Chapter 4. แมวน้ำ(ท่วม)

1454 คำ
“มาสิ เอาแมวไว้ในกรงได้แล้ว” “เอ่อ...จะเอากรงแมวไว้นอกบ้านหรือคะ” “ทำไมล่ะ ก็อยู่ใต้ชายคานี่ไม่โดนแดดโดนฝนหรอก” “แต่...เอ่อ...คือ...ขอ..ขอเอากรงไว้ในบ้านได้ไหมคะ มุมห้องก็ได้ค่ะ รับรองว่าจะไม่ให้สกปรกเลยค่ะ” ขวัญข้าวพูดอย่างเกรงใจแต่ก็สงสารถ้าแมวจะต้องอยู่นอกบ้าน แต่เธอดูแลเจ้าแมวอ้วนฟูมาเป็นสัปดาห์แล้ว นอนห้องเดียวกัน เตียงเดียวกัน จะให้อยู่ห่างกันก็ยังไงอยู่ จะอ้าปากปฏิเสธ แต่เห็นแววตาเปี่ยมความหวังแล้วเขาก็ใจอ่อน แค่เอากรงไว้ในบ้านคงไม่เป็นอะไร “ก็ได้ แต่ต้องดูแลให้ดีล่ะ” “ขอบคุณค่ะ” ขวัญข้าวยิ้มกว้างแล้วมองคนตัวโตยกกรงแมวเข้าไปด้านใน เขาตั้งไว้มุมหนึ่งของห้อง เธอเปิดตะกร้าอุ้มแมวอ้วนออกมาแล้วใส่ในกรง จากนั้นก็จัดการเททรายแมววางไว้ด้านใน เธอถือชามใส่น้ำแล้วมองหน้าเจ้าของบ้าน ยังไม่ทันเอ่ยปากเขาก็ชี้ทางไปห้องครัวให้ หญิงสาวเดินเร็วๆ เทน้ำใส่ชามแล้วเดินกลับมาวางไว้ให้แมว “ขอโทษนะ คงอึดอัดแย่เลย อยู่ในตะกร้าตั้งนาน” ขวัญข้าวปลอบใจแมวอวบด้วยขนมแมวเลีย “รองท้องไปก่อน เดี๋ยวเอาอาหารให้กิน” “ดูยังไงก็อ้วน” “อย่าว่าน้อง!” ขวัญข้าวหันมาทำตาดุใส่ แต่ตุลากลับหัวเราะแล้วยื่นมือไปดึงแก้มของเธอเล่นเหมือนตอนที่เธอยังเป็นเด็ก “ไปทำความสะอาดห้องก่อน เดี๋ยวคืนนี้ไม่มีที่นอน” “ค่ะ” ขวัญข้าวยกมือขึ้นลูบแก้มที่ถูกเขาดึง เขาทำเหมือนเธอเป็นเด็กอีกแล้ว หรือเห็นเธอเป็นเด็กอ้วนอยู่อีกนะ หญิงสาวส่ายหน้าไปมาไม่อยากคิดมากไปคนเดียว ร่างเพรียวบางเดินตามหลังเขาไปที่ห้องนอนชั้นล่างเป็นห้องพักสำหรับแขก ตุลาดึงผ้าคลุมเตียงออก ปกติให้แม่บ้านมาทำความสะอาดบ้านอาทิตย์ละครั้งอยู่แล้ว ห้องจึงยังสะอาดอยู่ “นี่เป็นห้องนอนแขก ห้องนอนพี่อยู่ข้างบน ห้องน้ำอยู่ด้านนอกก่อนถึงห้องครัว เห็นแล้วใช่ไหม” “ค่ะ” “อ้อ! ต้องรายงานแม่ว่ารับข้าวจี่มาถึงบ้านแล้ว” เขาพูดอย่างเพิ่งนึกได้แล้วโทรศัพท์รายงานมารดา เขาพูดคุยสองสามคำแล้วหันมาทางหญิงสาวแล้วพูดขึ้น “แม่อยากคุยด้วย” “ค่ะ...” ขวัญข้าวรับสมาร์ทโฟนมาแล้วคุยกับคุณน้ารัศมี “ขอบคุณนะคะคุณน้า ข้าวจี่มาถึงบ้านแล้วค่ะ ...ค่ะ...พี่ตุลย์ไปรับมาค่ะ ปลอดภัยดีค่ะ ทั้งคนทั้งแมว ขอบคุณมากนะคะ” ตุลายืนฟังขวัญข้าวคุยโทรศัพท์กับแม่ของเขาไม่กี่นาที แปลกใจที่ฟังดูเหมือนคุยกันบ่อย แต่กับเขาที่อยู่ใกล้กว่ากลับไม่ได้เจอกันเลย ขวัญข้าวพูดคุยอีกเล็กน้อยแล้วยื่นโทรศัพท์ส่งคืนให้ “ดูแลน้องดีๆล่ะ เดี๋ยวแม่โอนตังค์ไปช่วยค่ารักษาแมว” “แม่สายเปย์ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย” ตุลาอดหยอกแม่ไม่ได้ นี่แสดงว่ารู้อยู่แล้วว่าต้องดูแลแมวถึงให้เขาไปรับเองสินะ “พูดมากจริง แม่ไม่คิดค่าเช่าบ้านก็ดีแค่ไหนแล้ว” “เค็มเกินไปแล้วคุณนายรัศมี” ตุลาคุยกับแม่อีกเล็กน้อยแล้ววางสาย วันนี้ยุ่งวุ่นวายเกือบทั้งวัน เขาเก็บโทรศัพท์แล้วหันมาคุยกับขวัญข้าว “เดี๋ยวพี่จดรหัสWifiให้นะ ปกติพี่อยู่คนเดียวเลยไม่ได้ซื้อของสดไว้ในตู้เย็น ถ้าหิวอะไรก็โทรสั่งเอาได้ หรือจะออกไปกินข้างนอกก็ได้ แล้วก็ดูโทรทัศน์ที่ห้องนั่งเล่นก็ได้ อ้อ! เครื่องซักผ้าอยู่ด้านหลัง อยากซักเสื้อผ้าก็ได้นะ” “ขอบคุณค่ะ” “เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พักผ่อนก่อนเถอะ พี่ขอพักสักชั่วโมงแล้วจะพาแมวไปหาหมอแล้วกัน” พรุ่งนี้เขาต้องไปทำงาน ถ้าไม่พาไปวันนี้คงไม่มีเวลาพาไป และดูท่าทางเธอจะหิ้วตะกร้าแมวไปเองไม่สะดวกนัก “ค่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้ารับ รอจนเขาออกไปแล้วจึงเปิดเป้หยิบเสื้อผ้าที่เอาติดตัวมาสามสี่ชุดออกมาวางบนเตียง เธอเป็นห่วงแมวเลยไม่ได้หยิบเสื้อผ้ามาเยอะนัก แค่โน้ตบุ๊คกับแมวก็หนักแล้ว เอาเถอะ คงไม่ได้อยู่บ้านนี้นานนักหรอก ขวัญข้าวบอกกับตัวเองแล้วเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อยแล้วออกไปเล่นกับเจ้าแมวหางเจ็บ ได้ยินคุณน้ารัศมีพูดแบบนั้นแล้วเธอก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง อย่างน้อยก็มีคนช่วยค่ารักษาแมว จะโทรไปขอเงินแม่ก็เกรงใจ แม่ทำงานหนักให้เธอได้เรียนหนังสือสบายแต่เธอก็ยังหาภาระมาให้แม่ต้องเหนื่อยอีก ที่จริงก็อยากย้ายออกมาอยู่หอนอกแต่เพราะค่าที่พักค่อนข้างแพงเอาการอยู่ เธออยากช่วยแม่ประหยัดค่าใช้จ่ายเลยไม่ย้ายออกเสียที และด้วยนิสัยโลกส่วนตัวสูงอย่างเธอจะไปหารูมเมทมาช่วยแชร์ค่าเช่าห้องก็เป็นไปได้ยากมาก ขวัญข้าวโผล่หน้าออกมาไม่เห็นเงาร่างของชายหนุ่ม เธอจึงเดินมาดูเจ้าแมวอ้วนกลมขนสีครีมแต่ช่วงท้องเป็นสีขาว อายุน่าจะราวๆ ปีกว่าๆ เธอไม่รู้ว่าทำไมหางของมันเป็นแผล และเป็นมานานแค่ไหนก็ไม่อาจรู้ได้ แต่หางของมันหดสั้นไปเรื่อยๆ แม้ว่าเธอจะพยายามล้างแผลและใส่ทิงเจอร์ไอโอดีนให้ก็ตาม “ฟูฟู อดทนหน่อยนะ” เธอคุยกับแมวที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน แล้วอุ้มแมวออกมานอนเล่นบนโซฟา เจ้าตัวอ้วนกลมคงเจ็บแผล ส่งเสียงร้องเบาๆ ตุลาคิดจะหลับสักงีบแต่ดันนอนไม่หลับ อาจเพราะมี ‘คนอื่น’ อยู่ในบ้านทำให้รู้สึกแปลกๆ เขาเดินลงมาจากชั้นบนก็เห็นหญิงสาวนอนเอกเขนกบนโซฟาโดยมีแมวตัวกลมอยู่บนอก “นึกว่าหลับ” เขาทักแล้วเดินเลยไปในครัว หยิบน้ำดื่มแล้วเดินกลับมานั่งที่โซฟาอีกฝั่งที่หญิงสาวนอนอยู่ ขวัญข้าวรีบดีดตัวขึ้นนั่ง เธอก็คิดว่าเขาหลับอยู่เลยออกมานอนกลิ้งไปกลิ้งมาในห้องนั่งเล่นแบบนี้ “นึกว่าพี่ตุลย์หลับอยู่เหมือนกันค่ะ” “ก็ว่าจะหลับแต่ไม่ง่วง” เขาดื่มน้ำแล้วมองหน้าแมวที่จ้องเขาตาขวาง “เฮ้!มองหน้าผู้มีพระคุณดีๆหน่อยสิ” “พี่ตุลย์อย่าไปดุน้องสิคะ” เธอกอดแมวแน่นขึ้น “ไหน ดูแผลหน่อยสิ” เขาถามแล้วเธอก็หันก้นแมวให้ดู หางมันเป็นแผลไม่รู้เป็นมานานแค่ไหน แต่ตอนนี้หางแมวยาวแค่คืบเดียวเอง “ถ้านอนไม่หลับเอาแมวไปหาหมอเถอะ” “ค่ะ” เธอยิ้มออกมาได้ แล้วรีบอุ้มแมวไปใส่ตะกร้าราวกับกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ ชายหนุ่มขับรถพาทั้งคนและแมวมาคลินิกรักษาสัตว์ห่างจากบ้านราวสองกิโลเมตร โชคดีที่ไม่ต้องรอนาน แต่เมื่ออุ้มแมวอวบขึ้นเตียงและคุณหมอตรวจดูแผลที่หางแล้วก็แนะนำว่าควรตัดหางส่วนที่ติดเชื้อทิ้ง “อย่าลืมว่าหางคือกระดูกสันหลังส่วนปลาย มันอาจมีผลกับระบบประสาทได้นะคะ ตัดหางแล้วรักษาแผลจะดีที่สุดค่ะ” ขวัญข้าวเม้มปากจนเรียบตึง เธอก็ลองเสิร์ซหาข้อมูลมาบ้างแต่พอได้ยินคุณหมอยืนยันอย่างนี้แล้วก็อดสงสารแมวตัวนี้ไม่ได้ “งั้นก็ตัดเลยครับ” เป็นตุลาที่ตัดสินใจแทน รักษาชีวิตแมวไว้น่าจะดีกว่าเสี่ยงรักษาแผลติดเชื้อที่หางที่อาจจะลามและทำลายระบบประสาทของแมวได้ “แต่ตัดวันนี้ไม่ได้นะคะ” คุณหมอพูดด้วยรอยยิ้มและอธิบาย “ก่อนผ่าตัดต้องงดน้ำงดอาหารน้องก่อนค่ะ” “ถ้าอย่างนั้น คุณหมอนัดวันรักษาเลยก็ได้ค่ะ” “เดี๋ยวสิ เธอจะมาคนเดียวได้ไง” ตุลาหันมาดุขวัญข้าว ถึงคลินิกจะไม่ไกลบ้านแต่ก็ต้องขับรถมา ต่อให้มาด้วยมอเตอร์ไซค์ก็ต้องมีคนช่วยหิวตะกร้าแมว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม