ตอนที่ 6

2002 คำ
วันนี้บนรถคนค่อนข้างเยอะ ทั้งนักเรียนและชาวบ้านที่ไปธุระในเมือง ทำให้ที่นั่งเแทบไม่มี เหอตี้ ขึ้นมากันที่ให้ อิงเยว่ ได้นั่งส่วนเขากับหลี่เจี้ยน ยืนอยู่ตรงพนักเก้าอี้ที่อิงเยว่ นั่งอยู่นั่นเองเพื่อกันไม่ให้คนอื่นมายืนใกล้เธอ เหอตี้แอบมองด้านข้างของ อิงเยว่ ที่เขาช่วยขึ้นจากน้ำในวันนั้นตัวเธอซีดและยังหยุดหายใจไปพักหนึ่งด้วย ก่อนเขาจะจับเธอเขย่าและกลับมาหายใจอีกครั้ง ตอนนั้นด้วยความชุลมุนจึงไม่ค่อยได้สังเกตหน้าตาของเธอมากนัก แต่สัมผัสได้จากความใกล้ชิดว่าเธอค่อนข้างจะมีสัดส่วนที่เกินตัวอยู่สักนิด เขาจึงรีบนำเสื้อของเขาไปคลุมตัวเธอไว้เพราะไม่อยากให้ตกเป็นเป้าสายตาของใครอีก ถึงจะตัวเล็กผอมบางแต่บางส่วนก็ไม่ได้เล็กตามตัวเลยสักนิด ตอนที่เขาเดินมาถึงท่ารถประจำทาง พอเห็นเธอก็พอจำได้ จึงได้แวะมาถามเพราะถ้าปกติ คนที่ตกน้ำเย็นขนาดนั้นน่าจะเป็นไข้ ยังลุกไม่ขึ้นด้วยซ้ำ เขากะว่าวันนี้เข้าเมืองจะซื้อของไปเยี่ยมเธอตอนเย็นนี้ทีเดียวเลย แต่พอได้เห็นเธอสบายดีและไปเรียนได้ตามปกติ จึงแปลกใจอยู่บ้างนิดหน่อย อิงเยว่ ที่เขาเห็นวันนี้ เป็นสาวน้อยที่ดูมีชีวิตชีวา รอยยิ้มน้อยๆ นั่นช่างมีเสน่ห์ จนไม่อยากให้เธอยิ้มให้ใครอีก เหอตี้ ยอมรับว่าเขาได้คิดว่าเธอเป็นภรรยาของเขาแล้ว และเขาก็ค่อนข้างจะขี้หวงเสียด้วยสิ ตลอดที่ผ่านมา ไม่ใช่ไม่มีคนคอยทิ้งสายตาให้ แต่เขาไม่เคยมองใครหรือถูกตาใครสักคน กับอิงเยว่เองตอนช่วยเหลือเมื่อวาน เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเพียงแต่ช่วยคนๆ หนึ่งไม่ให้จบชีวิตเท่านั้น แต่พอเห็นผู้คนที่เห็นตอนเขาช่วย เธอขึ้นมาและยังอุ้มเธอแนบชิดเพื่อช่วยปฐมพยาบาล เขาก็รู้แล้วว่า หากเธอฟื้นคืนคงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่อย่างนั้นสาวน้อยผู้นี้คงมีตราบาปไปชั่วชีวิต เขาไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือไม่พอใจ เพียงแต่ทำใจยอมรับคิดเสียว่าคงเป็นลิขิตสวรรค์มาแล้ว วันนี้จึงจะโทรไปบอกทางบ้านเพื่อสอบถามพ่อแม่ว่าเขาจะต้องทำอย่างไรบ้างเท่านั้นเขารู้ว่าทางบ้านคงไม่มีทางขัดแย้งเพราะบิดาเป็นคนที่ซื่อตรงและยึดหลักตามขนบธรรมเนียมอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เขากับรู้สึกหวงแม้แต่รอยยิ้มของสาวน้อยผู้นี้แล้ว และไม่อยากให้มีชายใดได้เข้าใกล้เธอ จึงได้ยืนปิดเธอไว้มิดชิด อิงเยว เงยหน้ามองคนตัวสูงที่ยืนบังเธอจนมิด หลี่เจี้ยน ยืนเยื้องมาด้านหลังพี่สาวมานิดหน่อย หลี่เจี้ยนเห็นว่า ว่าที่พี่เขยยืนบังพี่สาวอยู่ จึงไม่ได้พูดอะไร เรื่องเมื่อวานเขาก็รู้เรื่องดีทุกอย่าง ยังเป็นห่วงพี่สาวว่าถ้าคนที่ช่วยพี่สาวไม่รับผิดชอบพี่สาวต้องเสียหายและถูกคนอื่นดูถูกอีกนาน แต่พอเห็นแบบนี้ก็ค่อยสบายใจ พี่เขยดูจะหวงพี่สาวขนาดนี้และยังบอกว่าตอนเย็นจะไปหาที่บ้านอีก คงเป็นอื่นไปไม่ได้แล้ว " เอลิค" " ครับ เอลิคกำลังสแกนคลื่นสมองของเขารอระบบประมวลผลสักครู่ครับ" " อืม " " หวัง เหอตี้ ผลสแกนคลื่นสมองเป็นเขียว แสดงว่าเขาเป็นคนคิดดี ฉลาด และดูจากแววตาไม่หลุกหลิกมีความจริงใจอยู่ เต็ม 100% คนนี้ซื่อตรง จริงจังและมั่นคง เชื่อถือได้ครับโฮส" " เขาจ้างนายมาหรือเปล่า" " เอลิค เป็นระบบไม่ต้องค่าจ้างครับ " " ..." สรุปคือผ่านใช่ไหม" " ครับ ยืนยันจากโปรแกรมสแกน ที่มีคุณภาพสูงสุดแล้วครับ" " โอเค ฉันจะได้สบายใจ" เธอแอบชำเลืองมองดูเขาเห็นสายตาที่ส่งมาก็รีบก้มหน้าลง ไม่รู้ต้องทำตัวแบบไหน จึงนั่งมองดูข้างทางที่มีแต่ทุ่งนา และหมู่บ้านห่างๆ กันไป จนถึงตัวเมือง รถจอดที่ท่ารถ เหอตี้ลงไปจ่ายค่ารถของตัวเองและของสองพี่น้องจ้าวด้วย " พี่จ่ายแล้ว ไปโรงเรียนเถอะพี่จะเดินไปส่ง " เหอตี้ " เราเดินไปเองได้นะคะ พี่เหอไปทำธุระเถอะค่ะ" " ไม่เป็นไร ไปเถอะ" " ค่ะ/ครับ" เมื่อส่ง ทั้งสองเข้าโรงเรียน และไม่ได้คุยอะไรกันมากมายเพราะเขาต้องคำนึงถึงความเหมาะสมด้วย เขาเดินไปที่ไปรษณีย์ เพื่อขอใช้โทรศัพท์ไกลกลับบ้านที่เหอเปย์ บ้านเขาติดตั้งโทรศัพท์อยู่แล้วจึงไม่ต้องเขียนจดหมายให้เสียเวลา " สวัสดีครับ ผมจะมาขอใช้โทรศัพท์ทางไกลครับ" " โทรไปไหนครับ" " เหอเปย์ ครับ" เหอตี้ นำเบอร์โทรศัพท์ ให้เจ้าหน้าที่ต่อสายให้ และเข้าไปคุยในห้องที่ทางเจ้าหน้าที่จัดไว้สำหรับบริการคนที่มาใช้โทรศัพท์โดยเฉพาะ เมื่อต่อสายติดเจ้าหน้าที่ก็จะเริ่มจับเวลา และออกไปรอด้านนอกเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้มาใช้โทรศัพท์ " แม่ครับ ผมเอง" " อาเหอ เหรอลูก เป็นยังไงสบายดีไหม " " ครับผมสบายดี แม่กับพ่อล่ะครับ" " พ่อแม่ กับน้องๆ สบายดีจ้ะ ว่าแต่ลูกมีอะไรเดือดร้อนหรือเปล่า" " เอ่อ คือผมจะโทรมาบอกพ่อกับแม่ว่าผมจะแต่งงานครับ แต่คงต้องหมั้นหมายก่อนสักปี เพราะเธออายุยังน้อยครับ" " จริงใช่ไหมอาเหอ ว่าแต่น้องเป็นคนที่นั่นหรือยุวชน มาจากที่อื่นจ้ะ " " เธอเป็นชาวบ้านที่นี่ครับ ตอนนี้เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายปีสุดท้ายแล้วครับแม่ " " พ่อมาพอดี คุณคะอาเหอโทรมา มีธุระจะคุยด้วยเร็วเข้าค่ะ " " พ่อครับ ผมโทรมาขออนุญาตแต่งงานครับ พอดีมีเรื่องราวนิดหน่อยครับ " " เล่าคร่าวๆ ให้พ่อฟังหน่อย" " คือเมื่อวานผมไปช่วยน้องที่ตกน้ำและตอนขึ้นมาเธอไม่ได้สติแล้วผมจึงจับเธอพาดบ่าเพื่อเขย่าให้เธอสำลักน้ำออกมาครับ และชาวบ้านก็เห็นกันหลายคน ครับ" " อืม รีบไปจัดการให้เรียบร้อยแล้วตอนนี้น้องเป็นยังไงบ้าง" " เมื่อวานอาการไม่ดีเท่าไหร่ แต่วันนี้เธอปกติดีแล้วครับ วันนี้ก็ไปเรียนปกติแล้ว" " อายุเท่าไหร่ ยังเรียนอยู่" " น่าจะ 16-17 ครับ พ่อผมคิดว่าจะหมั้นหมายไว้ก่อนครับ น้องจะได้ไม่เสียหาย วันนี้ผมมาเบิกเงินซื้อของหมั้นครับ " " ก็ดูให้เหมาะสมอย่าให้คนดูถูกได้ สะใภ้ตระกูลหวังสายตรง เอาเป็นว่าแกไปคุยกับเขาให้สบายใจก่อนให้เขากำหนดวันหมั้นมาก่อนค่อยโทรมาบอกพ่ออีกที วันนี้ก็ติดเงินหยวนไปก่อนก็ได้ เงินที่ลูกมีไหม" " มีครับผมฝากไว้ที่โรงรับฝากเงิน ว่าแต่ผมต้องใช้กี่หยวนครับ ถึงจะไม่มากไปหรือน้อยไป" " พ่อคิดถ้าในหมู่บ้านก็น่าจะสัก 500 หยวนนะแม่ว่ายังไง " " คุณคะ ฉันว่า 500 หยวนกำลังดีค่ะ ของหมั้นก็เอาตามพ่อลูกบอกนะอาเหอ ได้วันค่อยโทรมาหาพ่อแม่ ช่วงนี้เดินทางได้อยู่หรอก " " ครับ แม่ ผมจะโทรมาบอกวันอีกที " "อาเหอ น้องน่ารักไหม " " ครับแม่" " เอาล่ะลูกโทรนานแล้ว ได้เรื่องยังไงค่อยว่ากันนะ" " ครับ สวัสดีครับ ค่อยเจอกันครับ" เหอตี้ จ่ายค่าโทรไปหลายหยวนก่อนจะเดินไปโรงรับฝากเงินเพื่อขอเบิกเงินที่ฝากไว้ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ พ่อแม่ ให้เงินเขามาหลายพันหยวน จึงนำมาฝากไว้ที่นี่ เพราะคิดว่าคงไม่ได้ใช้อะไรมาก เขาติดไว้กับตัวแค่ 300 หยวนก็นับว่าเยอะมาก เพราะไม่ค่อยได้ใช้อะไรมากถึงตอนนี้ผ่านมา 3 ปีเงินนั้นก็ยังเหลืออยู่ เป็นร้อย เขาเบิกเงินเสร็จก็กลับหมู่บ้าน ด้านอิงเยว่ วันนี้ที่โรงเรียนมีสอบกลางภาค เธอมาถึงโรงเรียนก็ทำตัวปกติ เธอใช้เวลาในการสอบวิชาแรกไม่นานเป็นวิชาคณิตศาสตร์ เพราะเป็นข้อสอบง่ายๆ แค่เห็นโจทย์เธอก็สามารถรู้คำตอบทันที สำหรับเธองายมากแต่กับคนอื่นเธอไม่รู้ตอนเช้าจะมีสอบ 3 วิชา เมื่อสอบเสร็จเธอก็วางกระดาษคำตอบและมองไปที่คนอื่นที่ทำยังไม่เสร็จจึงนั่งรอเวลาเฉยๆ และปิดข้อสอบวางไว้ขวามือ ครูที่คุมสอบเมื่อเห็นเธอนั่งเฉยๆ ก็เข้าใจว่าเธอคงทำข้อสอบไม่ได้จึงเดินเข้ามาสอบถาม เพราะอิงเยว่เป็นนักเรียนที่นิสัยดีและขยันแม้จะเรียนแค่พอใช้ได้ก็ตาม " นักเรียนจ้าว ทำไมไม่รีบทำข้อสอบล่ะ " " หนูทำเสร็จแล้วค่ะ " " หือ เสร็จแล้วเหรอ " " ค่ะ เสร็จแล้ว นี่ค่ะกระดาษคำตอบ" ครูคุมสอบมองดูกระดาษคำตอบที่ทำเสร็จหมดแล้วเหมือนที่เธอบอกก็อึ้ง เพราะเธอใช้เวลาสอบเพียง 1 ใน 4 ส่วนเวลาที่เหลือ ครูจึงรับกระดาษคำตอบของเธอไปที่โต๊ะ และตรวจข้อสอบวิชาที่เธอสอน คือคณิตศาสตร์ ซึ่งสอบเป็นวิชาแรก เธอจึงหยิบชุดข้อสอบวิชาที่ 2 กับ3 ไปให้อิงเยว่ สอบต่อได้เลย ครูสาวเดินกลับมาที่โต๊ะและลองหยิบคำตอบมาตรวจ ข้อสอบ ของ อิงเยว่ และปรากฏว่าคำตอบถูกหมดทุกข้อเธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่ อิงเยว่ อีกครั้ง ก็เห็นนั่งทำข้อสอบชุดที่เธอให้ไปอยู่และไม่นาน อิงเยว่ก็วางดินสอลงคงน่าจะทำเสร็จแล้ว ข้อสอบวิชาที่ 2 คือเคมี วิชาที่ 3 คือภาษาจีน ส่วนคนอื่นๆ ยังทำข้อสอบวิชาแรกยังไม่เสร็จด้วยซ้ำ อิงเยว่ นั่งตัวตรงรอเวลาตามที่ครูกำหนดเพื่อให้ไม่เสียมารยาทเกินไป ต้องใช้เวลา ประมาณเท่าไหร่ ค่อยไปส่งคำตอบ พอมีคนเริ่มเสร็จวิชาแรก อิงเยว่ เดินมาหาครูพร้อมกระดาษคำตอบทั้งสองวิชา ครูจึงให้เธอไปพักได้เลย ช่วงบ่ายค่อยมาสอบ อีกสามวิชา เพื่อนๆ ร่วมชั้นเรียนต่างมองที่อิงเยว่ แต่ไม่ได้พูดอะไรต่างคนก็สอบของตัวเองไปเงียบๆ อิงเยว่มานั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้ บริเวณโรงอาหารอยู่คนเดียว เพราะยังไม่ถึงเวลาทานมื้อเที่ยง " เอลิค ทำไมคะแนนแต้มฉันไม่เพิ่มเลยล่ะ " "...." โฮสครับ คะแนนจะได้เมื่อโฮส สร้างความพึงพอใจ ให้กับคนใกล้ชิดโฮส แต่ตอนนี้โฮสแทบจะยังไม่ได้คุยกับใครเลยนะครับ" " เหรอ อืม เดี๋ยวฉันจะพยายามนะ" " ครับ " พอใกล้เที่ยงเธอไปซื้ออาหารที่โรงอาหารกิน และมีเพื่อนในห้องออกมาสมทบ อิงเยว่หวั่นใจเล็กน้อย ว่าจะทำตัวแปลกออกไป จึงนั่งทานไปกับกลุ่มเพื่อนเงียบๆ นั่นยิ่งทำให้เพื่อนแปลกใจสงสัยตั้งแต่ที่เธอทำข้อสอบเสร็จก่อนใครเพื่อเกือบ 3 ชม. นั้นแล้ว แต่ไม่มีใครถามเธอเพราะเห็นว่า อิงเยว่ นั่งเงียบจึงคิดว่าคงมีปัญหาที่บ้าน ทุกคนรีบกินข้าวเพื่อไปเตรียมอ่านหนัวสือสอบต่อช่วงบ่าย เพราะต้องสอบฟิกส์และอังกฤษอีก ถ้าจะคุยก็คงถามเรื่องที่จะสอบต่อช่วงบ่ายมากกว่า. 🙏 ขอบคุณที่ติดตามนะคะ♥️♥️
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม