“มองอะไรอยู่เหรอครับครูสา” นายจอมพลเอ่ยปากถามหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ วันนี้เขาขับรถมารับเธอด้วยตัวเองเพื่อตรงไปที่โกดังเก็บไม้ของปางไม้ตีตรา
ที่ชายหนุ่มพาเธอไปที่ปางไม้นั่นก็เพราะว่า เธอค่อนข้างจะเป็น
ขวัญใจของชาวบ้านในพื้นที่ ด้วยความที่อัธยาศัยดีจึงทำให้ชาวบ้านชอบเธอได้ไม่ยาก และด้วยเหตุนี้เขาถึงได้พาเธอไปที่ปางไม้ตีตรานั่นเอง
หนึ่งเพราะต้องการให้หญิงสาวเห็นถึงความใหญ่โตและ
ความร่ำรวยของเขา เธอจะได้รับรักเขาเสียที ตามจีบมาเกือบปีตั้งแต่
หญิงสาวมาอยู่ที่นี่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะคืบหน้าเลย
สองก็เพื่อจะใช้เธอเป็นเครื่องมือเป็นสะพานให้ชาวบ้านที่เคยต่อต้านปางไม้ของลุงเขาเข้ามาทำงานให้กับปางไม้ที่เขารับผิดชอบนั่นเอง ชายหนุ่มเชื่อว่าถ้าหญิงสาวได้มาเห็นการทำงานที่นี่ และไปบอกชาวบ้านที่ว่างงานหรือตกงาน ชาวบ้านจะต้องเลิกอคติและมาทำงานกับเขาแน่ ๆ ดังนั้นชายหนุ่มจึงได้ตัดสินใจพาหญิงสาวมา
ส่วนไม้ที่ถูกทางการสงวนไว้ไม่ให้ตัดเขาก็ทำการจัดเก็บไว้อย่างดีแล้ว รับรองว่าเธอจะไม่พบเห็นอะไรที่น่าสงสัยหรือสิ่งผิดกฎหมายแน่นอน นอกจากนี้เขายังหวังว่าเมื่อเธอไปเห็นความใหญ่โตของปางไม้แล้ว บางทีเธออาจจะใจอ่อนยอมเขาในเรื่องอย่างว่าก็ได้
นายจอมพลแอบปรายตามองเรือนร่างที่แสนสมบูรณ์ของเธอก็ยิ่งพอใจ ต่อให้วันนี้เธอไม่ยอมเขา ไม่รับรักเขา แต่วันหน้าเธอต้องหนีเขาไม่พ้นแน่ ๆ หึ!
“อ้าว ทำไมเงียบไปล่ะครับ มีอะไรหรือเปล่า”
“เอ่อ... ปะ... เปล่าค่ะ สงสัยสาตาฝาด” หญิงสาวหันมาตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะละสายตาจากสิ่งที่เธอให้ความสนใจ
เมื่อสักครู่สามินีเห็นผู้ชายที่วนเวียนอยู่ใกล้ ๆ เธอเดินออกมาจากมุมถนน เหมือนกับว่าเขากำลังจับตาดูเธอตลอดเวลา ก่อนหน้านี้
หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของใครหรือเปล่า ตอนแรก
หญิงสาวก็ไม่แน่ใจ แต่เท่าที่สังเกตและเห็นเมื่อสักครู่เธอก็มั่นใจแล้วว่าเธอกำลังถูกจับตามองจริง ๆ
แต่ว่าเธอถูกจับตามองจากใคร และเพราะอะไร หญิงสาวก็ทำได้เพียงคิดกับตัวเองในใจเท่านั้น ถ้าจะให้บอกนายจอมพลที่กำลังขับรถอยู่คงไม่ดีแน่
“นี่สากำลังจะได้ไปปางไม้ที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอนี้จริงเหรอคะเนี่ย” หญิงสาวเปลี่ยนสีหน้าท่าทางของเธอให้กลายเป็นสดใสและตื่นเต้นแทน จนนายจอมพลหัวเราะ
“จริงสิครับ ผมจะหลอกสาทำไม”
“ดีเลยค่ะ สาก็อยากรู้เหมือนกันว่าปางไม้ตีตราจะใหญ่แค่ไหน” หญิงสาวพูดด้วยความตื่นเต้น
ไม่นานนายจอมพลก็พาสามินีมาถึงปางไม้ตีตรา ตลอดเวลาที่นั่งอยู่ในรถหญิงสาวชวนเขาพูดคุยไม่หยุด จนบางครั้งนายจอมพลยังรู้สึกว่าเธอคงจะตื่นเต้นมากจริง ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีท่าทางแบบนี้
“ว้าว แค่ป้ายทางเข้าก็ใหญ่มากเลยค่ะ อยากเห็นข้างในแล้วสิ” หญิงสาวพูด นายจอมพลไม่พูดอะไรนอกจากขับรถผ่านป้ายชื่อ
ปางไม้ตีตราเข้ามาเงียบ ๆ เมื่อรถมาจอดหน้าสำนักงานที่ตั้งอยู่ส่วนหนึ่งของปางไม้ หญิงสาวก็ลงจากรถก่อนจะมองด้วยความสงสัย
“นี่เป็นสำนักงานครับ ตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนนอกของปางไม้ เพราะถ้าตั้งด้านในคงทำงานไม่ได้เนื่องจากมันเสียงดังมาก”
“ค่ะ” เมื่อเห็นนายจอมพลอธิบายให้เธอเข้าใจ หญิงสาวก็พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะมองบริเวณโดยรอบด้วยความสนใจ
“ไปครับผมจะพาไปดูด้านในว่ามันมีอะไรบ้าง” นายจอมพลเอ่ยชวนก่อนจะขึ้นรถจิ๊บที่จะใช้เดินทางภายในปางไม้ตีตรา เฉพาะบริเวณโกดังเก็บสินค้าเท่านั้น หญิงสาวจึงได้ขึ้นรถตามไปอย่างว่าง่าย
“ไม้กองไว้เยอะมากเลยค่ะ โกดังเก็บไม้ก็กว้างมาก แสดงว่าสัมปทานที่เถ้าแก่ฮวงคุณลุงของคุณจอมพลถือครองต้องเป็นสัมปทาน
ป่าไม้ที่ใหญ่และกว้างมากเลยใช่ไหมคะ” สามินีเอ่ยถาม
“ครับ คุณลุงของผมถือครองสัมปทานที่ใหญ่มาก เสียดายที่ผมไม่สามารถพาครูสาเข้าไปดูได้ ไม่งั้นครูสาต้องอึ้งมากกว่านี้แน่นอนครับ” นายจอมพลบอก หลังจากเห็นสายตาวาววับของสามินีแล้วเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่พาหญิงสาวมาที่นี่
ตอนนี้เขากำลังขาดแคลนคนงานอย่างหนักเนื่องจากต้องรีบตัดไม้บางส่วนที่อยู่ในป่าให้แล้วเสร็จให้ทันกำหนด เขาถึงได้ส่งคนเข้าไปตัดไม้ในป่ามากขึ้น นั่นจึงทำให้เขาไม่มีคนงานที่เพียงพอที่จะทำงานในปางไม้แห่งนี้นั่นเอง แต่ความกังวลของเขาจะหมดไปถ้าหญิงสาวตรงหน้าช่วยพูดกับชาวบ้าน เขาคิดว่าคงมีคนงานมาทำงานกับเขามากมายแน่นอน
ยิ่งรถจิ๊บเคลื่อนตัวเข้ามาภายในพื้นที่ปางไม้ด้านในมากเท่าไหร่ สามินีก็ยิ่งเห็นถึงความกว้างขวางใหญ่โตของปางไม้ที่นี่มากเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าภายใต้ใบหน้าที่แสดงถึงความตื่นเต้นนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ แต่การแสดงออกภายนอกของเธอก็ทำให้นายจอมพลพอใจมากแล้ว ทั้งคิดว่าถ้าเขาคิดจะให้หญิงสาวมาอยู่ฝั่งเดียวกับเขาคงไม่ใช่เรื่องยากนัก
“เป็นไงบ้างครับ”
“ไม้ที่ถูกตัดออกมาเยอะเลยนะคะ แต่คนงานกลับน้อยมาก ขอโทษนะคะคุณจอมพลถ้าตัดไม้ออกมามากขนาดนี้คุณจอมพลได้ปลูกต้นไม้ทดแทนไหมคะ”
“ใช่ครับ ไม้ถูกตัดออกมาเยอะมาก เพราะแบบนี้ผมถึงอยากให้ชาวบ้านที่ว่างงานมาทำงานที่นี่ แต่ไม่ว่าผมจะบอกยังไงก็ไม่มีชาวบ้านคนไหนมาทำ มีก็มีน้อยเพราะเขากลัวงานหนักและเรื่องค่าใช้จ่าย”
นายจอมพลพูดออกมาด้วยความกลัดกลุ้ม สามินีคิดตามคำพูดของเขาแล้วถอนหายใจ
“เดี๋ยวสาลองพูดกับพวกลุง ๆ ดูนะคะเผื่อพวกท่านจะสนใจแล้วมาทำงานที่นี่ แต่สาไม่รับประกันนะคะว่าจะสำเร็จ”
“จริงเหรอครับ ถ้าเป็นสาพูดพวกลุงชาวบ้านต้องมาแน่ ๆ ยังไงผมก็ขอบคุณครูสาล่วงหน้าเลยนะครับ ส่วนเรื่องที่คุณสาถามแน่นอนว่ายอมปลูกอยู่แล้วครับ ในเมื่อตัดออกไปก็ต้องปลูกทดแทน”
“ดีแล้วค่ะสมดุลทางธรรมชาติจะได้ไม่หายไป ส่วนเรื่องที่สาจะช่วยพูดกับลุง ๆ น้า ๆ นั้น ไม่เป็นไรค่ะไม่ต้องขอบคุณสา มีอะไรที่สาพอช่วยได้สาก็จะช่วย” หญิงสาวพูดตอบรับยิ้ม ๆ
ภาพคนสองคนมองตากันทำให้ใครอีกคนที่เฝ้าจับตามองดูอยู่นั้นรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเจ้าตัวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไม่พอใจอะไร
“นายครับ” ในขณะที่นายจอมพลและสามินีมองสบตากันอยู่นั้นลูกน้องของชายหนุ่มก็วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่นจนเขาต้องมองด้วยความไม่พอใจ
“มีอะไร”
“เอ่อ... คือ” ลูกน้องคนนั้นไม่พูดใช้สายตามองมาที่หญิงสาวเพียงคนเดียวที่อยู่บริเวณนั้นแทน
“เอ่อ... ครูสาครับเดี๋ยวผมขอไปคุยงานสักครู่นะครับแล้วจะรีบกลับมา คุณสารออยู่ที่นี่นะครับ”
“ได้ค่ะ แต่สาอยากเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำอยู่ตรงไหนคะ” หญิงสาวตอบรับและถามกลับไปในทีเดียว
นายจอมพลจึงให้ลูกน้องที่เป็นผู้หญิงที่คอยทำบัญชีค่าแรงคนงานของปางไม้ส่วนนอกพาเธอไปยังห้องน้ำ
เมื่อสามินีมาถึงห้องน้ำแล้วหญิงสาวก็ทำทีว่าเข้าไปในห้องน้ำ ทว่าพอพ้นสายตาคนงานหญิงคนนั้นหญิงสาวก็พาตัวเองหลบออกมาแล้วเริ่มสำรวจพื้นที่ของปางไม้ทันที รวมถึงไปสำรวจในพื้นที่ที่เธอสนใจอีกด้วย
ตั้งแต่เข้ามาในปางไม้ตีตรา เธอมองไปยังโกดังเก็บไม้ที่ถูกปิดเงียบแต่กลับมีคนยืนเฝ้าเวรยามอยู่หนาแน่น ทำให้สามินีอดสนใจและสงสัยไม่ได้ พอเอ่ยปากถามนายจอมพล ก็ได้รับคำตอบแค่ว่าเป็นสินค้าที่จะส่งให้ลูกค้าเร็ว ๆ นี้ คำตอบที่ได้รับกลับไม่ทำให้เธอพอใจจนเธอต้องลอบมาสำรวจแบบนี้นั่นเอง
“เอ็งว่าคุณจอมพลจะหลอกครูสาสำเร็จไหมวะ เรื่องที่ให้ครูสาหาคนงานใหม่มาให้”
“กูว่าได้นะเว้ย และที่สำคัญกูว่าคุณจอมพลจะได้ตัวครูสามาเคี้ยวเล่นด้วย”
“คิดแบบนั้นเหรอวะ”
“เออดิ ว่าแต่เราจะต้องยืนเฝ้าฝั่งนี้อีกนานแค่ไหนวะ กูอยากเข้าห้องน้ำแล้ว”
“งั้นมึงไปเลย กูเฝ้าคนเดียวได้”
“แน่ใจนะเว้ย”
“เออ ไปเถอะ” สามินีหยุดฟังสิ่งที่คนงานชายสองคนพูดคุยกันด้วยท่าทางระแวดระวัง ยิ่งได้ยินถึงสิ่งที่คนงานพูดถึงคิ้วสวยก็ขมวดมุ่นด้วยความกังวล เมื่อเห็นคนงานชายอีกคนเดินมาทางนี้ หญิงสาวก็หลบไปอีกด้าน เมื่อคนงานชายคนนั้นผ่านไปแล้วหญิงสาวก็ตั้งใจว่าจะกลับไปที่ห้องน้ำเหมือนเดิมถ้าไม่ได้ยินคำพูดต่อมา
“เฮ้ย! ไอ้ทีไปไหน”
“มันไปเข้าห้องน้ำมีอะไร”
“เออ! งั้นไม่เป็นไร รีบไปหานายก่อนเถอะ จะได้ไปคุยเรื่องไม้พะยูง”
สามินีพยายามทำให้ตัวเองนิ่งและเงียบที่สุดจนมั่นใจว่าเสียงพูดคุยหายไปแล้ว เธอถึงตัดสินใจเดินออกมาจากที่ซ่อน สายตาของหญิงสาวมองตรงไปที่ประตูเข้าโกดังนี้อย่างละล้าละลัง ใจหนึ่งอยากไปจากที่นี่
อีกใจกลับอยากดูสิ่งที่อยู่ภายในนั้น สุดท้ายความอยากรู้อยากเห็นก็มีมากกว่า หญิงสาวตัดสินใจเดินไปเปิดประตูช้า ๆ
จะเรียกว่าโชคดีหรือคนงานสะเพร่าก็ไม่รู้ได้ เพราะประตูที่สมควร
ล็อกกลับไม่ได้ล็อก หญิงสาวสามารถเข้าไปได้อย่างง่ายดาย เมื่อพาตัวเองเข้ามาด้านในได้แล้วหญิงสาวก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า
“นี่มัน!”
หลังจากที่ตั้งสติได้ มือบางยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพตรงหน้าไว้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเธอถ่ายทุกซอกทุกมุมเลยก็ว่าได้
แก๊ก!
“มึงไปดูของตรงนั้นสิ ยกตัวอย่างไปด้วย เราต้องเอาไปให้นายดู นายรออยู่”
“เออ ๆ มึงรออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวกูมา”
เสียงคนงานสองคนที่เพิ่งจะไปก่อนหน้านี้ดังอีกครั้ง สามินีตัดสินใจหลบตั้งแต่ได้ยินเสียงประตูเปิดแล้ว ไม่ถึงห้านาทีสองคนนั้นก็เดินออกไป หญิงสาวตัดสินใจเดินไปตรงจุดที่มีลังไม้อยู่ เดิมทีที่เธอถ่ายเธอไม่ได้เปิดดูและไม่คิดจะทำ แต่เมื่อได้ยินว่าตัวอย่างก็อดสงสัยไม่ได้
สามินีเปิดลังไม้ด้วยความระมัดระวัง สิ่งที่เห็นคือผงสีขาวไม่ต้องให้ใครบอกเธอก็รู้ได้ด้วยตัวเองว่ามันต้องเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายแน่ ๆ หญิงสาวรีบถ่ายรูปและปิดลังด้วยความเร็วก่อนจะออกมา จากนั้นก็กลับไปที่ห้องน้ำ ทำทีว่าเพิ่งเสร็จธุระ เมื่อออกมาก็เห็นคนงานหญิงที่พาเธอมายืนรออยู่ หญิงสาวยิ้มให้ก่อนที่ทั้งเธอและคนงานหญิงคนนั้นจะกลับมาที่จุดเดิม
“รอตรงนี้นะคะ ฉันขอตัวไปทำงานก่อน ไม่นานหรอกค่ะเดี๋ยวนายก็กลับมา”
“ค่ะ”
สามินีตอบรับด้วยรอยยิ้ม คล้อยหลังของคนงานหญิง สามินีก็พาตัวเองเดินไปยังทิศทางที่จอมพลหายไป เธอค่อย ๆ เดินหลบหลีกสายตาจากคนงาน
“อืม ทำได้ดี” ในขณะที่หญิงสาวกำลังเดินหานายจอมพลอย่างสะเปะสะปะอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียงของนายจอมพลเข้า หญิงสาวจึงเอาหูแนบประตูฟังอย่างตั้งใจ
“ของล็อตนี้เราต้องส่งลูกค้าให้ได้ เส้นทางใช้ทางเดิมเพราะเส้นนั้นไม่มีตำรวจหรือทหารมาคอยตรวจสอบอยู่แล้วเข้าใจไหม”
“ครับนาย”
“แล้วเรื่องคนงานตัดไม้ล่ะครับ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกฉันคิดว่าครูสาน่าจะหาคนมาช่วยงานเราได้”
“นายไว้ใจเธอมากไปหรือเปล่าครับ”
“หึหึ ผู้หญิงแบบครูสาเธอไม่ทันฉันหรอกหัวอ่อนขนาดนั้น เอาเป็นว่าอย่าทำอะไรให้เธอสงสัยก็พอ ส่วนงานอื่น ๆ ฉันจะมาพูดคุยด้วยอีกที วันนี้พอแค่นี้ฉันทิ้งเธอไว้นานแล้ว ต้องกลับไปหา”
เมื่อได้ยินคำพูดคนด้านในว่าจะกลับไปหาเธอ สามินีก็รีบพาตัวเองกลับมาด้วยความรวดเร็ว ใจของหญิงสาวเต้นตึกตัวด้วยความตระหนกและกลัว สิ่งที่เธอเห็น และได้ยิน ล้วนไม่ใช่สิ่งที่เธอควรเห็นเลยทั้งนั้น
แม้ว่าตอนนี้เธอจะปลอดภัยเพราะคนพวกนี้ยังไม่รู้ว่าเธอไปล่วงรู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้เข้าก็ตาม แต่ถ้าหากพวกเขารู้ล่ะจะเกิดอะไรขึ้น ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัวใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือด
“ครูสาเป็นอะไรหรือเปล่าครับหน้าซีด ๆ”
“อะ เอ่อ สารู้สึกเหมือนไม่สบายน่ะค่ะ”
“งั้นเหรอครับ”
“ค่ะ”
“ไปครับกลับกันเถอะ เดี๋ยวผมไปส่ง”
นายจอมพลบอกหญิงสาวพยักหน้ารับรัวเร็ว ไม่นานเขาก็มาส่งเธอถึงบ้านพัก หญิงสาวหันไปขอบคุณเขาก่อนที่ตัวเธอจะหันหลังและเดินเข้าบ้านไปด้วยความเร่งรีบ ปล่อยให้ชายหนุ่มมองตามแผ่นหลังบางด้วยความไม่เข้าใจปนสงสัย