เสียงเพลงดังกระหึ่มในผับแห่งหนึ่งใจกลางเมือง เรียกบรรอรนักท่องราตรีได้เป็นอย่างดี หญิงสาวสวยร่างบางในชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวกระโปรงสั้นเหนือเข่าผิวขาวเนียนสะอาดตา เดินเข้ามาในผับ ดึงดูดสายตาบรรอรหนุ่ม ๆ ได้เป็นอย่างดี
“เฮ้ย! โอ้โห แม่เจ้าโว้ย!! อีธาน ดูดิ” ชายหนุ่มหล่อเหลาเรียกเพื่อนชาย ให้หันดูหญิงสาวที่เดินเข้ามาด้วยท่าทีมาดมั่น
“แกสนไหม?” วายุเรียกอีธานอีกครั้ง
อีธานมองหญิงสาวที่เดินผ่านหน้าเขาไป สวยเหลือเกิน เครื่องสำอางถูกแต่งแต้มแค่นิดหน่อยเธอก็สวยดูดีไปเสียหมด เขามองตามตาไม่กะพริบ
“เฮ้ย ไอ้อีธาน จะไปไหนวะ?” อีธานเดินเข้าไปหาหญิงสาวคนนั้นทันที แต่ต้องหยุดฝีเท้าเมื่อมีชายคนหนึ่งตัดหน้าไปเสียแล้ว เขาจึงต้องเดินหันหลังกลับมาหาเพื่อนอีกตามเคย
“ฮ่า ๆ ๆ ไม่ทันหรือไงเพื่อน!” วายุหัวเราะเยาะเพื่อนที่เข้าไปหาเธอไม่ทัน
“อ้าวเฮ้ย! เดวิสมาพอดีเลย” วายุหันไปมองเพื่อนอีกคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาใหม่
“มีอะไรกันเหรอ?” เดวิสถาม
“ก็ไอ้อีธานน่ะสิ! แห้ว ฮ่า ๆ ๆ”
“แห้ว ใครวะ?” เดวิสถามด้วยความสงสัย ปกติอีธานไม่เคยต้องเดินเข้าไปหาหญิง มีแต่หญิงเดินเข้ามาหาเขาทั้งนั้น
“นั่นไง!!!” แล้ววายุชี้นิ้วไปหาหญิงสาวที่เต้นอยู่กลางฟลอร์ อีธานมองตาไม่กะพริบเพราะเธอสวยมาก
“อ้อ!!! นั่นน่ะเหรอ?” เมื่อเห็นหญิงสาว เดวิสก็ร้องอ๋อขึ้นมาทันที
“แกรู้จักเหรอ?” อีธานหันมาถามอย่างตื่นเต้น
“รู้สิ นั่นน่ะ ชื่อมุกไหม มงคลวิเศษรุ่งเรือง ลูกสาวคุณนิรุตลูกหนี้รายใหญ่ของบริษัทนายไง” เดวิสแนะนำให้อีธานรู้จัก
“อะไรนะ ลูกหนี้?” อีธานทวนอีกครั้ง ลูกหนี้บริษัทเขา แล้วทำไมเขาไม่รู้เรื่อง
“อืม.. สงสัยนายคงยังไม่รู้สินะ ว่าบริษัทในเครือมงคลวิเศษรุ่งเรืองจะล้มละลาย ในตอนนี้ก็มีแต่คุณมุกไหมเท่านั้นที่คอยประคับประคองบริษัท” เดวิสชี้ให้มองตามไปอีกรอบ อีธานเห็นผู้ชายมากหน้าหลายตามายืนรายล้อมเธอเหมือนกับอรวล้อมเดือน ใบหน้าสวยยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร แต่ความเป็นมิตรของเธอนั้นกลับทำให้อีธานรู้สึกไม่ชอบขึ้นมาทันที เขาหันหน้าไปทางอื่นเพราะไม่อยากเห็นภาพนั้น
“อ้าว ไม่มองแล้วเหรอ? ไหนว่าสนใจเธอไง” วายุกระเซ้าเพื่อนซี้ที่หันมาดื่มแอลกอฮอล์อย่างกับน้ำเปล่า
“ไม่ล่ะ” อีธานตอบอย่างเซ็งๆ แต่ก็อดเหลือบไปมองไม่ได้
ที่โต๊ะมุกใหม่ มีชายหนุ่มนั่งข้าง ๆ เธอ เขาพยายามโอบเอวของเธอ จนมุกไหมต้องพยายามดันมือเขาออก
“นี่พี่ก้องเมาแล้วเหรอค่ะ” หล่อนแกล้งถาม เพื่อให้เขาหยุดการการกระทำนั้นเสีย
“ยังเลย เอาชนแก้วกับพี่หน่อยสิมุก” มุกไหมยอมชนแก้ว แต่แก้วนี้เธอดื่มไปแล้วรู้สึกแปลก ๆ เลยแกล้งให้มันหกใส่เสื้อแล้วขอเขาห้องน้ำ
เกรชกำลังเต้นอยู่บนฟลอร์ เธอกำลังเต้นยั่ว... เดวิสหัน กลับไปมองหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังเต้นยั่วยวน ร่างระหงในชุดเดรสชมพูนั้นดูเซ็กซี่เหลือเกิน หน้าอกที่ล้นออกมาจากเสื้อนั้นทำให้ใจเขาเต้นแรงแต่ผู้หญิงคนนี้อันตราย บางทีที่เธอมาอยู่ที่นี่ อาจเป็นเพราะอยากจะจับผู้ชายรวยๆ ก็ได้ เดวิสแอบมองอีธานที่ยังจ้องหญิงสาวที่กลับไปนั่งโดยมีหนุ่มข้าง ๆ คอยยื่นแก้วชนกับเธออยู่
“ยังสนใจเธออยู่เหรอ?” เดวิสหันไปถามอีธาน ซึ่งเป็นคำเดียวที่วายุถาม
“คงไม่แล้วว่ะ แกไม่เห็นเหรอเธอนั่งกับแฟน”
“ผู้หญิงสอง ผู้ชายหนึ่ง เธออาจจะเป็นแฟนคนที่ใส่เดรสชมพูอยู่ก็ได้นะอีธาน”
“ใช่ ๆ ชอบก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปสิวะ” วายุพูดเสริม
“แกแน่ใจนะ ว่าจะไม่ลองดูก่อน!” เดวิสถามอีกครั้ง เนื่องจากเป็นเพื่อนกันมาหลายปี จึงทำให้รู้ใจกัน แค่มองตาก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่ อีธานไม่ตอบได้แต่นั่งมองหญิงสาวที่กำลังชนแก้วกับชายหนุ่มที่โต๊ะข้างหน้า เขากรอกเหล้าเข้าปากไปด้วย...ใจคิดหยันคืนนี้คงจะไปจัดกันต่อที่โรงแรมสินะ
“ถ้าสนใจก็ลองดูสักคืนสิ แค่เล่นๆ” เดวิสแนะนำเพื่อนซี้ที่ตอนนี้นั่งจ้องเธอจนแทบจะกลืนกิน
“ก็ดีเหมือนกัน” อีธานเริ่มเห็นด้วยแค่ให้เงินเธอนิดๆ ไป ผู้หญิงชอบเที่ยวกลางคืนก็อย่างนี้แหละอยากหาความสนุกชั่วครั้งชั่วคราว
อีธานเดินตามหญิงสาวที่ขอตัวเข้าห้องน้ำ อีธานคิดแล้วยิ้มที่มุมปาก แล้วเอ่ยกับเพื่อน
“เดี๋ยวฉันมานะ”
“เฮ้ยมันเอาจริงว่ะ” เดวิสเอ่ยกับวายุ ที่นั่งมองอีธานตามสาวร่างบางคนนั้นไป
“ถ้าผู้ชายที่นั่งด้วยไม่ใช่แฟนเธอ ฉันรับรองว่าไม่รอดมืออีธานไปได้หรอก” ว่ายุบอกเดวิส เพราะเขาไม่เคยเห็นอีธานพลาดเรื่องผู้หญิงเลยสักครั้ง
“Hey This is the ladies’ room.”
“นี่คุณ นี่มันห้องน้ำผู้หญิงนะคะ คุณเขามาทำไม”
มุกไหมรีบตะโกนดังลั่นอีกครั้งด้วยภาษาไทย ทำให้อีธานต้องเดินมาใช้มือปิดปากเธอ
“เงียบเดี๋ยวนี้!!.. ถ้าไม่อยากโดนข่มขืนในห้องน้ำ” มุกไหมเงียบลงทันที แล้วมองดูชายแปลกหน้าที่ปิดปากเธออยู่อย่างหวั่นๆ เขาพูดไทยได้ เขามาจากไหน อยู่ ๆ ก็มาจู่โจมเธออย่างนี้ หรือเขาจะจำคนผิด เหรอว่าจะเมาเสียสติ ในใจเธอคิดว่าจะหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายออกมายังไง
“อย่าร้องนะ!” หญิงสาวพยักหน้าหงึกๆ แล้วอีธานก็ค่อยๆ ปล่อยมือออกจากปากเธอ อีธานไม่พูดอะไรนอกจากพิจารณาร่างที่เปียกน้ำ ชุดเดรสของเธอบางมาก น้ำสีแดงเลอะปนกับชุดสีขาวสะอาด มันเปียกจนแนบกับเนื้อใน เขามองเธอด้วยสายตากระหายทำให้มุกไหมต้องยกมือขึ้นมาปิดเอาไว้
“มองอะไร!” มุกไหมถามด้วยเสียงสั่น เมื่อเห็นสายตานั้น
“ไม่ต้องทำมาเป็นกลัวหรอกน่า” อีธานเดินเข้าไปหาทำให้มุกไหมต้องเดินถอยหลังหนีจนหลังติดกำแพง
“คุณจะทำอะไร?”
“ไปที่คอนโดฉันคืนนี้สิ แสนหนึ่ง โอเคมั้ย?”
เผี๊ยะ!!!
ฝ่ามือเล็กปะทะกับใบหน้าของชายหนุ่ม อีธานหันมามองด้วยสายตาโกรธเคือง แล้วเธอยังมาตบหน้าเขาอีก
ฝ่ามือเล็กประทะกับใบหน้าของชายหนุ่ม อีธานหันมามองด้วยสายตาโกรธเคือง คืนละแสนก็ถือว่าแพงไปสำหรับเธอแล้ว แล้วเธอยังมาตบหน้าเขาอีก หรือว่าอยากจะได้มากกว่านี้
“มันจะมากไปแล้วนะ แสนหนึ่งสำหรับเธอมันก็มากแล้วนะ” มุกไหมได้ยินอย่างนั้น ความโกรธก็พุ่งสูงขึ้นมา เธอเงื้อมือหวังจะตบหน้าเขา แต่เขาก็เร็วกว่ารับมือเล็กๆ นั้นไว้ได้ แล้วกระชากตัวมุกไหมเข้ามาหา จนทำให้ตัวเธอชนกับแผงอกกว้าง อีธานไม่รอช้ารีบประกบริมฝีปากอวบอิ่มนั้นทันที ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครดูถูกมากขนาดนี้ เกลียดสายตาที่มองมานัก......อยากจะควักลูกตาออกมาเหลือเกิน
มุกไหมตกใจรีบผลักร่างสูงออก แต่ร่างสูงนั้นก็ไม่ขยับ เธอทั้งทุบทั้งตี แต่ร่างสูงนั้นก็ไม่สะเทือนกลับบดริมฝีปากแรงขึ้นกว่าเดิม มุกไหมไม่กล้าลืมตามองได้แต่หลับตาปี๋ กัดฟันไว้แน่น เธอหายใจไม่ออก ไม่คิดเลยว่าการมาที่นี่เพื่อให้ตัวเองได้หายเครียดเรื่องแต่งงานและหนี้สิน จะทำให้เธอต้องมาเจอกับผู้ชายโรคจิตคนนี้
อีธานเลื่อนมือมากอดเอวบางเอาไว้แล้วลูบไล้ไปทั่วแผ่น หลังทำให้มุกไหมสะดุ้งสุดตัว อีธานล้วงมือเข้าไปในเสื้อสายเดี่ยวตัวบางนั่น
มุกไหมพยายามผลักร่างสูงแต่ก็ไม่สำเร็จมือหนาลูบไล้แผ่นหลังเรียบเนียน ริมฝีปากก็ยังคงเคล้าคลึงริมฝีปากอวบอิ่มนั้นอยู่
