Episode 08
หลายวันต่อมา
“ฉันว่าช่วงนี้แกดูเหงาๆ นะ...” ซานติโน่กล่าวเมื่อเห็นผมโผล่หัวอยู่ในบ้านของมัน “แกไม่มีการงานให้ทำหรือยังไง?”
“ถ้าฉันมีฉันจะมานั่งอยู่ตรงนี้เหรอ?”
“....”
“ถามโง่ๆ” ผมกลอกตามองบนพร้อมยกขาขึ้นไขว่ห้าง “งานฉันเสร็จหมดแล้ว ไม่มีอะไรทำเลยมาหา”
“คุณน่าจะเหงานะคะ...หนูว่าทำไมคุณไม่ลองชวนลูกสาวของมาดามไปเดทล่ะคะ? หนูเป็นผู้หญิงเหมือนกันกับเธอ หนูก็พอมองออกว่าเธอก็น่าจะชอบคุณด้วยเหมือนกัน” ตาหวานกล่าว
“มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว ก็ฉันมันหล่อนี่นา ขนาดใบหน้าเหลือเพียงแค่ครึ่งหน้าก็ยังมีสาวๆ มาตกหลุมรัก เกลียดตัวเองจริงๆ ไม่น่าเกิดมาหล่อเลย”
“อ้วก!” ซานติโน่เบะปากพร้อมกับทำหน้าคลื่นไส้ “ฉันอยากจะอาเจียนออกมาเสียตรงนี้เลยจริงๆ แต่ก็กลัวว่าภรรยาของฉันจะรับกลิ่นไม่ไหว”
“เหอะ! คนขี้อิจฉาแบบแกเนี่ย...น่าสมเพชจัง”
“ปากดีจังนะแก! ปากดี...แต่ใจกระจอกแบบนี้จะได้แต่งงานไหมวะ?”
“ฉันจะแต่งงานตอนไหนมันก็เรื่องของฉัน”
“ก็เพราะแกไม่แยแสใครแบบนี้ไง มีหวัง...แกได้แต่งพร้อมลูกฉันแน่ๆ”
“มันก็ไม่แน่นะลูกแกอาจจะมาเป็นภรรยาของฉันก็ได้”
“ส้นตีนกูนี่!” ซานติโน่ตวาดลั่นพร้อมยกกระดิกเท้าเป็นการขู่ “อย่า...อย่าแม้แต่จะคิดนี่หลานมึง!”
“หึหึ...” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนที่จะเลียขอบปากเล็กน้อยแบบวาเรนติโน่สไตล์ “ไม่ต้องแส่เรื่องของฉันหรอกหน่า...เอาเป็นว่าฉันไม่ขึ้นคานแน่นอน”
“เพราะฉันเจอ...ผู้หญิงในฝันของฉันแล้ว”
“วาเรนติโน่มีความรัก...น่าลุ้นเหมือนกันนะคะเนี่ย เดาไม่ได้เลยว่าจะออกมาเป็นยังไง” ตาหวานหัวเราะในลำคอเบาๆ พร้อมลูบท้องตัวเอง “ยังไงก็รีบมีเบบี๋ให้ทันหนูนะคะ”
“ฉันเกลียด...เด็ก!” ผมกลอกตามองบนพร้อมเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“คุณอยากจะลองจับดูไหมคะ? เผื่อว่า...คุณอาจจะอยากมีเป็นของตัวเองไวๆ ก็ได้นะ”
“ก็ฉันบอกว่าฉันเกลียดเด็กไงยัยบ๊องนี่!” ผมตวาดใส่เธอไปเสียงดัง แต่แทนที่ซานติโน่มันจะโกรธและด่าผม มันกลับหัวเราะคิกคัก
“มาเถอะค่ะ” เธอดึงมือของผมไปแนบที่ท้องของเธอ ที่ตอนนี้ขนาดของท้องก็เริ่มออกมามากขึ้น มากกว่าตอนที่ผมจับตัวเธอไปตอนนั้น “รู้สึกยังไงบ้างคะ?”
“ร...รู้สึกอะไรเล่า!” ร่างสูงกระชากมือกลับพร้อมกับสะบัดมือเล็กน้อย “ฉันไม่ชอบเด็กก็คือไม่ชอบ...ไม่ได้อยากจะมีลูกเลยสักนิด!”
“แหมะ...แต่ตอนนั้นคุณเอ็นดูเจ้าตัวเล็กมากเลยนะคะ” ตาหวานยิ้มกริ่มพร้อมชี้นิ้วแซวผม “คุณหน้าแดง...นั่นไง คุณรักเด็กแต่ปากแข็ง 555”
“แกหัดบอกภรรยาของแกให้เงียบปากหน่อยก็ดีนะ!”
“ปากดี...อย่าให้ฉันรู้นะว่าแกอยากจะมีจนไปเร่งลูกสาวของมาดามน่ะ” ซานติโน่พูดต่อ
“ฉันกับเธอยังไม่ได้กันโว้ย...ไม่ต้องแส่!” ผมรู้สึกหัวเสีย จึงรีบเดินหนีออกจากบ้านของมันทันที “ไปแล้ว!”
“เออๆ ไว้เจอกัน...555! อย่าลืมชวนลูกสาวมาดามไปเดทล่ะ!”
“....”
ปึก!
