เธียรทรรศน์บอกให้เพื่อนสนิทพาหญิงสาวมาหาตนที่บริษัทเพื่อพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แคทรู้สึกอึ้งอยู่ไม่น้อยไม่คิดว่าบริษัทของชายหนุ่มจะใหญ่โตขนาดนี้ ด้วยวันนี้เป็นแขกของท่านประธานหล่อนกับคนตัวโตข้างกายจึงมีโอกาสได้ขึ้นลิฟท์ของผู้บริหาร
“โลกของคนมีเงินนี่มันต่างออกไปจริงๆนะคะ ดูเหมือนอะไรก็ดูวิเศษไปหมด” ช่วงชีวิตที่ผ่านมาเธอผ่านความยากลำบากมามากมาย ดิ้นรนทำงานหาเงินแต่ก็ไม่เคยเหลือเงินเก็บเลย
“ผมไม่เถียงว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่คุณเชื่อไหมว่าก่อนจะมีวันนี้ก็ต้องผ่านความยากลำบากมาไม่น้อยเหมือนกันเพียงแต่ผลลัพธ์มันช่างคุ้มค่า”
“ค่ะ ฉันเชื่อที่คุณพูด” หญิงสาวพยักหน้าขึ้นลงเบาๆ เมื่อมาถึงหน้าห้องเลขาของชายหนุ่มก็เปิดประตูให้คนทั้งคู่เข้าไป หล่อนยกมือไหว้เธียรทรรศน์อย่างนอบน้อม ชายหนุ่มผายมือเชิญให้คนทั้งคู่นั่งลง
“ช่วยพิจารณารูปนี้ให้ผมหน่อยนะครับ”
“นี่มัน!...” หญิงสาวพิจารณารูปแล้วก็ต้องตกใจ คือคนคนเดียวกันไม่ผิดแน่
“คุณแคทรู้จักหรอครับ”
“คนที่จับตัวแคทไปเมื่อวานไม่มีผิดเพี้ยนแน่นอนค่ะ เขาคือใครคะ คุณเธียรมีรูปเขาแบบนี้แปลว่าต้องรู้จักใช่ไหมคะ”
“เขามีชื่อว่ากษิดิส คือพ่อแท้ๆของน้องพีชครับ”
“อะไรนะคะ นี่เรื่องจริงใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามกลับตาโต ถ้าบิดาของหญิงสาวเป็นคนมีอิทธิพลขนาดนั้นทำไมไม่รีบมารับลูกสาวกลับไปดูแลให้ดีๆล่ะ
“ครับ”
“ว่าแล้วไง เข้าใจแล้วค่ะว่าให้เงินแคททำไม”
“เงินก้อนนี้คุณก็เก็บเอาไว้เถอะนะครับ เขาคงไม่เดือดร้อนอะไร”
“แต่เงินก้อนนี้แคทอยากมอบคืนให้น้องพีช”
“ไม่ต้องหรอกครับ น้องอยู่กับผมไม่จำเป็นต้องใช้มันหรอก” ชายหนุ่มตอบกลับตามความเป็นจริง คนตัวน้อยเป็นภรรยาของเขาแล้วเขาก็พร้อมจะดูแลเธอในทุกๆด้าน
“ค่ะ ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ ทำไมพ่อของน้องถึงต้องทำแบบนี้ละคะ เขารู้จักกับพวกที่ตามมาฆ่าน้องหรือเปล่า แคท...แคทเผลอบอกไปแล้วว่ามีคนตามฆ่าน้อง”
“บอกไปแบบนั้นก็ดีเหมือนกันครับ ท่านจะได้ตามหาความจริงว่าใครกันแน่ที่กล้าทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้”
“วันนี้แคทขอไปหาน้องพีชได้ไหมคะ”
“ได้สิครับ รบกวนนายหน่อยนะรุจ วันนี้ฉันยังไม่ประชุมต่อคงจะกลับถึงบ้านช่วงค่ำๆเลย”
“ได้สิ งั้นเราไปกันเลยไหมครับ”
“แคทไปก่อนนะคะ”
“ครับ”
รถยนต์คันหรูมาจอดสนิทที่หน้าบ้านของเธียรทรรน์ ยามหน้าประตูเมื่อเห็นว่าใครก็ยกมือไหว้ชายหนุ่มทันที จากนั้นก็เปิดประตูให้ชายหนุ่มขับรถเข้าไป
“คุณรุจมาค่ะคุณพีช”
“ให้พี่เขาเข้ามาเลยค่ะ สวัสดีค่ะพี่รุจ พี่แคท!” หญิงสาวร้องเรียกคนที่เดินตามหลังชายหนุ่มมาน้ำเสียงตื่นเต้น จากนั้นสองสาวก็โผเข้ากอดกันด้วยความคิดถึง ตอนที่ยังทำงานด้วยกันนั้นมีโอกาสได้เจอหน้าพูดคุยเรื่องต่างๆให้กันฟังทุกวัน
“ทำไมมากับพี่รุจได้ละคะ”
“บังเอิญเจอกันข้างหน้าน่ะจ้ะ คุณรุจเลยอาสามาส่ง”
“ขอบคุณนะคะพี่รุจ พี่รุจใจดีจังเลย”
“สองสาวได้เจอกันแล้วงั้นพี่ขอตัวก่อนนะครับ” ชายหนุ่มตั้งใจผละห่างเพื่อให้คนทั้งคู่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
“ไหนๆวันนี้ก็มาแล้วอยู่ทานอาหารเย็นด้วยกันนะคะ พี่เธียรติดงานไม่รู้จะกลับมาทานด้วยกันได้หรือเปล่า”
“ได้สิจ๊ะ วันนี้พี่จะอยู่เป็นเพื่อนพีชเอง พี่ลางานกับคุณอิฐิเขาแล้ว ถือซะว่าวันนี้คือวันพักผ่อนที่นานๆทีจะเกิดขึ้น”
“คิกๆ เยี่ยมไปเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าพี่แคทจะลางานเป็นกับเขาด้วย” หญิงสาวหัวเราะชอบใจทั้งยังเอ่ยแซวคนตรงหน้า หล่อนเป็นคนที่ขยันมากไม่เคยลางานเลยสักครั้ง
“เดี๋ยวเถอะเรา แล้วหลานเป็นยังไงบ้าง ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าจะกลายเป็นคุณแม่แล้ว”
“พีชเองก็ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันค่ะแต่ก็จะทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ พี่แคทอยากไปทำงานที่อื่นไหมคะ พีชบอกพี่เธียรให้ได้นะ”
“อย่าเลยจ้ะ พี่ทำงานกับคุณอิฐิมานาน อยากจะช่วยแบ่งเบางานเขาอยู่” แคทเลือกที่จะปฏิเสธ หล่อนเข้าใจความหวังดีของอีกฝ่ายดี
“งั้นก็ตามใจพี่แคทค่ะ แต่ถ้าวันไหนเปลี่ยนใจบอกพีชได้นะคะ ไปทานขนมกันเถอะค่ะพีชรู้สึกอยากทานอะไรอีกแล้ว” แคทได้แต่ยิ้มขำ เห็นรอยยิ้มสดใสของอีกฝ่ายแล้วก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับตน เธอหวังให้สาวน้อยคนนี้มีแต่รอยยิ้มที่สดใสตลอดไปแล้วกัน มื้อเย็นหญิงสาวให้แม่ครัวทำอาหารจานโปรดของตนเองและคนข้างกาย แคทเองก็พลอยมีความสุขไปด้วยที่ได้ทานของโปรดของตนที่กว่าจะได้มีโอกาสทานก็นานๆที
“ว่างๆมาเที่ยวหาพีชอีกนะคะ วันนี้พีชมีความสุขมากค่ะ”
“จ้ะ พีชต้องรักษาสุขภาพนะ ทางที่ดีพี่ว่าอย่าเพิ่งออกไปไหนบ่อยเลย พักผ่อนอยู่บ้านให้เยอะๆ หลานจะได้แข็งแรง” แคทบอกกับหญิงสาวเป็นนัยๆออกไป
“พี่พูดเหมือนพี่เธียรเลย แต่ว่าบางทีพีชก็รู้สึกเบื่อนี่คะ” เธอตอบกลับน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“เบื่อก็ต้องทนจ้ะ เพื่อหลานนะท่องเอาไว้”
“ค่าๆ พีชเข้าใจแล้วค่ะ”