เขาปลดตะขอเสื้อชั้นในออกในตอนนี้เธอต้องเกาะเสื้อเขาเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองล้มลงไป ในสมองมึนงงไปหมด
อีธานลูบไล้ไปเรื่อย ร่างเธอสั่นสะท้านเมื่อมือหนาเลื่อนต่ำลงไปถึงสะโพก แล้วหญิงสาวก็ร้องครางออกมา
“อื้อ...” เขาได้จังหวะสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากแล้วจัดการไล้เลียไปตามไร ฟันแล้วมาหยอกเย้ากับลิ้นเล็ก ลิ้นเล็กพยายามหลบเขา แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกสยิวมากขึ้นเขาผลักร่างเล็กไปนั่งที่อ่างล้างมือ
มุกไหมแอ่นหลังขึ้นเพื่อพยายามหลบมือร้อนแต่ก็ทำให้หน้าอกอวบไปเสียดสีกับหน้าอกแกร่งของเขา
เขาร้องครางออกมาอย่างพอใจเขาลากมือลงไปยังขาเนียนสวยแล้วลูบไล้ขึ้นมาถึงหน้าอกอวบ
มุกไหมตกใจอีกครั้งเมื่อมือหนากำลังคลึงเคล้นหน้าอกเธออยู่ แล้วเขาก็ละริมฝีปากลากลงมาหาตามลำคอ เท่านั้นร่างบางก็หมดสติลง อีธานหนุ่มหล่อวัยสามสิบสอง มองดูร่างงามของหญิงสาวที่บัดนี้อ่อนยวบลงมาในอ้อมกอด เขาไม่รู้จะทำยังไงจึงต้องอุ้มร่างหญิงสาวขึ้นมาแล้วหยิบกระเป๋าของเธอติดมือมาด้วย อีธานเปิดประตูห้องน้ำก็พบว่ามีผู้หญิงหลายคนต้องการจะใช้ห้องน้ำ
“ว้าย!!! ตายแล้ว!” เสียงอุทานของผู้หญิงคนหนึ่งดังลั่น ผู้หญิงทุกคนต่างจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆ ส่งเสียงนินทาเป็นนกกระจิบ
“นี่!!!! เขาเข้าไปทำอะไรกันน่ะ ดูสิ! ออกมาหมดเรี่ยวหมดแรง” ผู้หญิงในชุดสายเดี่ยวสีแดงพูดขึ้น
“นั่นน่ะสิ สงสัยจะหนักไปหน่อย”
ถ้าพวกเธออยากพูดอยากถามก็ช่วยพูดให้มันสร้างสรรค์กว่านี้ได้ไหม ความอดทนของเขาเริ่มจะหมดลง เขาจึงหันหลังกลับมา
“พวกคุณเงียบไปเลยดีกว่าครับ ผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผม ไม่เกี่ยวกับพวกคุณ” อีธานเอ่ยเสียงเรียบแต่หนักแน่น เขาต่อว่าผู้หญิงปากไวพวกนั้น
เสียงเงียบลงทันที อีธานอุ้มหญิงสาวมาที่รถ เขาเปิดประตูแล้วจัดการเอาของเธอนั้นเข้าไปในรถ แล้วเสียงโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น
“ว่าไง?”
“อีธาน แกอยู่ไหนวะ?” เดวิสกรอกเสียงโทรศัพท์มาจากโต๊ะที่เขานั่งรออีธานอยู่
“เออ! ขอโทษทีว่ะเพื่อน สงสัยฉันจะไม่ได้เข้าไปแล้วล่ะ ยังไงก็ขอให้พวกนายสนุกกันต่อนะ”
“อะไรวะ!” เดวิสถามด้วยความสงสัย
“ฉันได้หญิงคนเมื่อกี้แล้วล่ะ สงสัยคืนนี้จะยาวว่ะเพื่อน”
เขาพลางเหลือบมองหญิงสาวที่ไม่ได้สติและทำท่าร้อนรนเหมือนโดนของอะไรสักอย่างในรถ ร่างบางเนินอกอวบของเธอนั้นช่างน่าหลงใหลเสียจริง ๆ
“จะไวไฟเกินไปละมั้ง ห๊า…”
“เออๆ แค่นี้ก่อนนะ” แล้วอีธานก็กดวางโทรศัพท์ทันที