เสียงประตูรถหรูถูกปิดดังลั่น เมื่อแอริสเห็นว่าผมกลับขึ้นมาบนรถแล้ว มันก็เอ่ยถามทันทีว่าผมจะกลับบ้านเลยหรือจะไปไหนต่อ
“นายจะกลับเลยไหมครับ?”
“ไปบริษัท” ผมกล่าวตอบต่อลูกน้องของผมเสียงเรียบพร้อมเบือนหน้ามองไปยังนอกหน้าต่าง
“บริษัทไหนล่ะครับนาย นายช่วยบอกให้ชัดทีครับ...บริษัทนายมีเป็นร้อยแห่ง” แอสริสตอบ
“ไปบริษัทเธอ...”
✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️
Talk คามิลล่า
“วันนี้หล่อนจะต้องไปทานข้าวกับคุณเกรเตอร์” ผู้เป็นแม่กล่าวต่อร่างบาง คุณเกรเตอร์ที่ท่านว่าก็คือผู้ชายอายุรุ่นราวคราวพ่อ ที่เราอาจจะต้องแต่งงานกับเขาเพื่อบริษัท
ถ้าหาก...เราไม่ยอมไปเป็นภรรยาน้อยของคุณซานติโน่
“แต่หนูบอกไปแล้วไงคะว่าหนูจะไม่แต่งงานและจะไม่เป็นภรรยาน้อยของใคร”
เพี๊ยะ!
“อ...อึก!” ใบหน้าหวานหันไปตามแรงตบของผู้เป็นแม่ทันทีที่เธอกล่าวปฏิเสธการแต่งงาน
“ฉันสั่งอะไรหล่อนก็ต้องทำ!”
“หนูไม่ได้รักคุณซานติโน่ แล้วหนูก็ไม่ได้พิศวาสอะไรคุณเกรเตอร์ด้วย...มาดามอย่าผลักไสกันเลยนะคะ หนูจะหาทางช่วยบริษัทของเราเอง ในแบบของหนู”
“หล่อนมันไม่ได้เรื่อง! ขนาดแค่ให้ไปคุยกับซานติโน่แค่นี้หล่อนยังทำไม่ได้! น้ำหน้าอย่างหล่อนจะมีปัญญาช่วยอะไรได้ย๊ะ!” มาดามโดโรทีกล่าวพร้อมชี้หน้าเราด้วยความรังเกียจ
ทำเหมือนกับเราไม่ใช่ลูก...
“มาดามไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูทำได้อย่างแน่นอน...แต่ไม่ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น หนูก็ขอยืนกรานว่าจะไม่แต่งงานและจะไม่ยอมไปเป็นภรรยาน้อยของใครเด็ดขาด!” เรายืนกรานเสียงแข็งก่อนที่จะคว้ากระเป๋าและเดินออกมา
“คามิลล่าหล่อนจะไปไหน! ฉันสั่งให้หล่อนไปทานข้าวกับคุณเกรเตอร์หล่อนไม่มีหูหรือยังไง เดี๋ยวนี้หล่อนกล้ามากเหลือเกินนะ!” เสียงของผู้เป็นแม่ด่ากราดตะโกนลั่นออกมา
เราไม่อยากจะต่อว่าอะไรท่านเพราะถึงยังไงท่านก็เป็นแม่ของเรา....หากไม่มีท่านก็คงไม่มีเราในวันนี้
เราก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธคำสั่งของท่านไปได้นานสักแค่ไหน....แต่ไม่ว่ายังไงเราก็จะไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี!
เราจะไม่ยอมเป็นภรรยาน้อยของใคร แล้วก็จะไม่แต่งงานกับคนอายุราวคราวพ่อเพื่อให้บริษัทอยู่รอดเด็ดขาด!
เราจะต้องเข้มแข็ง!!!
“คุณมิลล่าจะออกไปไหนคะ? คือว่ามีคนมาขอพบค่ะ” ซินดี้เลขาของเรากล่าวพร้อมกับเดินตามเรามาติดๆ เมื่อเห็นว่าเราไม่ได้หยุดฟังและกำลังจะออกไปข้างนอก
“บอกให้เขากลับไป....ฉันไม่อยากพบใครทั้งนั้น” มือเล็กเรียวบางปาดน้ำตาลวกๆ และยังคงเดินหนีออกมาไม่แยแสแม้ว่าจะมีลูกค้ามาขอพบก็ตาม
“แต่เขาก็ยืนกรานว่าจะไม่ไปจนกว่าจะได้พบคุณเหมือนกันนะคะ” ซินดี้ก็ยังคงเดินตามต้อยๆ แม้ว่าเราจะปฏิเสธการขอพบครั้งนี้ “แถมท่าทางของเขาก็ดูเอาจริงด้วย...ซินดี้ว่าไปพบเขาก่อนเถอะนะคะ”
“ก็ฉันบอกว่าฉันไม่อยากพบใครไงเล่า! ทำไมถึงได้พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้เนี่ย!” เราหันไปตวาดซินดี้ทั้งน้ำตา “อย่าทำให้ฉันต้องเครียดเพราะเธออีกคนเลย!”
“แต่ว่าเขา....”
“แม้แต่ฉัน...เธอก็ไม่อยากเจอด้วยงั้นเหรอ?”
“เสียงนี้มัน...” เราปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนที่จะหันไปมองยังต้นเสียงนั้น เสียงที่เราคุ้นหูมากที่สุด เสียงของ... “วาเรนติโน่!”
“เห็นเป็นใครอะ...? คิมซอกจินวง BTS เหรอ?”