หญิงสาวมองตามท้ายรถที่ขับไปไม่คิดหยุดด้วยหัวใจที่แตกร้าว เขาทิ้งเธออย่างไม่ไยดี ไร้สิ้นความห่วงหาอาทรแต่อย่างใด
ฟ้าลดายืนอึ้ง น้ำตารินไหลอาบแก้มนวลทั้งสองข้าง หยาดน้ำตาบดบังทัศนียภาพเบื้องหน้าจนหมดสิ้น ก่อนที่เธอจะเริ่มตั้งสติ และออกเดินไปเรื่อย ๆ ตามเส้นทางกลับไร่ มือน้อยค่อย ๆ ปาดน้ำตาทิ้ง แต่ยิ่งทำเช่นนั้น หยาดน้ำตาก็ยิ่งไหลรินออกมาจากดวงตาคู่สวย จนเธอรู้สึกเจ็บร้าวไปหมดทั้งกระบอกตา
เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง ฟ้าลดาอุทานเบา ๆ เมื่อสายฝนตกลงมากระทบผิวกาย ก่อนที่หยดฝนนั้นจะแรงขึ้นกระทบผิวกายจนเธอรู้สึกเจ็บไปหมดทั้งร่าง
สายฝนยังทำให้เธอรู้สึกหนาวเหน็บจับขั้วหัวใจ ร่างน้อยเดินลากขาไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กน้อยหลงทาง คิดว่าดีเหมือนกันที่ฝนตก เธอร้องไห้แบบนี้ จะได้ไม่มีใครได้เห็นน้ำตาอันแสนพ่ายแพ้จากคนไร้ค่าเช่นเธอ
ความอ่อนล้าทำให้ฟ้าลดาแทบมองเส้นทางไม่เห็น อ่อนล้าทั้งกายทั้งใจจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว
ก่อนที่สติของเธอจะดับวูบไป เธอเห็นว่าร่างสูงของใครคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้า เธอเห็นแค่รองเท้าของเขา เท่านั้น
อาจจะเป็นเกริกก็ได้ เขาอาจจะกลับมารับเธอแล้วนั่นเอง สามีของเธอคงไม่ได้ใจร้ายนักหรอก
ริมฝีปากซีดเซียวที่กำลังจะเอื้อนเอ่ยปิดสนิทพร้อมกับดวงตาอันอ่อนแสง
นทีรีบประคองร่างเจ้านายสาวเอาไว้ ก่อนจะอุ้มขึ้นสู่อ้อมแขนอย่างร้อนรน เขาเห็นว่าฟ้าลดายังไม่กลับจึงจะมาตาม และเมตตาก็บอกให้เขามารับเจ้านายสาวด้วย เขาจึงขับรถออกมาจากไร่เพื่อมารับเจ้านายสาว แต่กลับมาเจอเธอเดินตากฝนอยู่ข้างถนน จึงรีบเลี้ยวรถกลับมาเพื่อรับเจ้านายสาว พอลงมาจากรถก็พบว่าเธอเป็นลมหมดสติไปเสียแล้ว
ฟ้าลดาไข้ขึ้นสูงมาก จนนทีต้องให้เมตตาคอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ และนทีก็รีบตามหมอมาดูอาการเจ้านายสาวโดยเร็ว คุณหมอจับฉีดยา ให้น้ำเกลือและรอดูอาการ
นทีกำชับเมตตาว่าอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับอัคคี เพราะเขากลัวเจ้านายหนุ่มจะไม่สบายใจ
อาการของฟ้าลดาน่าเป็นห่วง เธอนอนละเมอพร่ำเพ้อเพราะพิษไข้ไม่ได้สติ
นทีรู้สึกโกรธเป็นอันมาก เขาบุกไปที่บ้านของเกริก ก่อนจะเดินเข้าไปกระชากคอผู้ชายที่เจ้านายสาวรักสุดหัวใจเพื่อประเคนหมัดเข้าใส่ไม่ยั้ง
เกริกเองก็ตกใจที่จู่ ๆ เขาโดนต่อยแบบไม่ทันตั้งตัวระหว่างที่กำลังเตรียมของจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่พอได้สติ เขาก็ต่อยสวนกลับไปบ้าง
“แกเป็นบ้าอะไร มาต่อยฉันทำไม” เกริกจำได้ว่านทีคือลูกน้องของอัคคีและยังเป็นลูกน้องที่ฟ้าลดาเรียกใช้อยู่บ่อยครั้ง
“ไอ้สารเลว มึงทำคุณฟ้าป่วยปางตาย” นทีตรงเข้ากระชากคอเสื้อของอีกฝ่ายอย่างโกรธจัด
“ป่วย ป่วยเป็นอะไร” เกริกเลิกคิ้วขึ้น พลางเอ่ยถามด้วยสีหน้าสงสัย กระชากมือของอีกฝ่ายออกจากคอเสื้อ ก่อนจะสะบัดแรง ๆ สีหน้าบอกว่าไม่ยอมให้ต่อยง่ายๆ อีกแน่
“แกมันเลว ถึงไม่รักกันก็ควรจะเป็นสุภาพบุรุษมากกว่านี้ แกปล่อยให้คุณฟ้าเดินตากฝนกลับบ้านคนเดียวจนเป็นลม ตอนนี้กำลังป่วยหนัก จิตใจแกมันทำด้วยอะไรวะไอ้สารเลวเอ๊ย!”
“แล้วมันหนักหัวอะไรแกด้วยไม่ทราบ” เกริกมองอย่างเอาเรื่อง
“แกมันใจร้ายใจดำอำมหิต ปล่อยผู้หญิงตัวเล็กๆ ไว้ข้างทาง ที่เปลี่ยวแบบนั้นถ้าเธอโดนฉุดไปจะทำยังไง” นทีอยากจะควักปืนออกมายิงอีกฝ่ายให้แดดิ้น ถ้าไม่คิดถึงอนาคตของตัวเองว่าจะต้องไปนอนในคุก
“ก็แกมารับเธอแล้วไง” เกริกพูดยียวน
“ไอ้!” นทีชี้หน้าเกริกอย่างเอาเรื่อง
“ที่แกโกรธขนาดนี้เพราะอะไร อย่าบอกนะว่าแกกับเจ้านายสาวของแกแอบทำอะไรลับหลังคนอื่น”
“ไอ้เลวเอ๊ย!” นทีตรงเข้าต่อยเกริกอีกรอบ แต่รอบนี้เกริกเตรียมป้องกันตัว ทำให้ทั้งสองต่อยกันจนบาดเจ็บหนัก บิดามารดาของเกริกรีบเข้ามาห้ามปรามเอาไว้ แต่ไม่มีใครฟังเลยสักคน
นทีกลับไปด้วยความแค้นใจ พอรู้ว่าฟ้าลดาฟื้น นทีก็รีบเข้าไปเยี่ยมเจ้านายสาวในทันที
“คุณฟ้าเป็นยังไงบ้างครับ”
“นทีเป็นอะไร ไปทำอะไรมาถึงหน้าตาบวมช้ำแบบนั้น แค่ก แค่ก แค่ก” ฟ้าลดาพูดแล้วไอออกมา สีหน้าของเธอยังซีดเผือด ริมฝีปากยังแห้งผาก จนเมตตาต้องลูบหลังให้ พร้อมทั้งนำน้ำมาให้เจ้านายสาวดื่ม
“ช่างมันเถอะครับ ผมก็แค่มีปัญหากับพวกอันธพาลนิดหน่อยเท่านั้นเอง” นทีพูดปัด ไม่อยากให้ฟ้าลดาต้องเป็นกังวล
“เมตตาบอกว่านทีเป็นคนไปช่วยฉันเอาไว้จากข้างทางเหรอ” ฟ้าลดาเอ่ยถามเสียงขื่น พยายามไม่ให้สั่นระริก ก่อนสลบไปเธอคิดว่าเป็นสามีเสียอีกที่กลับมารับเธอ แต่เปล่าเลย รองเท้าคู่ที่เดินมาตรงหน้าคือนทีหาใช่เกริก เขาทิ้งแล้วทิ้งเลย ไม่เคยคิดไยดี
เธอมันช่างไร้ค่าเสียจริงฟ้าลดา
“ครับ” นทีรับคำ มองสีหน้าที่ซีดเผือดยิ่งกว่าเก่าของเจ้านายสาวแล้วนึกสงสารจับใจ
น้ำตาของฟ้าลดาไหลซึมออกมาจากดวงตา เธอรีบปาดมันทิ้ง เพราะไม่อยากให้ใครได้เห็นน้ำตาที่แสดงความอ่อนแอของตัวเอง
“ฉันอยากนอนพัก เมตตากับนทีออกไปก่อนนะ นทีไปทำแผลเสียด้วยนะ ฉันเป็นห่วง” ฟ้าลดาทิ้งตัวลงนอน พลางหันหลังให้คนทั้งสอง เพื่อยุติการสนทนา
พอเมตตากับนทีออกไปแล้ว ฟ้าลดาก็สะอื้นไห้ เธอนอนร้องไห้จนหลับไปด้วยหัวใจปริร้าว เจ็บปวดกับความรักครั้งนี้เหลือเกิน
ซึ่งเป็นแค่รักเขาข้างเดียว!!!
ฟ้าลดานอนซมอยู่นานหลายวัน ไม่ใช่เพราะพิษไข้ แต่เพราะป่วยทางใจ ทำให้เมตตากับนทีสงสารเจ้านายสาวไม่น้อย
“คุณฟ้ากินอะไรเสียหน่อยนะคะ คุณฟ้าไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว” เมตตายกอาหารมาให้เจ้านายสาว
“ฉันไม่ค่อยหิวเลยจ้ะ”
“แต่ถ้ายังขืนไม่กินอะไรแบบนี้ จะป่วยเอาได้นะคะ ดิฉันทำของโปรดของคุณฟ้าทั้งนั้นเลยนะคะ ” เมตตาถอนใจ
“ป่วยก็ตายไปเถอะ ฉันไม่อยากอยู่บนโลกนี้ต่อไปแล้ว”
“คุณฟ้าไม่นึกถึงคนที่รักคุณฟ้าบ้างเลยเหรอคะ”
“ใครเหรอจ๊ะรักฉัน คนไร้ค่าแบบฉันมีคนรักด้วยเหรอ”
“ก็คุณไฟไงคะ พี่ชายของคุณรักคุณมากนะคะ ถ้าคุณตายไปคนข้างหลังจะเสียใจแค่ไหน คุณเคยคิดบ้างไหมคะ ถ้าจะตายก็ให้ตายแบบมีค่าไม่ดีกว่าเหรอคะ ตายไปแบบไร้ค่าคนที่เสียใจก็คือครอบครัวของคุณและคนที่รักคุณ คนไม่รักเขาไม่มารู้สึกรู้สาอะไรด้วยหรอกค่ะ”
“ฉันขอโทษนะ ที่ทำอะไรก็เป็นภาระให้คนอื่นแบบนี้ตลอด”
“จริง ๆ แล้วดิฉันก็ไม่อยากบอกหรอกค่ะ แต่เห็นคุณเป็นแบบนี้ก็คงต้องบอก” ความจริงนทีห้ามไม่ให้นางบอก แต่เมตตาไม่อยากเห็นเจ้านายสาวตรอมใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว
“เรื่องอะไรเหรอจ๊ะ” ฟ้าลดาเอ่ยถามอย่างเลื่อนลอย สติสตังแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เมตตาถอนใจ คนอกหักมันเป็นเช่นนี้นี่เอง นางเข้าใจความรู้สึกดี ฟ้าลดาอาจจะแตกต่างตรงที่อกหักจากสามีที่แต่งงานกันแล้ว แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่อาจจะอกหักจากคนรักหรือแฟนที่คบหาดูใจกันอยู่ ถ้าถึงขั้นแต่งงานแล้วมาอกหักคงเพราะสามีนอกใจเสียส่วนใหญ่ แต่ฟ้าลดาอกหักตั้งแต่ยังไม่แต่งงานจนถึงขนาดแต่งงานกันไปแล้ว