Episode 03
ผมและเธอเดินเข้ามางานด้วยกันท่ามกลางสายตาของสาวๆ คนอื่นๆ ในงาน
พวกเธอคงจะคิดว่า...พวกมึงสองคนนี่ยังไง?
ให้ช่อดอกไม้กันเมื่อกี้จะล่อกันเลยงั้นเหรอ
อะไรทำนองนั้นมั้ง
“คุณดูเสน่ห์แรงเหมือนกันนะคะ สาวๆ มองกันเยอะเลย” ร่างบางกล่าวถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาก็มีแต่สาวๆ มอง ก็แหง๋สิ
คนมันหล่อจะให้ทำยังไง
“ก็...คนมันหล่อน่ะนะ” ผมไหวไหล่ก่อนที่เธอจะปล่อยแขนออกจากแขนของผม “คนหล่อก็แบบนี้”
“จ้า...พ่อคนหล่อ 555” เธอหัวเราะเล็กน้อย ก่อนที่จะหยิบไวน์ที่วางอยู่บนโต๊ะมาดื่ม
“นี่เธอ...ดื่มไวน์ด้วยเหรอ?” ผมมองเธอด้วยสายตาของความไม่เข้าใจ ไม่รู้สิ! ทั้งชีวิตที่ผมเกิดมา ผมไม่เคยเจอผู้หญิงดื่มไวน์เลย
นอกจากพวก...พวกที่ทำอาชีพแบบนั้นน่ะ
“ใช่ค่ะ...ทำไมเหรอคะ?”
“ฉันไม่เคยเห็นน่ะ ส่วนใหญ่ที่ฉันเห็นผ่านตาก็จะเป็นพวกโสเภณีมากกว่า อ...เอ่อ!” ผมหยุดชะงักเมื่อเผลอพูดประโยคนั้นออกไป
มันไม่ต่างกับการเปรียบเทียบว่าเธอเป็นโสเภณีเลยนี่!
ไอ้เรน...ไอ้โง่เอ๊ย!
“คือ...ฉันไม่ได้!”
“555 ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ คุณคงไม่ได้ตั้งใจจะเปรียบให้ฉันเป็นผู้หญิงอย่างว่าหรอก คุณไม่เคยเห็นนี่นา” แม้ว่าประโยคของผมมันจะดูเป็นการดูถูกเธอ แต่เธอก็ยังยิ้มให้ผมได้อีก
ถ้าไม่บ้าก็คงจะใจกว้างมากแน่ๆ
“ไม่โกรธจริงดิ?”
“ก็คุณไม่ได้ตั้งใจนี่นาจะโกรธทำไมล่ะคะ”
“งั้น...ขอโทษอีกครั้งก็แล้วกันนะ”
“ไม่เป็นอะไรค่ะ” เธอยิ้มก่อนที่จะกระดกไวน์แก้วนั้นลงคอ “คุณไม่ดื่มเหรอคะ?”
“ไม่อะ...ขี้เกียจแดก เอ๊ย! ดื่ม”
“555 คุณนี่ตลกดีเหมือนกันนะคะเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลยนะคะว่าตัวจริงคุณจะเป็นคนแบบนี้ ต่างจากที่คนอื่นๆ เล่าให้ฟังมากเลยล่ะค่ะ”
“พวกมัน...เล่าให้เธอฟังว่าอะไรล่ะ?”
“ก็...ประมาณว่าคุณใจร้าย แล้วก็ไม่มีหัวใจ รักใครไม่เป็น ปากคอเราะราย แถมยังฆ่าคนได้โดยไม่แยแสอะไร ก็ประมาณนี้น่ะค่ะ” เธอตอบ
“ทีเรื่องดีๆ ไม่เคยเอาไปเล่ากัน!”
“สงสัยคุณคงจะไม่มีอะไรดีให้เล่ามั้งคะ”
“......” ผมยืนนิ่งเมื่อเธอดันตอบออกมาแบบนั้น
“555 ขำๆ น่ะค่ะ เห็นคุณหน้าตึงๆ มาตั้งแต่เริ่มงานแล้ว” เธอยกมือขึ้นป้องปากหัวเราะเบาๆ
ผู้หญิงคนนี้...แสบเหมือนกันนะเนี่ย
ผมกับเธอคุยเล่นกันอยู่พักใหญ่ จนได้รู้ว่าเธอคือลูกสาวของมาดามโดโรที อย่างที่ไอ้ซานติโน่ได้เล่าให้ผมฟังในตอนแรก
เธอเล่าว่านอกจากที่ซานติโน่จะซื้อหุ้นบริษัทของมาดามมาแล้ว มันก็ยังร่วมลงทุนเป็นสปอร์นเซอร์ให้กับงานเดินแบบในครั้งหน้าของมาดามอีกด้วย
ซึ่ง...งานที่ว่ามันจะเกิดขึ้นในหนึ่งเดือนข้างหน้า
เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของมาดาม เธอมางานนี้เพื่อเป็นตัวแทนของมาดาม เนื่องจากมาดามท่านอายุก็มากแล้ว แถมยังมีอาการป่วยเข้ามาแทรกอีก
ด้วยความสัมพันธ์ทางธุรกิจมาดามจึงส่งลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอมางานแต่งงานนี้ เพื่อมาเป็นตัวแทน รักษาความสัมพันธ์ของตระกูลเธอและซานติโน่
อ่า...หวังว่ามาดามจะไม่วางแผนให้ลูกสาวตัวเองมาเป็นเมียน้อยซานติโน่นะ
“ฉันต้องไปแล้ว วันนี้คุยสนุกมาก ขอบคุณนะคะที่นอกจากจะให้ช่อดอกไม้กับฉันแล้วยังเป็นเพื่อนคุยให้ฉันด้วย เป็นเกียรติมากค่ะ” เธอกล่าวพร้อมยื่นมือมาเพื่อที่จะจับมือเป็นการบอกลา
“ฉันก็...คุยไปตามมารยาทก็เท่านั้นแหละ คนไม่มีใครเอาอะนะ” ผมยื่นมือไปจับบอกลาเธอ แต่ทว่า...ไอ้บ้าเอ๊ย....ผมดันปากหมาใส่เธอออกไปอีกแล้ว ผมกำลังจะพูดว่า ยินดีที่ได้เจอเธอเหมือนกัน เธอก็คุยสนุกเหมือนกัน
ผมต้องรีบแก้ตัวแล้ว!
“เอ่อ...คือฉันแค่จะบอกว่า! ยินดีที่ได้เจอเธอเหมือนกันนะ! ฉัน...ฉันก็รู้สึกว่าเธอก็คุยสนุกเหมือนกัน” ผมรีบแก้ประโยคก่อนที่เธอจะตีโพยตีพายไปเอง “โทษที...ฉันคุ้นชินกับการคุยกับชายฉกรรจ์มากกว่าผู้หญิงน่ะ”
“555 ฉันเข้าใจค่ะ มาเฟียที่มีบอดี้การ์ดติดตามมากมายก็แบบนี้ จะให้มาคุยน้ำเสียงอ่อนหวานแบบสาวๆ ก็คงจะไม่มีใครเกรงกลัว” เธอยังคงยิ้มได้ให้ผมเสมอ วันนี้ทั้งวันผมรู้สึกเมา
ไม่ได้เมาไวน์หรืออาหารในงานแต่งหรอกนะ
ผมเมานม...เอ๊ย!
ผมเมารอยยิ้มของเธอต่างหากล่ะ
“ฉันมีธุระต่อ ต้องรีบไปแล้วล่ะค่ะ ไว้โอกาสหน้าเจอกันนะคะ” เธอโบกมือลาก่อนที่จะเดินกลับรถของเธอไป
ร่างสูงยิ้มให้กับแผ่นหลังของร่างบางที่กำลังเดินจากไป ไกลออกไป แสนไกล แสนไกล
จน....เหมือนกับว่าผมจะนึกขึ้นได้ว่าผมลืมอะไรไปบางอย่าง
จนเมื่อเธอเดินไปถึงรถของเธอ ก่อนที่เธอจะปิดประตูรถ เธอก็ได้ยิ้มให้ผมอีกครั้ง ผมไม่ได้ยิ้มตอบอะไร เพียงแต่ไหวไหล่ใส่กลับรับรอยยิ้มรอยเธอ
บรื้น! ~
รถหรูของร่างบางถูกขับออกไปจากงานแต่ง ผมยืนนิ่ง ก่อนที่จะโบกมือลาเธอเมื่อรถของเธอขับออกไป แต่ผมก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม
ผมยังคงรู้สึกว่าผมลืมอะไรไปบางอย่าง
แต่ผมก็ยังนึกไม่ออกว่าลืมอะไร
“แฮ่ม! ดูเหมือนว่า...เพื่อนของเรากำลังจะมีความรักนะ” เสียงกวนประสาทแบบนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเสียงของมาตินเพื่อนของผมเอง ถ้าถามว่าผมปากหมาใส่ใครได้เปลืองที่สุด
ก็มันเนี่ยแหละ!!!
“ตกหลุมรักลูกสาวมาดามโดโรทีเข้าแล้วล่ะสิ” เลอัลโด้กล่าวต่อ ฉันเห็นแกกับเธอยืนคุยกันตั้งนานสองนาน ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง ได้ขอเบอร์เธอมาหรือยัง?”
“ฉันไม่ใช่พวกแกนะที่จะเที่ยวขอเบอร์ใครไปทั่วน่ะ” ผมตอบพร้อมกลอกตามองบนใส่พวกมัน เหอะ! จะให้ผมไปขอเบอร์ใครเนี่ยนะ ตลก!
ขนาดเบอร์ของพวกมันผมยังไม่เมมเก็บไว้เลย
“มาดามโดโรทีเธอเป็นใครเหรอคะ?” ตาหวานเจ้าสาวของซานติโน่กล่าวถาม เพราะเธอนั้นไม่รู้จักมาดามโดโรที
“มาดามโดโรทีเธอเป็นนางแบบน่ะ แต่ตอนนี้อายุของเธอมากแล้ว เธอเลยเปิดบริษัทแบรนด์เสื้อผ้า กระเป๋า แล้วก็โรงเรียนสอนเดินแบบอะไรพวกนี้แทนน่ะ แล้วในบางครั้งก็ได้เป็นผู้จัดรายการทีวีด้วย” อันนาภรรยาของเลอัลโด้กล่าวตอบ
“หืม...แบบนี้นี่เอง ถึงว่าเธอถึงได้ดูสูงแล้วก็หุ่นดีเหมือนกับนางแบบ ว่าแต่ว่าเธอชื่ออะไรเหรอคะ?” ตาหวานพูดต่อ ซึ่งประโยคของยังนั่นทำให้ผมชะงักไป
เพราะผมเพิ่งจะนึกออกว่าผมลืมอะไร
“ฉิบหาย...คุยมาตั้งนาน กูยังไม่ได้ถามชื่อเธอเลย!!”