ลลนาสวมกางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ้ตสีขาว เดินลงบันไดมาเกือบเที่ยงวัน เธอแปลกใจที่เห็นภาคินยังนั่งดื่มกาแฟอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ใบหน้าเขาสงบและครุ่นคิด ราวกับกำลังรออะไรบางอย่าง
“หนูจะไปหาแอนนาค่ะ” ลลนาเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
ภาคินเงยหน้าขึ้นมองเธอ ดวงตาแฝงความอ่อนโยน "เดี๋ยวลุงพาไป"
“วันนี้ไม่เข้าบริษัทเหรอคะ หนูไปเองก็ได้” ลลนาพยายามปฏิเสธอย่างนุ่มนวล เธอไม่อยากรบกวนเขา
แต่ภาคินยังยืนยันด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นกว่าเดิม “เดี๋ยวลุงไปส่ง”
คำย้ำของเขาไม่เปิดโอกาสให้เธอปฏิเสธอีก ลลนารู้สึกได้ถึงความห่วงใยที่ซ่อนอยู่ในท่าทางและน้ำเสียงนั้น แม้จะไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาถึงดูตั้งใจที่จะอยู่ใกล้ชิดเธอขนาดนี้ แต่เธอก็ยอมรับข้อเสนอของเขาอย่างไม่ขัดใจ
"ตี๊ดด ตี๊ดดด"
ลลนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์ที่โชว์บนหน้าจอ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเธอ สายตาเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เขาเหลือบมองด้วยความสงสัยและใจที่กระวนกระวาย
เมื่อเห็นเธอยิ้มก่อนจะกดรับโทรศัพท์
"Hey babe, I just arrived. I’m heading out to see Anna now!"
"ค่ะที่รัก ฉันถึงแล้ว กำลังออกไปหาแอนนาเลย!"
I’ll give you a call later. Don’t worry, I’m doing great. Love you, bye!"
"เดี๋ยวฉันจะโทรหานะคะ อย่าห่วงเลย ฉันสบายดี รักนะ บาย!"
“ที่รัก” คำที่เธอใช้เรียกเขา เสียงนั้นยังลอยอยู่ในหูของเภาคิน เขารู้สึกเหมือนเลือดกำลังสูบฉีดไปทั่วร่าง ความรู้สึกนี้ทำให้เขาไม่สามารถสงบใจได้ ภาคินรู้สึกถึงความหึงหวงที่แอบแฝงอยู่ในใจ แม้จะพยายามสงบจิตใจภาคินมองไปที่ถนนข้างหน้า ดวงตาของเขาค่อยๆ กลายเป็นประกายของความมุ่งมั่นและโกรธเคือง ความรู้สึกหึงหวงและต้องการความเป็นเจ้าของได้หลอมรวมเป็นพลังขับเคลื่อนให้เขาเร่งความเร็วของรถสปอร์ตหรูที่เขาขับอยู่ เมื่อเขาได้ยินเสียงนุ่มนวลของลลนาที่พูดกับอีกคนอย่างอ่อนหวาน ในนาทีนี้เขาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าคราวนี้เขาจะไม่ปล่อยให้ลลนาหลุดมือไปอีก แม้ว่าเขาจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอเป็นของเขาเท่านั้น
“เธอต้องเป็นของฉันเพียงคนเดียว” เขาคิดในใจ “ไม่ว่าฉันจะต้องทำอะไร ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปอีก”
…………………………………………………………
แอนนาที่เห็นลลนามาถึงก็รีบวิ่งออกมาจากโถงทางเข้าโรงพยาบาล เรียกว่าวิ่งถลาเข้ามากอดลลนาอย่างดีใจ เมื่อแอนนาเห็นผู้ชายร่างสูงที่ตามมาด้วย จึงได้ยิ้มแย้มและสันนิษฐานได้ว่าเขาคือคุณลุงที่ลลนาเคยพูดถึง
“ในที่สุดเธอก็มาที่นี่” แอนนาพูดเสียงสั่นเครือ ขอบคุณลลนาอย่างลึกซึ้ง
ลลนาเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้แอนนา พร้อมกับยิ้มให้เธอ
“คุณลุงคะ นี่คือแอนนา เพื่อนสนิทของหนูค่ะ”
ภาคินยิ้มตอบกลับ “สวัสดีครับ แอนนา”
“สวัสดีค่ะคุณลุง” แอนนาพูดด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “ในที่สุดหนูก็ได้เจอคุณลุงซะทีนะคะ”
ลลนาหันไปหาภาคินที่ยืนอยู่ข้างๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“คุณลุงคะ หนูขออยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนแอนนานะคะ”
ภาคินมองลลนาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้ม
“ได้สิ เดี๋ยวเย็นๆ ลุงจะเอาของใช้ที่จำเป็นมาให้นะ”
ลลนายิ้มตอบ ขอบคุณเขาอย่างจริงใจ ก่อนจะหันกลับไปที่แอนนา รู้สึกโล่งใจที่ได้อยู่เคียงข้างเพื่อนในช่วงเวลาที่สำคัญนี้
เคนที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟเห็นภาคินเดินเข้ามาในชุดสบายๆ ที่ไม่ใช่ชุดสูทสุดเนี๊ยบแบบที่เขาคุ้นเคย อดจะอมยิ้มไม่ได้
“แหมๆ เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่เคยหยุดงานมาหลายปี วันนี้หยุดได้ยังไงนะ”
เคนแซวด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก
ภาคินยิ้มตอบกลับอย่างใจเย็น แต่แววตาของเขายังคงสะท้อนความมุ่งมั่นและความรักที่ซ่อนอยู่
“บางครั้งชีวิตก็ควรมีเวลาให้กับสิ่งที่สำคัญบ้างไม่ใช่เหรอ?”
เคนยิ้มกว้างขึ้น เมื่อเห็นภาคินที่ดูราวกับกำลังมีช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิต และรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเขา
ภาคินนั่งลงที่โต๊ะตรงข้ามกับเคน ยิ้มให้กับกาแฟที่เขาจิบไป
“คราวนี้เอาจริงแน่นะ”
เคนถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย
ภาคินวางถ้วยกาแฟลงดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและความมุ่งมั่น
“ใช่ คราวนี้เอาจริง”
เขาพูดเสียงหนักแน่น
“ฉันไม่ปล่อยให้เธอไปไหนอีกแล้ว”