ในห้องที่มีไฟสีหวานและรอบห้องมีกระจกติดอยู่ทุกด้านทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ทั้งสองถอดเสื้อผ้าออกเผยให้เห็นร่างกายที่กำยำจนฉันต้องกลืนน้ำลายลงด้วยความฝืดคอ
เขาช่วยกันถอดชุดเดรสรัดรูปของฉันออกไปแล้วพาไปในห้องน้ำ เปิดน้ำอุ่นอาบน้ำให้ฉันแล้วลูบไล้ไปทั่วเรือนร่าง
อีกคนถูที่แผ่นหลังและหน้าอก อีกคนถูกที่สะโพกและต้นขาที่ขาวเนียนของฉัน
พวกเขาเลิกถามฉันหลังจากได้รับการยืนยันว่าฉันต้องการมัน และสัมผัสที่ช่วยกันถูสบู่ให้ฉันนั้นมันก็แสนสุขซ่านจนไม่อยากให้พวกเขาหยุดเลยทีเดียว
ไม่นานนักทั้งสองก็จับให้ฉันนั่งคุกเข่ากับพื้นแล้วโยกสะโพกเข้ามาตรงหน้า ให้ตายสิแล้วทำไมมือกับปากของฉันมันไวขนาดนี้ จับแท่งเนื้อทั้งสองรูดรั้งทีละมือเหมือนอย่างที่เคยเห็นในคลิปลับที่เพื่อนส่งต่อๆ กันมาในกลุ่มแชท
แล้วไหนจะใช้ริมฝีปากครอบครองส่วนปลายลำของทั้งคู่สลับไปมา แบบนี้มันนางเอกเอวีชัดๆ
“อ๊า ดูดดีจัง”
“มือก็รูดเข้าจังหวะมาก”
คำชื่นชมที่หลุดออกมาจากปากทั้งสองคนทำให้ฉันรู้สึกกระหยิ่มยิ้มอย่างชอบใจ ยิ่งชมมาก็ยิ่งเร่งมือให้หนักขึ้น ขนาดครั้งแรกนะฉันยังมีพรสวรรค์ขนาดนี้ ถ้าครั้งต่อๆ ไปจะไม่ทำให้พวกผู้ชายทั้งรักและหลงเลยเหรอ
‘ครั้งต่อไปเหรอ นี่เรายังคิดจะมีครั้งต่อไปอีกเหรอ’ บ้าจริง นี่ฉันคิดเพ้ออะไรอยู่ หยุดสิ บอกพวกเขาไปว่าไม่เอาแล้ว
“เราไปต่อที่เตียงกันนะครับ ผมจะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม”
“รับรองว่าลีลาของพวกเราสองคนไม่เหมือนอย่างที่คุณเจอมาแน่” พวกเขาชักชวนฉันด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความปรารถนา
“ไปสิคะ” ฉันรับปากอย่างว่าง่าย มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้ถอยได้อย่างไรล่ะ
ฮือ (T-T) ความปรารถนามันทำให้ฉันห้ามใจไม่ได้
พอถึงเตียงฉันก็ถูกดันตัวให้นอนหงายลงไป ชายคนที่มีไฝใต้ตาเป็นคนแรกที่ขึ้นมาคร่อมทับฉันเอาไว้แล้วจูบปากแลกลิ้นอย่างดูดดื่ม ปลายลิ้นที่แทรกเขามาตวัดเกี่ยวจูบอย่างเร่าร้อนฉันแทบหลอมละลายไปเสียตรงนั้น ในขณะที่มือของเขาก็สัมผัสลูบไล้ต้นขาด้วยความชำนาญ
เมื่อเขาเลื่อนตัวลงไปเชยชมที่หน้าอกอิ่ม ชายอีกคนที่ผมสีน้ำตาลเข้มก็โน้มตัวมาจูบฉัน จากนั้นทั้งสองก็แบ่งกับดูดขบเต้าอวบคนละข้างอย่างมูมมาม
“อื้อ ไม่ไหวแล้ว อื้อ” ฉันครางออกมาแล้วแอ่นสะโพก อยากได้สิ่งนั้นเข้ามาในร่างกายเต็มทีแล้ว
“ฉันก่อนนะ” ทั้งคู่ตกลงกันแล้วชายคนแรกก็เลื่อนตัวลงไปด้านล่าง ใช้ลิ้นละเลงเลียไปทั่วจุดกระสันจนฉันครางเสียงหลง
ชายอีกคนคุกเข่าลงข้างๆ ศีรษะของฉันแล้วจับดุ้นยัดเข้ามาในปากแล้วโยกสะโพกเข้ามาเบาๆ จนฉันจุกในคอแต่ก็พยายามโก่งคอลึกเอาไว้แล้วใช้มือช่วยไปด้วย
ความรู้สึกสุขสมในตอนนี้ทำให้ฉันหยุดความปรารถนาของตนเองไม่ไหว ลิ้นที่ให้ความสุขอยู่ทำให้ฉันพอใจ แท่งเนื้อที่ขยับเข้าออกในปากทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้น ทุกอย่างมันดีไปหมด
ชายคนแรกขยับมาคุกเข่าประชิดที่สะโพกของฉัน เขาสวมเครื่องป้องกันแล้วกดเข้ามาทีเดียวมิดด้ามอย่างไม่ออมแรง
พรวด!
“ฮึก..อื้อ เจ็บ!” ฉันคายแท่งร้อนออกจากปากแล้วร้องเสียงหลงเมื่อถูกเขาพรากพรหมจรรย์ที่ฉันเฝ้าเก็บรักษามายี่สิบสองปีอย่างไม่ทะนุถนอมเลยสักนิด
“ให้ตายสิ บ้าฉิบ!” เขาสบถออกมา หลังจากนั้นอีกคนก็รีบก้มลงมาไซ้คอแล้วบีบเคล้นหน้าอกเพื่อกระตุ้นให้ฉันเกิดอารมณ์ร่วม
คนแรกของฉันกดสะโพกแช่เอาไว้ จากนั้นจึงเริ่มขยับเข้าออกเบาๆ เมื่อเห็นว่าฉันเริ่มมีอารมณ์ร่วมอีกครั้ง แล้วโดนเขาโยกเข้ามาจนถึงจุดหมายไปในที่สุด
หลังจากที่เขามอบความสุขให้ฉันอย่างเต็มที่แล้ว ก็เริ่มเร่งความเร็วเข้ามาจนเนื้อตีกันดังตับๆ แล้วสักพักใหญ่ๆ ก็รู้สึกถึงปลายหัวที่กระตุกพ่นของเหลวผ่านเครื่องป้องกันแล้วเขาก็ผละออกไป
ชายอีกคนที่ตัวใหญ่กว่าเล็กน้อย หล่อเท่และมีผมสีน้ำตาลเข้มก็สวมเครื่องป้องกันแล้วสอดใส่เข้ามาอย่างเต็มรัก ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบแลกลิ้นกันฉันอย่างดูดดื่มแล้วโยกสะโพกเข้ามาด้วยความเร็วที่ต่อเนื่องและเร่าร้อน
“อื้อ พอก่อน จะเสร็จอีกแล้ว อื้อ” ฉันร้องเสียงกระเส่า
ความรู้สึกเสียวซ่านพุ่งขึ้นมาสูงลิ่วชนิดที่เรียกได้ว่าเสียวจนทนไม่ไหว ก่อนจะถึงจุดหมายไปอีกสองครั้งติดเพราะความเร็วของสะโพกที่เคลื่อนเข้ามา
จากนั้นฉันก็เหนื่อยจนหลับไป แต่ยังคงรับรู้ได้ว่าพวกเขายังคงเสพสมกับร่างกายของฉันต่ออย่างไม่รู้จักอิ่มเสียที
************************
ความรู้สึกหนักอึ้งที่ศีรษะและความรู้สึกที่ปวดหัวจนแทบระเบิดนี่มันคืออะไรกัน นี่ฉันเมามากถึงกับแฮงค์หนักขนาดนี้เลยเหรอ แล้วอาการปวดหน่วงๆ ที่สะโพกและท้องน้อยนี่มัน....
“กรี๊ด!” ฉันลืมตาขึ้นแล้วกรีดร้องลั่นจนชายทั้งสองที่นอนข้างกายต้องงัวเงียตื่นขึ้นมา
“ตื่นแล้วเหรอครับ เมื่อคืนนี้สนุกมากเลย”
“คุณหลับไปกลางคันน่ะ พวกเราต่ออีกตั้งหลายรอบ”
“อร๊าย...พูดอะไรออกมา อุบาทว์ น่าเกลียด ฮือๆ พวกคุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง” ฉันโวยวายแล้วเอาหมอนทุบตีทั้งสองคนร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“คุณชวนพวกเราเองนะ ไม่พามาก็ร้องลั่นร้านเหล้า”
“กรี๊ด!” ฉันรับบทนางกรี๊ดไม่หยุดเมื่อถูกพวกเขาแทงใจดำ
“แล้วพวกคุณก็เชื่อคนเมาเหรอ ทำไมไม่พาฉันไปส่งบ้าน ไม่ก็พาฉันกลับไปที่โต๊ะของเพื่อน ไอ้พวกหื่นกาม ไอ้พวกโรคจิต ไอ้พวก..”
หนึ่งในสองคนนั้นจูบฉันแล้วเอามือกระตุ้นจุดกระสันจนฉันสงบลง ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายที่สยบต่อปลายนิ้วของเขา
“ฟังนะ พวกเราพึ่งรู้ว่าเป็นคนแรกของคุณ พวกเราเลยอยากรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น”
“ใช่พวกเราอยากจะรับผิดชอบ คุณต้องการยังไงก็ว่ามา” พวกเขาเสนอความรับผิดชอบออกมา
“ไม่จำเป็น ฉันไม่ต้องการความรับผิดชอบจากพวกคุณ” ฉันร้องตะโกนออกมาแล้วร้องไห้จนตัวสั่น
‘นี่เราเมาจนขาดสตินี้ได้ยังไง เราทำเรื่องน่าอายแบบนี้ได้ยังไง พวกเขาเองก็ไม่ได้ผิดด้วยซ้ำ บ้าที่สุด’ ฉันเอาแต่ร้องไห้ จำได้ทุกอย่างว่าตัวเองทำอะไรลงไป แต่ที่โทษพวกเขาก็แค่กลบเกลื่อนความอับอายที่ตนเองทำลงไปก็เท่านั้น
************************