ตอนที่ 8 เดอะวันเบสท์ (2)

1229 คำ
“พอได้แล้วค่ะคุณนิก” มาลินีละออกจากไหล่หนา พยายามลุกจากหน้าตักแข็งแรง หากแต่คนเจ้าเล่ห์กลับยิ้มหน้ารื่นไม่ยอมปล่อยเธอเป็นอิสระ “คุณนิกหยุดแกล้งมะลิเถอะค่ะ มะลิขอร้อง” มาลินีวิงวอนด้วยเนื้อเสียงสั่นเครือ “แค่นี้ถึงกับจะร้องไห้เลยหรือ?” ดนุนัยมองดวงหน้าหวานที่เวลานี้เริ่มแดงก่ำ คล้ายจะร้องไห้ จึงบีบแก้มป่องของเธอเบา ๆ ด้วยความอาทรไม่คิดว่าเธอจะขี้แยง่ายขนาดนี้ และเมื่อเห็นดวงตากลมโต กลอกระริกไหว ชายหนุ่มจึงอุ้มร่างเล็กบนตักที่ชุดยังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ลงบนเบาะข้าง ๆ “โอเค ไม่แกล้งแล้ว” ดนุนัยว่าพลางจะช่วยเธอจัดความเรียบร้อยของชุดที่เธอสวมอยู่ “ไม่ต้องค่ะ มะลิทำเอง” คนตัวเล็กรีบดักมือหนาที่เตรียมจะขยับมาที่ขอบกระโปรงสีดำ “ใกล้ถึงมหาวิทยาลัยแล้ว ให้ฉันช่วยนะเด็กดี” เสียงห้าวกระซิบต่ำ หากคนฟังเม้มปากแน่น มองเขาอย่างไม่ไว้ใจ “ไม่เป็นไรค่ะ มะลิจะเสร็จแล้ว” มาลินีบอกพลางรีบจัดการชายเสื้อให้เข้าที่ โดยไม่รู้ว่าคำพูดของตัวเอง โดยเฉพาะคำว่า ‘เสร็จ’ ทำให้คนฟังถึงกับอมยิ้ม เพราะคิดไปถึงเรื่องบนเตียง “คุณนิกยิ้มอะไรคะ?” เอ่ยถามเมื่อเห็นดวงตาสีถ่านฉายรอยเย้า แต่ก็ไม่ได้ยินคำตอบใด ๆ จากเขา ชายหนุ่มแค่ไหวหน้าเล็กน้อยพร้อมเอื้อมมือมาบีบพวงแก้มของเธอราวกับผู้ใหญ่หยอกเด็ก มาลินีไม่ได้ขัดขืนปล่อยให้เรียวนิ้วแกร่งหยอกเย้ากับพวงแก้มของเธออย่างที่เขามักจะทำบ่อย ๆ ในพักหลังมานี้ กระทั่งเมื่อรถเทียบมาจอดที่หน้ามหาวิทยาลัย มาลินียกมือไหว้คนตัวใหญ่ซึ่งตอนนี้ไม่ได้เย้าแหย่เธอเล่นอย่างก่อนหน้า “ขอบคุณที่มาส่งค่ะ” เธอกล่าวหลังบานประตูรถเลื่อนออก ก่อนรีบจ้ำอ้าวลงไปโดยไม่หันมามองคนตัวใหญ่ เลยไม่เห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มผ่านดวงหน้าคมเข้ม ดนุนัยมองจนสาวน้อยเข้าไปในรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว จึงหันมายิ้มกับตัวเอง ขณะที่รถที่นั่งมาค่อย ๆ เคลื่อนออกจากหน้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง ….. สักพักใหญ่ ๆ ลุงระพีก็นำรถเข้ามาจอดที่หน้าตึกเจ็ดชั้นสไตล์โมเดิร์น ที่นี่เป็นบริษัทรับออกแบบบ้านและงานโครงสร้างให้กับองค์กรต่าง ๆ ในสมัยรุ่นคุณปู่ของดนุนัย ท่านเช่าออฟฟิศที่ตึกสูงกว่าสี่สิบชั้นในย่านสาธรเป็นสำนักงานใหญ่ แต่ตั้งแต่ที่ดนุนัยขึ้นมารับตำแหน่งผู้บริหาร ชายหนุ่มจัดการสร้างอาคารใหม่ในที่ดินของครอบครัวด้วยตัวเอง ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองและทำเลดีไม่แพ้ออฟฟิศเก่า และในขณะเดียวกัน บริเวณโดยรอบออฟฟิศแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่นกับผู้ทำงานรวมถึงลูกค้าผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดีตามเจตนารมณ์ของเจ้าของบริษัท ร่างสูงในชุดสูทสีเข้มก้าวลงจากรถแล้วเข้าไปยังล็อบบี้ โดยมีพนักงานระบบรักษาความปลอดภัยคอยเปิดประตูให้เขา ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณก่อนจะยิ้มทักทายพนักงานที่ยกมือไหว้เขาระหว่างทางไปลิฟต์ ที่นี่ไม่มีการแบ่งแยกลิฟต์ระหว่างพนักงานกับผู้บริหาร ดนุนัยถือว่าทุกคนคือพี่น้อง ด้วยความเป็นกันเองของเขาที่มีต่อลูกน้องนี่เอง ทำให้พนักงานรักและเทิดทูนชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย ดนุนัยไม่ได้เป็นแค่เป็นซีอีโอเท่านั้น แต่ยังเป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงมากในวงการที่ไม่มีใครไม่รู้จัก มีองค์กรทั้งรัฐและเอกชนต่างก็อยากจ้างงานเขา รวมทั้งบริษัทต่างชาติก็ยังต้องการตัวเขาให้ไปออกแบบสถานที่สำคัญให้ เนื่องจากฝีมือการออกแบบที่ไม่เหมือนใครและมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ร่างสูงเข้าไปในลิฟต์แล้วกดปุ่มที่ช่องหมายเลขเจ็ด ซึ่งเป็นชั้นสำหรับผู้บริหาร และเมื่อยานพาหนะช่องสี่เหลี่ยมขึ้นมาหยุดอยู่ที่ชั้นเจ็ด ชายหนุ่มก้าวออกจากลิฟต์แล้วมุ่งตรงไปยังห้องทำงานของตัวเองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอาคาร ขณะนี้ทั้งผู้ช่วยหนุ่มและเลขาไม่มีใครอยู่ที่หน้าห้อง ซึ่งเขาไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะถ้าวันไหนมีประชุมผู้ช่วยกับเลขาสาวต้องไปจัดเตรียมความเรียบร้อยในห้องประชุมไว้รอก่อนเสมอ ดนุนัยหย่อนกายลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่หน้าโต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของห้อง เพราะตำแหน่งนี้ตามหลักฮวงจุ้ยช่วยเสริมพลังความคิดซึ่งก็เหมาะสำหรับผู้บริหารที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งห้องทำงานนี้ออกแบบรูปทรงตามหลักฮวงจุ้ยทั้งหมด ดูจากรูปภาพที่แขวนอยู่บนผนังห้อง มีทั้งรูปม้าแปดตัวติดอยู่เหนือโซฟานั่งเล่น ขณะที่หลังโต๊ะทำงานของเขาก็แขวนภาพวาดเสือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ทรงอำนาจ กล้าหาญและแข็งแกร่งสมเป็นผู้นำ นั่งเช็กงานในคอมคร่าว ๆ ดนุนัยก็ออกจากห้องทำงาน แล้วตรงไปยังห้องประชุมเมื่อถึงเวลา ร่างสูงตรงไปยังเก้าอี้ดำซึ่งตั้งอยู่ในหัวโต๊ะตัวยูของห้องประชุมขนาดกลาง ก่อนจะลงนั่งเพื่อเริ่มการประชุม ชายหนุ่มนั่งมองจอโพรเจคเตอร์ที่มีการรายงานความคืบหน้าของโครงการแต่ละโครงการจากสถาปนิกคนแล้วคนเล่า แต่แล้วจู่ ๆ เสียงของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นกลางคัน “วันนี้หลานจะไม่พูดถึงโครงการ เดอะวันเบสท์ ที่กำลังก่อสร้างอยู่หน่อยหรือ อาว่าทุกคนอยากรู้อยู่นะว่าโครงการดำเนินการไปถึงไหนแล้ว” คนที่ถามคือหนึ่งในหุ้นส่วนคนสำคัญของ บริษัท เดอะวันบิลด์ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีส่วนช่วยและผลักดันพัฒนาที่นี่ตั้งแต่ที่บิดาของดนุนัยยังดำรงตำแหน่งอยู่ และมีบทบาทสำคัญพอ ๆ กับบิดา เพราะถือหุ้นอยู่ในเดอะวันบิลด์ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ดนุนัยปรายสายตาคมเข้มไปทางหนุ่มใหญ่ในชุดสูทภูมิฐาน แม้ว่าชายผู้นี้จะมีอายุล่วงหกสิบปีไปแล้ว หากแต่เขายังมีรูปร่างสันทัด และใบหน้าคมสันดูหนุ่มกว่าวัยหลายปี เขาไม่ใช่แค่เป็นหุ้นส่วนเท่านั้น ชายวัยกลางคนคนนี้ยังเป็นเพื่อนรุ่นน้องของบิดาที่ล่วงลับไปแล้ว และยังเป็นอาแท้ ๆ ของจิรัตน์พี่เขยของดนุนัยด้วย ณรงค์ไม่ได้มีหุ้นเฉพาะใน เดอะวันบิลด์ เท่านั้น แต่ชายวัยกลางคนท่านนี้ยังเป็นเจ้าของบริษัทนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ จำพวกอุปกรณ์ไอที และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหลายชนิดโดยมีจิรัตน์หลานชายคอยช่วย เขาละสายตาจากหนุ่มใหญ่ที่มีหน้าผากกว้างและคิ้วเข้มโก่ง ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ผู้ช่วยหนุ่ม ให้เตรียมนำเสนอโครงการที่เขารับผิดชอบอยู่ให้กับบอร์ดและคนอื่น ๆ ผ่านหน้าจอขนาดใหญ่ตามที่ณรงค์เรียกร้อง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม