภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ที่ให้ความอบอุ่น
มือหนายื่นไปลูบหน้าผากของหญิงสาวอย่างเผลอตัว อุณหภูมิความร้อนที่ส่งผ่านมาจากร่างบางนั้นทำให้ชีคหนุ่มสะดุ้ง พร้อมกับความรู้สึกผิดที่ตามมา
"ตามหมอหลวงมา"
อัสมาลหันไปสั่งฮันน่าเสียงเข้ม เพียงแค่นั้นฮันน่าก็รีบผลุบออกจากห้องไปทำตามคำสั่งทันที
ไม่นานหมอหลวงก็เดินทางมาถึง ชายชราที่มีศีรษะผมดอกเลาโค้งกายให้ชีคอัสมาลอย่างเคารพ ดวงตาสีดำสนิทมองสำรวจหญิงสาวบนเตียงด้วยความสนใจ ขณะเดินมาหยุดอีกฝั่ง
มองแค่ปราดเดียวชายชราก็รู้ว่าหญิงสาวเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น นอกเหนือจากอาการไข้สูงแล้วก็ไม่มีอะไรต้องกังวล หมอหลวงสั่งให้ผู้ช่วยที่เดินตามมาไปเตรียมผ้าชุบน้ำเย็นมาประคบที่หน้าผากและคอยเปลี่ยนทุกครึ่งชั่วโมง จากนั้นหมอหลวงก็จัดยาสมุนไพรพื้นเมืองให้เป็นชุด และเขียนรายการอาหารที่เหมาะกับคนป่วยให้หลายมื้อเพื่อไม่ให้คนป่วยรู้สึกเบื่อาหาร
"ยาแก้ฟกช้ำด้วยนะ"
เสียงแหบพร่าสั่งผู้ช่วย เมื่อเหลือบไปเห็นรอยฟกช้ำที่ต้นแขนทั้งสองข้างของหญิงสาว และแอบส่งสายตาตำหนิไปที่ชีคหนุ่มไม่ได้
อัสมาลมองรอยมือของตัวเองบนต้นแขนบอบบางแล้วรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น หรือเขาจะรุนแรงกับเธอมากไปจริงๆ นี่แค่แขนนะยังเห็นรอยเด่นชัดซะขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นที่สะโพกของหญิงสาวล่ะ จะมีรอยช้ำขนาดไหน จำได้ว่าเขาตีเธออย่างไม่ยั้งมือเลยล่ะ แต่เธอก็เหลือเกินไง ยั่วโมโหจนเขาอดใจไม่ไหว
"ขอบคุณท่านหมอ"
ชีคหนุ่มเอ่ยอย่างจริงใจ
"อ่อนโยนกับผู้หญิงหน่อยท่านชีค ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ และผู้หญิงทุกคนชอบความอ่อนโยน"
หมอหลวงแนะนำพร้อมกับหลิ่วตาให้ และอัสมาลก็เพียงแค่ยิ้มรับบางๆ
อัสมาลหยุดงานทั้งวันเพื่อดูแลณัชชา อาการหนาวสั่นและและอาการเพ้อเพราะพิษไข้หายไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคอยเปลี่ยนผ้าประคบหน้าผากให้หญิงสาวเป็นระยะ
"ณัชชา"
ชีคหนุ่มขยับตัวทันทีและเอ่ยเรียกหญิงสาวอย่างโล่งใจเมื่อคนป่วยยอมลืมตาขึ้นมาเสียทีหลังจากที่นอนซมมาตลอดทั้งวัน
ณัชชารู้สึกอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรงและปวดเมื่อยไปทั้งตัว โดยเฉพาะสะโพกตรง ี่ถูกชีคหนุ่มตี เธอไม่มีแรงแม้แต่จะรับแก้วน้ำทึ่อัสมาลส่งให้มาดื่ม ทั้งที่กระหาย และไม่มีแรงแม้แต่จะเบี่ยงตัวหนีเมื่ออกกว้างของอัสมาลแทรกเข้ามาแทนที่หมอนใบใหญ่ที่ใช้พิงหลัง หนำซ้ำยังโอบประคองร่างของเธอพร้อมป้อนน้ำให้ถึงปาก
"ฮันน่าไปเอาซุปที่หมอสั่งมา"
อัสมาลหันไปสั่งฮั่นน่า ครู่หนึ่งซุปร้อนๆก็ถูกยกเข้ามาพร้อมกับยาเม็ดสมุนไพรที่หมอหลวงจัดไว้ให้
ณัชชาทำหน้าเบ้ เบี่ยงหนีช้อนที่ยื่นมาจ่อถึงริมฝีปาก แต่กลิ่นแปลกๆก็ยังตามมารบกวนให้ขุ่นใจ
"อย่าดื้อณัชชา"
อัสมาลดุคนป่วยเสียงเข้ม หากแต่คนป่วยก็ยังคงดื้อดึง
"ไม่กินข้าว ไม่กินยา อย่ามายุ่งคุณชีค ไปไกลๆเลย ตบหัวแล้วคิดจะลูบหลังกันรึไง"
ร่างบางกลิ้งตัวออกจากอกกว้าง คว่ำหนัาลงไปกับหมอนแน่นเพื่อหลบหลีกกลิ่นไม่พึงประสงค์ของซุปหัวหอม
"ไม่คิดจะลูบหลังอะไรทั้งนั้น แค่ไม่อยากให้เธอมาตายในวังของฉัน ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้"
อัสมาลวางชามซุปลง ก่อนจะหันมาพลิกร่างบางขึ้นมาแนบอกอีกครั้งจนได้ แต่แม่ตัวดีกลับจิกหมอนติดหน้าขึ้นมาด้วยทำเอาชีคหนุ่มถึงกับต้องหลุดหัวเราะออกมาให้กับความดื้อรั้นของเธอ
"โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงยังจะดื้อด้านเป็นเด็กอีก"
น้ำเสียงเยาะหยันคล้ายดูหมิ่นทำให้คนป่วยนึกขุ่นเคืองอยู่ในใจ นี่ถ้าไม่ติดว่าเธอป่วยจนไร้เรี่ยวแรงคงได้มีการเถียงกันสักตั้ง ที่ทำได้ตอนนี้ก็คงแค่ขยับตัวหนีด้วยความยากลำบากเท่านั้น แต่ตาชีคนี่ก็ยังลากเธอกลับมานั่งบนตักของเขาจนได้
"อ้าปาก..."
อัสมาลสั่งเสียงดุ มือหนาล็อกเองบางไว้แน่น พร้อมตักซุปหัวหอมมาจ่อที่ปากคนป่วย ในขณะที่ณัชชาเม้มปากเข้าหากันแน่นอย่างดื้อรั้น
ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ใช้มือข้างหนึ่งบีบจมูกหญิงสาวไว้ ณัชชาหายใจไม่ออกจนต้องอ้าปาก เป็นจังหวะดีให้อัสมาลป้อนซุปหัวหอมใส่ปาก และเมื่อณัชชาทำท่าจะคลายออกมามือใหญ่ก็เลื่อนมาปิดปากเธอไว้อย่างรู้ทัน
"อื๋ออ..."
ณัชชาร้องในลำคอ อมซุปไว้ในปากแล้วทำท่ากลืนเพื่อหลอกให้อัสมาลค้ดว่าเธเกลืนซุปลงไปแล้วปล่อยมือที่ปิดปากเธอออก แต่ชีสหนุ่มรู้ทัน มืออีกข้างหนึ่งจึงยกขึ้นบีบจมูกโด่งรั้นบังคับให้เธอกลืนซุปลงไปในที่สุด
"ความเจ้าเล่ห์ของเธอไม่มีผลกับฉันหรอก"
อัสมาลเอ่ยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ไม่รอให้หญิงสาวได้ตั้งตัว มือหนาก็ตักซุปใส่ปากจนหมด และเริ่มบังคับให้เธอกินยาสมุนไพรเม็ดโตอีกครั้ง ณัชชาจำต้องกลืนยาลงท้องด้วยสีหน้าพะอืดพะอมอย่างที่อัสมาลเห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังจนได้ยินออกมาถึงนอกห้อง
ณัชชาจ้องหน้าอัสมาลเขม็งอย่างขุ่นเคือง ยิ่งเห็นเขาหัวเราะชอบใจก็ยิ่งขุ่นขวางในอารมณ์จนอยากจะหายหวัดเร็วๆ
"ไม่กินแล้วนะซุปหัวหอมนั่น ยาด้วย หายแล้ว"
อาการของณัชชาคล้ายเด็กสามขวบเข้าไปทุกที ทำให้เขารู้สึกเอ็นดูจนถึงขั้นอยากแกล้งเอาตามใจชอบ
หากแต่ชีคหนุ่มก็ได้แค่คิดเท่านั้น เพราะพอเขาก็มลงมองคนป่วยในอ้อมแขนอีกครั้ง ก็พบว่าเธอหลับไปแล้ว...
กลิ่นหอมดอกไม้จากเส้นผมและกลิ่นกรุ่นไอร้อนจากกายสาว ทำให้อัสมาลนึกอยากจะเชยคางคนป่วยขึ้นมาจูบ แต่ในเมื่อเธอหลับไปแล้ว ชีคหนุ่มจึงทำแค่เพียงจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากอุ่นเบาๆ แล้วเอนตัวหญิงสาวให้นอนในท่าสบายตัว ห่มผ้าห่มให้จนมิดคอ จากนั้นร่างสูงก็เดินออกจากห้องไป
ตกเย็นชีคอัสมาลกลับมาที่ห้องนอนของณัชชาอีกครั้ง เพราะตัวเองเผลอเรอหยิบตลับยาแก้ฟกช้ำที่หมอหลวงให้ไว้คิดมือไปด้วย แต่เมื่ออัสมาลเดินมาถึงสวนดอกไม้ที่อยู่ติดกับห้องนอนของหญิงสาว ชีคหนุ่มก็เหลือบไปเห็นบรรดานางรับใช้ที่พากันวิ่งวนในสวนเหมือนหนีอะไรสักอย่างและเมื่อชีคหนุ่มหันไปมองเขาก็รู้ได้ถึงตัวต้นเหตุพร้อมกับหลักฐานคือหนอนสีเขียวตัวยักษ์ในมือ
และเมื่อตัวต้นเหตุหันมาเห็นร่างสูงของชีคอัสมาล ร่างเล็กแต่ไวปานวอกก็รีบโยนหนอนในมือทิ้ง ก่อนจะวิ่งไปเกาะประตูห้องอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมโตจ้องมองชายหนุ่มเขม็ง
"เธอนี่มันถึกดีจริงๆ ป่วยไม่ทันข้ามวันก็ลุกขึ้นวิ่งได้ซะแล้ว"
หญิงสาวสะบัดหน้าหนี ก่อนจะหันกลับมาจ้องชีคหนุ่มอย่างระวังตัวอีกครั้ง
ชีคอัสมาลยืนอยู่ไม่ไกลหญิงสาวนัก ชายหนุ่มสวมเสื้อคลุม*มิชลาฮ์สูงศักดิ์เต็มยศ ในมือถือตลับบางอย่างกลมๆ พลางหมุนไปมา
"เป็นพวกเหนือมนุษย์ หรือเพราะพิษไข้มันเลยทำให้เธอเสียสติ"
อัสมาลเอ่ยเสียงเรียบ ทำหน้าสงสารกึ่งสมเพช ไม่สนใจดวงตากลมใสที่เริ่มเขียวขุ่นอย่างกินเลือดกินเนื้อของณัชชาเลยสักนิด
ให้ตายเถอะ!
เธอเกลียดสีหน้าของเขานัก และอยากจะฝากรอยช้ำไว้ที่ดวงตาสีสนิมนั่นสักรอย อยากเห็นของเหลวสีแดงๆไหลออกจากจมูกโด่งคมนั่นด้วยหมัดของเธอ
สรุปคือตอนนี้!
เธออยากทำร้ายร่างกายอีตาชีคขี้เบ่งเจ้าของนาม อัสมาล อับดุลลา อัล มาติน คนนี้เหลือเกิน!
"เอาไป..."
อัสมาลส่งตลับในเมืองให้ แต่ณัชชาไม่รับชีคหนุ่มจึงเลิกคิ้วขึ้น
"ก้นของเธอระบมอยู่ไม่ใข่เหรอ ยานี่จะช่วยเธอได้"
"เอาความหวังดีของคุณกองไว้ตรงนั้นแหละคุณชีค ฉันมันถึกอย่างที่คุณว่านั่นแหล่ะ ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก"
ณัชชายังปากดี ทั้งที่เข็ดขยาดต่อมือหนักๆของอัสมาล
"อยากโดนดีอีกใช่ไหม?"
ชีคหนุ่มขู่ ในเมื่อเธอหายป่วยเขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดดีอีก
"ถ้าอย่างนั้นฉันจะเข้าไปทาให้เธอเอง"
พูดเสร็จก็ดันประตูให้เปิดออกและพยายามจะแทรกกายเข้ามา
"อย่าบ้านะคุณชีค!"
ณัชชาขู่ฟ่อ ออกแรงต้านทานแรงของเขาเต็มที่
"เอายามา ทาเองได้ ออกไปไกลๆเลย!'
มือบางตรงเข้าฉกตลับยาในมือใหญ่อย่างรวดเร็ว ก่อนกลับปิดประตูตามเสียงดังสนั่นปิดกั้นคนสองคนออกจากกันราวเสียงระฆังขั้นยก ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะมองยังประตูห้องนอนของแม่ตัวดีด้วยความรู้สึกระอาใจ หากแต่รอยยิ้มบางเบากลับปรากฏขึ้นที่ริมฝีปาก.....
โปรดติดตามตอนต่อไป
Ranadda : เขียน
*มิชลาฮ์ คือ เสื้อคลุมที่ใช้สวมทับดิชดาชา