ภายในโรงพยาบาลเอกชนที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่เข้ามาใช้บริการหนาแน่น หญิงวัยกลางคน เครื่องแต่งกายแบรนด์ดังตั้งแต่หัวจรดเท้า บ่งบอกถึงฐานนะเธอได้เป็นอย่างดี หญิงวัยกลางคนเดินนวดนาดเข้ามาภายในอาคารของโรงพยาบาลด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยจริตผู้ดี
“สวัสดีค่ะ คุณหญิงภคพร” เพียงแค่พยาบาลเห็นใบหน้าของหญิงวัยกลางคน พวกเธอรีบยกมือไหว้อย่างนอบน้อมด้วยความเคารพ เนื่องจากหญิงวัยกลางคนคนนี้มีศักดิ์เป็นถึงพี่สาวเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้
“หมอไบรอัน ติดเคสไหม” หลังมือที่เริ่มมีรอยเหี่ยวย่นดึงแว่นตาสีชาแบรนด์ดังที่สวมใส่ออกจากเบ้าตา
“ตอนนี้คุณหมอไบรอัน อยู่ในห้องทำงานค่ะคุณหญิง”
“ขอบใจ” คำตอบที่ได้จากพยาบาลหน้าห้องเป็นที่พึงพอใจของคุณหญิงภคพรเป็นอย่างมาก เนื่องจากเธอไม่ได้เจอหลานชายนานมากแล้ว ก่อนที่เธอจะเดินมุ่งตรงไปที่ห้องทำงานของหลานชาย
ห้องทำงานที่เงียบสงัด มีเพียงแค่คุณหมอหนุ่ม ร่างสูงโปร่ง คิ้วเข้มเรียงตัวสวย บวกกับจมูกเป็นสัน รับเข้ากับรูปหน้าอันหล่อเหลาได้เป็นอย่างดี เขานั่งอ่านเอกสารเงียบ ๆ ด้วยความตั้งใจ เนื่องจากเอกสารสำคัญจึงทำให้เขาต้องอ่านและตรวจสอบด้วยความถี่ถ้วน
“กลับจากต่างประเทศไม่เข้าไปหาป้าเลยนะไบรอัน”
“สวัสดีครับคุณป้า” ร่างสูงของหมอไบรอันเป็นอันต้องชะงัก เมื่อเขาได้ยินเสียงของผู้เป็นป้าที่ไม่ได้เจอกันนานหลายปี ชายหนุ่มเอ่ยหน้าขึ้นจากกองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า เพ่งสายตามองไปยังคุณหญิงภคพร
“นี่หลานจะไม่กลับไปที่บ้านเลยรึไง รู้ไหมว่าคนแก่อย่างป้าเหงา”
“คุณป้าจะเหงาอะไรครับ คุณป้าก็มีครอบครัว”
“ก็เหงาอยู่ดี คุณธนัทก็เอาแต่ทำงานจนแทบไม่มีเวลาให้ป้า” ใบหน้าแสนงอนของคุณหญิงภคพรที่ดูเหมือนกำลังงอนผู้เป็นสามีของตัวเองที่ไม่มีเวลาให้ จนต้องมาหาเรื่องคุยแก้เหงากับหลานชาย
“คุณป้าก็ไปทำเล็บ ทำผม ช็อปปิ้งสิครับ”
“วันนี้ป้ามีธุระสำคัญ จะคุยกับหลาน”
“เรื่องอะไรเหรอครับ?” คิ้วเข้มขมวดกันเป็นปม เพียงแค่ได้ยินประโยคที่ผู้เป็นป้าเกริ่นออกมา
“ตอนนี้หนูเมธินี เรียนจบแล้ว กำลังจะบินกลับไทย”
“ครับ”
“ป้าก็เลยอยากให้หนูเมธินี มาเรียนรู้งานกับเรา”
“แต่เมธินีเรียนออกแบบมาไม่ใช่เหรอครับ ไม่ได้เกี่ยวกับงานโรงพยาบาลเลยสักนิด”
“ก็ให้น้องมาเป็นเลขาของไบรอันสิ น้องจะได้เรียนรู้งาน” ประโยคคำพูดของผู้เป็นป้า ทำให้คุณหมอหนุ่มถึงกับลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขารู้ว่าป้าของตัวเองคิดจะทำอะไรอยู่ในตอนนี้
“ผมไม่สะดวกและผมก็ไม่จำเป็นต้องมีเลขาครับ”
“แต่ไบรอัน น้องอยากทำงาน ไบรอันก็ช่วยน้องหน่อยสิลูก” น้ำเสียงอ้อนวอนบวกกับใบหน้าที่ดูน่าสงสารที่หญิงวัยกลางคนมักจะใช้กับหลานชายแสดงออกมาแต่คำตอบที่ได้จากคุณหมอไบรอันทำให้คุณหญิงภคพรฉุนไม่น้อย
“ถ้าเมธินีอยากทำงาน คงต้องไปทำแผนกธุรการครับ” ประโยคปฏิเสธอย่างสุภาพหลุดออกจากปากของคุณหมอไบรอันที่ดูไม่แยแสผู้เป็นป้าเลยสักนิด
เพียงแค่ได้ยินประโยคเชิงปฏิเสธจากหลานชาย คุณหญิงภคพรถึงกับหน้าเสีย เธอแสดงความหงุดหงิดใจออกมาชัดเจน หวังว่าหลานชายจะเข้ามาง้อและตามใจเฉกเช่นเมื่อหลายปีก่อน
“ผมไม่ต้องการเลขา”
“แต่”
“ถ้าไม่ไปทำที่แผนกธุรการ คุณป้าก็แนะนำที่อื่นให้เธอเถอะครับ”
“นี่ไบรอัน หลานรู้ตัวไหมว่าหลานเปลี่ยนไปมากแค่ไหน” เมื่อเห็นท่าทางเย็นชาของหลานชายที่แตกต่างจากเมื่อก่อนราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ เริ่มทำให้คุณหญิงภคพรอดใจไม่ไหว เปล่งเสียงแหลมดังออกมา
“ครับ”
“อย่าบอกนะ!!ว่าเป็นนางผู้หญิงคนนั้นที่ทำให้หลานเปลี่ยนไป” ประโยคคำพูดของคุณหญิงภคพรจี้ใจคุณหมอหนุ่มไม่น้อยและเพียงแค่คุณหญิงนึกถึงใบหน้าใสซื่อของผู้หญิงคนนั้นมันก็ทำให้เธอมีอารมณ์กรุ่นโกรธขึ้นมามากกว่าเดิม
“ผมขอตัวทำงานครับ เชิญ!!”
“สวัสดีค่ะ บก.” ภายในห้องทำงานโล่งโปร่งสีขาวสะอาดตา ร่างบางของคุณแม่ยังสาวนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์โดยมีลูกสาวคนสวยนอนกลางวันอยู่บนโซฟาตัวในระยะสายตาของผู้เป็นแม่
“ณดาคนสวย ต้นฉบับใกล้เสร็จรึยัง”
“โธ่!!บก.คนสวย ตอนนี้ณดาเร่งจนสมองตีรวนไปหมดแล้วค่ะ” เสียงหวานของณดาเอ่ยบอกกับบรรณาธิการที่ดูแลในเรื่องนิยายของเธอ โดยที่ตากลมโตยังคงจ้องหน้าจอแทบไม่กระพริบตา
“สุดสัปดาห์ต้องเสร็จนะ” น้ำเสียงสดใสที่แฝงไปด้วยคำสั่งเอ่ยบอกกับณดา ทำให้หญิงสาวที่นั่งทำงานมานานถึงกับอาการปวดหลังกำเริบ
“ทำไมรอบนี้ บก. เร่งณดาจังเลยคะ” เพียงแค่ได้ยินคำพูดของบรรณาธิการ น้ำเสียงอแงของณดาก็ดังขึ้น เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากปลายสายได้เป็นอย่างดี
“จะบอกว่าไงดีล่ะ”
“บอกมาเถอะค่ะ ณดา รอฟังอยู่” ใบหน้าสวยของณดาเริ่มเจื่อนลง ประโยคที่เธอได้ยินจากบรรณาธิการเล่นเอาหัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้น
“ตอนนี้นิยายของณดามีผู้จัดซีรี่ย์มาทาบทาม”
“ล้อเล่นกับณดารึเปล่าคะ บก”
“เรื่องจริงจ๊ะ บก.จะช่วยขายงานให้อีกแรงยังไงจะแจ้งข่าวดีไปนะ ยังไงรีบเร่งต้นฉบับ ด่วน ๆ”
“ว๊าว!!ดีใจจังเลย” หญิงสาวเปล่งเสียงออกมาเบา ๆ เพื่อไม่ให้รบกวนเวลานอนของลูกสาวตัวน้อยที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ รอยยิ้มดีใจปรากฎบนใบหน้าสวยของเธอ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงด้วยความดีใจ
“จ๊ะ แม่นักเขียนคนดัง” คำพูดประชดประชันที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูของบรรณาธิการ หยอกล้อคุณแม่ยังสาวจนเธอถึงกับรีบเอ่ยปฏิเสธเสมอเวลามีใครพูดว่าเธอเป็นนักเขียนชื่อดัง
“ณดา ไม่ได้ดังสักหน่อย”
“เรื่องเดิมตีพิมพ์เล่มขายดิบขายดี จนตอนนี้นักอ่านหลายคนอยากเห็นหน้านักเขียนคนสวยกันเป็นแถว”
“บก. พูดแบบนี้ เดี๋ยว ณดาก็ลอยขึ้นเพดานบ้านหรอกค่ะ”
“อย่าพึ่ง ลอย รีบปั่นต้นฉบับจ๊ะ” ประโยคดับฝันของณดา ทำให้รอยยิ้มสดใสหุบลงแปลเปลี่ยนเป็นแก้มป่องพองลมแทน ก่อนที่เธอจะวางสายบรรณาธิการสาวและหันไปปั่นต้นฉบับต่อ
เพราะเวลาที่ลูกหลับเป็นเวลาที่เธอมีสมาธิมากที่สุด การปั่นนิยายในแต่ละครั้งต้องรอให้ไรอันหลับหรือมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเท่านั้น