คำสัญญา

1823 คำ
คฤหาสน์หลังใหญ่ขนาดกว้างทอดตัวยาวเชื่อมถึงกัน อาณาบริเวณโดยรอบ เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพรรณให้ความร่มรื่นดูผ่อนคลาย รอบตัวตึกเป็นกำแพงคอนกรีตสูงประมาณสองเมตรกั้นสายตาจากภายนอก ถนนคอนกรีตผิวเรียบทอดตัวสู่คฤหาสน์หลังงาม รถยุโรปคันดำใหญ่แล่นผ่านประตูรั้วที่ค่อย ๆ ปิดลง แสงจากดวงอาทิตย์ยามจะลับขอบฟ้าในเวลาเกือบพลบค่ำสาดส่องถึงหน้าตัวตึกกว้างที่เชื่อมต่อกัน หน้าคฤหาสน์หลังงามมีอ่างน้ำพุหินอ่อนขนาดใหญ่และถนนคอนกรีตเป็นวงเวียนรอบล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ทำให้อาณาเขตหน้าคฤหาสน์ดูร่มรื่นกว้างขวาง ร่างบางในชุดกระโปรงหลวมๆ สีชมพูหวาน กำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดก้มหน้ามองปลาคราฟซึ่งไปมาในอ่างขนาดใหญ่อย่างเหม่อลอย “ทำอะไรอยู่เหรอลูก?” เสียงทุ้มแหบที่ดังขึ้นในทันใด ทำให้ร่างที่ก้มต่ำสะดุ้งเฮือก ยืดตัวตรงในทันทีเผยวงหน้าเรียวรูปไข่ราวกับนางเอกละคร แต่ใบหน้านั้นไม่ได้ยิ้มหวานรับคนเรียกขานอย่างที่ควรจะเป็น แสงสุดท้ายของวันส่องกระทบใบหน้าขาวนวลตาดูผุดผาด คิ้วโก่งเรียวได้รูป ดวงตากลมโต จมูกโด่งเล็กรับริมฝีปากสีกุหลาบ เส้นผมสีดำเป็นลอน ยาวถึงกลางหลัง รูปร่างบางนั้นสูงถึงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร “คุณพ่อ มุกตกใจหมดเลยค่ะ” มุกไหม มงคลวิเศษรุ่งเรือง ในวัยยี่สิบสองปี หันไปต่อว่าผู้เป็นบิดา คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น จ้องร่างสูงใบหน้าของผู้เป็นบิดา นิรุต มงคลวิเศษรุ่งเรือง “พ่อจะให้เราหมั้นไว้ก่อนหนูพร้อมมั้ย?” นิรุตที่ลงจากรถเดินมาถามลูกสาว “หนูก็บอกพ่อไปแล้วนี่คะ ว่าหนูยังไม่พร้อม” เธอตอบผู้เป็นบิดาไปด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย “พ่อว่าหนูควรจะลองคิดดูอีกครั้งนะ” นิรุตได้หมายมั่นลูกสาวให้กับลูกชายเจ้าของรีสอร์ตใหญ่ทางภาคเหนือ และธุรกิจในเครืออีกมากมาก ล่าสุดนี้เพิ่งเปิดรีสอร์ตสุดหรูเอาใจมหาเศรษฐีกับพวกคนดังให้ไปพักบนเกาะส่วนตัวที่ภูเก็ต อีธานที่ยังเป็นเจ้าของโรงแรมระดับห้าอรวหลายแห่งทางภาคเหนือและภาคใต้ มรดกตกทอดทางบรรพบุรุษฝ่ายพ่อนั่นแหละ แล้วเขายังมีเกาะส่วนตัวอีกด้วย ดังจนได้ขึ้นนิตยสารการท่องเที่ยวระดับโลกเลยทีเดียว อีธานเพิ่งกลับมาเมืองไทย แล้วก็มาสร้างรีสอร์ตที่เกาะส่วนตัว “หนูยังไม่อยากแต่งงานค่ะ เรื่องหนี้สินเดี๋ยวหนูจะขอเจรจรากับพ่อเขาเองค่ะ” “พ่อให้หนูกับอีธานหมั้นกันไว้ก่อนเฉย ๆ นะ” “หนูว่าเรามาหาทางออกเรื่องนี้ร่วมกันดีกว่ามั้ยค่ะ” “พ่อเคยรับปากเอาไว้ พ่อไม่อยากผิดคำพูด พ่ออยากขอให้หนูรับหมั้นอีธานเอาไว้ก่อน เรื่องแต่งงานเดี๋ยวเราค่อยหาทางอีกทีนะ” “คุณพ่อคะ ตอนนี้โลกมันไปถึงยุคไหนแล้ว ยังจะมาบังคับให้แต่งงานอีก เรื่องหนี้สิน เราขายบ้านนี้ไปก็สิ้นเรื่องค่ะ” เสียงโทรศัพท์สมาร์ตโฟนในกระเป๋ากางเกงของผู้เป็นบิดาดังขึ้น จึงต้องรีบล้วงเอามาดู “เดี๋ยวพ่อขอตัวสักครู่นะลูก” เมื่อเห็นเบอร์โทรเข้าจากพ่อของอีธานนิรุตจึงรีบเดินออกไป มุกไหม เดินกลับเข้าคฤหาสน์ไป หญิงสาวทรุดตัวนั่งลงที่โซฟากำยี่สีแดง ไม่นานนักผู้เป็นบิดาจึงเดินเข้ามาหาลูกสาว “เมื่อกี้!..พ่อยังคุยกับมุกไม่จบเลยนะ?” “ก็อย่างที่มุกบอกพ่อไปค่ะ” “หนูจะช่วยพ่อสักครั้งไม่ได้เหรอลูก” “เรื่องอื่นมุกช่วยได้ค่ะ แต่เรื่องแต่งงานมันเรื่องใหญ่นะคะพ่อ” ด้วยอารมณ์ที่บูดบึ้งหญิงสาวเลยพูดกับผู้เป็นบิดาไปแบบนั้น “อีธานเขาดูไม่เหมาะสมกับลูกพ่อตรงไหนเหรอ?” “ก็หนูยังไม่พร้อมนี่คะ คุณพ่อ” มุกไหมตอบแล้วก็ถอนใจเฮือกใหญ่ไม่มีทีท่าปลาบปลื้มกับสิ่งที่ผู้เป็นบิดาบอกเลยสักนิด มุกไหมอยากเรียนต่อปริญญาโทและทำงานในกระทรวงการต่างประเทศเหมือนบิดา อย่างที่ตั้งใจเอาไว้พอกลับมาหวังจะออดอ้อนบิดาเพื่อจะเดินตามความฝัน แต่กลับต้องมาเจอสิ่งที่เหมือนฟ้าผ่าลงกลางหัวใจ และเธอก็ยังไม่เคยเจอกับอีธานเลยสักครั้ง จะให้มาหมั้นหมายกับใครก็ไม่รู้ได้ยังไง “การแต่งงาน มันเรื่องใหญ่นะคะพ่อ” “พ่อตกลงกับคุณเอกภพไปแล้วนะ มุกกำลังจะทำให้พ่อเสียคำพูดนะลูก” “ปกติคุณพ่อมีเหตุผลมาก แต่ทำไมรอบนี้ถึงไม่ยอมฟังหนูบ้างคะ” มุกไหม ขึ้นเสียงกับผู้เป็นบิดา พร้อมกับเดินหนีไปออกไปดื้อ ๆ ทำให้ผู้เป็นบิดาถึงกับส่ายหน้า เอกภพพ่อของอีธานได้คุยไว้กับนิรุต เมื่อหลายปีที่ผ่านมา เขาตั้งใจไว้ว่า เมื่อมุกไหมเรียนจบจะให้แต่งงานกับอีธาน เพราะเอกภพเคยช่วยเหลือเรื่องคฤหาสน์หลังงามที่สองพ่อลูกอยู่อาศัยนี้มาก่อน มุกไหมก้มมองอ่างบัวอีกครั้งอย่างใจลอย ทำให้เพ็ญศรีแม่นมของเธอมองมาด้วยความเห็นใจจน ต้องเข้ามากุมมือเธอเอาไว้ “เดี๋ยวป้าจะช่วยพูดกับพ่อให้นะหนูมุก คุณพ่อต้องเกรงใจป้าบ้างแหละ” หญิงวัยชรา อายุหกสิบเจ็ดผู้ที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่ยังวัยเยาว์เอ่ยขึ้น “หนูก็พยายามแล้ว แต่คุณพ่อยืนยันคำเดิม”     มุกไหมเม้มปากน้ำตาซึม แต่ไหนแต่ไรมาบิดาไม่เคยบังคับใจเธอเลยสักครั้ง เพ็ญศรีเห็นอาการนั้นแล้วก็รวบตัวหญิงสาวเข้ามากอดอย่างปลอบประโลม “ไม่เอาน่า อย่าขี้แยสิคะ ถ้าคุณพ่อบังคับจริงๆ เราก็ต้องหาทางออกให้ได้ ป้าไม่ยอมให้คุณพ่อมาบังคับตัวหนูมุกหรอก” “แล้วป้าจะช่วยมุกยังไงเหรอคะ?” “ยังไม่รู้เลยป้าขอคิดดูก่อน” แม่นมเธอตอบแล้วพลางลูบแผ่นหลังของมุกไหมเบาๆ อย่างรักใคร่ แม้มุกไหมจะไปเรียนที่เมืองนอกมาเกือบสี่ปีแต่ไม่ได้ทำให้ความผูกพันของเธอและเพ็ญศรีห่างเหินกันเลย “คุณหนูคะ ได้เวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ คุณพ่อรอรับประทานอาหารอยู่ค่ะ” “เดี๋ยวหนูตามไปค่ะ” มุกไหมบอกก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาให้แห้ง แล้วเดินตามเพ็ญศรีไป ระหว่างทานข้าว มุกไหมไม่พูดจากับผู้เป็นบิดาเลยทำให้เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ นี่เขาคิดถูกหรือเปล่าที่ยอมทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับเอกภพ “คุณหนูมายืนทำอะไรกันอยู่ตรงนี้ค่ำๆ มืดๆ คะ” คนถามเดินออกมาจากในบ้าน มุ่งตรงมายังหน้าตึก ทำให้มุกไหมรีบเช็ดน้ำตาออกทันทีเพื่อรับหน้าเพ็ญศรี เพ็ญศรีทำงานและรับเงินเดือนตั้งแต่ยังหนุ่ม ๆ สมัยที่แม่ของมุกไหมแต่งงานกับพ่อ ใหม่ๆ ความที่ช่วยเลี้ยงดูมุกไหมจนโตด้วยความรักเสมือนเป็นแม่อีกคน “กำลังจะเข้าไปแล้วละค่ะ พอดีหนูคิดอะไรเพลิน ๆ ค่ะ” พลางรีบเช็ดน้ำตา เพ็ญศรีจึงไม่เห็นที่มุกไหมเช็ดน้ำตาจนแห้ง มุกไหมไม่อยากให้แม่นมเธอคิดมาก เพราะเธอเป็นคนใจอ่อนและขี้กังวลเหลือเกิน หากครอบครัวคนใดไม่สบายหรือมีปัญหา เพ็ญศรีก็จะทุกข์ใจไปด้วย ราวกับความทุกข์นั้นเป็นของตัวเธอเอง เพ็ญศรีดูแลคฤหาสน์หลังนี้มาเป็นเวลากว่ายี่สิบปีได้อย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่อง สมกับที่แม่ของเธอให้ความไว้วางใจ เมื่อมุกไหมกลับมาที่ห้องนอน จึงโทรศัพท์ไปปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนสนิทของเธอ “มีอะไรเหรอถึงโทรหาเกรชได้?” “พ่อจะให้มุกแต่งงานจ้ะเกรช” “ด่วนขนาดนั้นเหรอมุก!!!.” “ใช่แล้ว วันนี้พ่อก็พูดอีก” “เออ!!... แล้วหน้าตาเขาเป็นยังไงเหรอมุก” “มุกยังไม่เคยเจอเขาเลย” “เอางี้นะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เกรชไปหามุกที่บ้านละกัน” คืนนี้เลยทำให้มุกไหมนอนไม่หลับ และเธอก็คิดถึงแม่ วิลาวัลย์แม่ของมุกใหม่นั้นได้เสียชีวิตไปตั้งแต่เธอเด็ก ๆ แล้ว เย็นวันนี้ เกรชเพื่อนสนิทของมุกไหมก็มาหาด้วยความเป็นห่วง “วันนี้วันเสาร์ เกรชไม่มีเรียน มุกก็เพิ่งกลับมา เราขอคุณพ่อออกไปเที่ยวกันดีมั้ย? มุกจะได้ผ่อนคลาย แล้วเราค่อยคุยกัน” เกรชเสนอเพื่อนสาว เพราะดูแล้วตั้งแต่กลับมาจากเมืองนอกมุกไหม คงยังไม่ได้ออกไปไหนมาไหน “สาวๆ ไปกันเถอะค่ะ พ่ออนุญาต” นิรุต พ่อของมุกไหม รีบบอกเมื่อได้ยินเสียงของสองสาวที่เพิ่งคุยกัน “สวัสดีค่ะ คุณพ่อ” เกรชรีบสวัสดีชายวัยกลางคนที่รีบเดินมาหาเธอทั้งสอง “สวัสดีจ้ะ!..หนูเกรชใช่มั้ยเนี่ย” “ค่ะ คุณพ่อนี่ความจำดีนะคะ เกรชไม่ได้มาตั้งนานคุณพ่อยังอุตส่าห์จำเกรชได้” “เราไปไหนกันดีมุก คุณพ่ออนุญาตแล้วไม่ต้องขอให้เหนื่อยเลยเห็นมั้ย?”  “ที่ไหนก็ได้แล้วแต่เกรชเลย” “งั้นโอเคเลย เราไปก่อนนะคะคุณพ่อ” ไม่นานนักมุกไหมก็แต่งตัวออกไปพร้อมกับเกรชเพื่อนสาวของเธอ “กรี๊ดดด กรี๊ดดด พี่อีธาน กรี๊ดดด” เสียงกรีดร้องของสาวจริงสาวเทียมดังไม่ขาดสาย เมื่อชายร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาเดินเข้ามาในผับแห่งหนึ่ง เจ้าของดวงตาสีฟ้า รถลีมูนซีนจอดอยู่หน้าผับเขาสั่งบอดี้การ์ดว่าไม่ต้องตามเข้าไป เพราะเขามีเพื่อนรออยู่ในนั้นถึงสองคน ชื่อของเขาเป็นภาษาสากล Ethan Green Hawke      นักธุรกิจหนุ่มวัยสามสิบสองปีเขาเพิ่งเดินทางมาจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษเพื่อมาหาพ่อที่เมืองไทยได้ไม่นาน วันนี้เขารับปากเพื่อนว่าจะมาเที่ยวตามสัญญา เขาไป ๆ มา ๆ ระหว่างไทยและอังกฤษเพราะมีธุรกิจของผู้เป็นบิดาที่ให้เขาต้องรับผิดชอบ เขาเดินแหวกวงล้อมของสาว ๆ มายังกลุ่มเพื่อน ๆ ของเขาที่รออยู่ น้ำเสียงทุ้มต่ำนุ่มๆสำเนียงภาษาอังกฤษ เอ่ยถามพร้อมกับส่งรอยยิ้มบาดใจให้สตรีคนที่มองเห็นใบหน้าและรอยยิ้มของเขาจนเธอคนนั้นแทบจะกรี๊ดสลบ ความโด่งดังจากหนังสือท่องเที่ยวระดับโลก เขาเป็นที่ใฝ่ฝันของบรรอรสาว ๆ มากมาย และยังเป็นเจ้าของเกาะหลายที่ในเมืองไทย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม