Episode 13
“เดินไป! เร็วๆ” ร่างบางถูกบอดี้การ์ดร่างยักษ์บึกบึนกล่าวไล่ ในมือของเราถือแส้เอาไว้ฟาด “เดินไป!”
“อึก...” เราถูกมัดมือมัดปากไว้ไม่ให้พูด พวกมันพาเรามาที่เรือสำราญแห่งหนึ่ง ภายนอกมันก็เป็นเรือสำราญที่แสนจะหรูหรา ใครๆ ก็อยากจะขึ้น
แต่ภายในนั้นมันเน่าเฟะ!
นอกจากเราแล้วก็ยังมีหญิงสาวอีกหลายคนถูกจับมาทีนี้เหมือนกัน พวกมันคุยกันเป็นภาษาอิตาลี ซึ่งเราฟังไม่ออกเลยสักนิดเดียว!
โทษที...แต่พื้นฐานการศึกษาไทยเหมือนว่าจะมีสอนอยู่ที่ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น จีน อังกฤษนะ ไม่รู้ว่านอกเหนือจากนี้จะมีโรงเรียนอื่นสอนอีกไหม
แต่เราก็ได้แค่อังกฤษอย่างเดียวเนี่ยแหละค่ะ นอกนั้นเราฟังไม่รู้เรื่องเลย!
“อ่อยอะ! อ่อย!” (ปล่อยนะ ปล่อย)
“เงียบปากไปเลย! ถ้าไม่อยากถูกจับโยนลงทะเล!” บอดี้การ์ดผู้หนึ่งกล่าว ดูเหมือนว่าพวกของวาเรนติโน่จะสามารถพูดได้ทั้งไทยและอิตาลี
ต่างจากคุณซานโดยสิ้นเชิง!
หรือไม่...สามต่อหนึ่งที่ว่าก็คงจะเป็นพวกที่ร่วมมือกันกับเขาเพื่อกำจัดคุณซาน
ตั้งแต่ที่ได้อยู่ด้วยกันมา และตั้งแต่ที่คุณซานได้เล่าอะไรหลายๆ อย่างให้เราฟัง เราก็จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย เหมือนว่าเขาอยากจะฆ่าคุณซานเฉยๆ ไม่ได้มีสาเหตุอะไรเลย
แก้แค้น ยึดอำนาจ ก็ไม่ใช่เลยสักสาเหตุ...ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงได้จ้องแต่จะฆ่าคุณซานก็ไม่รู้ ที่สำคัญวาเรนติโน่หาพรรคพวกเข้าร่วมกับเขาเพื่อฆ่าคุณซานเพียงคนเดียวเนี่ย....
คุณซานต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ
เราถูกจับมาขังกับผู้หญิงคนอื่นๆ ในห้องห้องหนึ่งที่ขนาดใหญ่มากพอจะบรรจุหญิงสาวได้เป็นสามสิบห้าสิบคน
เมื่อการขนย้ายเสร็จสิ้น วาเราติโน่ก็มาเชยชมผลงานของตัวเองก่อนที่เรือจะออก
“หึ...พวกผู้หญิงน่าโง่” วาเลนติโน่กล่าวพร้อมยิ้มมุมปาก “ถ้าพวกมันคนใดคนหนึ่งเอ่ยคิดหนีล่ะก็...จัดการอย่างที่พวกแกเคยทำได้เลย!”
“คนับนาย” บอดี้การ์ดของเขากล่าวตอบผู้เป็นนาย ร่างบางจ้องหน้าวาเราตอโน่หน้าเขม็ง ถ้ากระโดดไปงับหูเขาได้เราก็จะทำ!
“ส่วน...สาวน้อยคนนี้ ดูแลเธอให้ดี เธออาจจะกำลังมีแผนในหัวที่คิดจะหนีฉัน แต่ก็อย่าทำร้ายเธอ ถ้าเธอหนีไปได้ก็แค่ตามกลับมา อย่าถึงขั้นลงไม้ลงมือ เธอฉันคิดว่า....ฉันอยากจะเชยชมเธอในตอนนี้ ตอนที่เธอยังไม่ทันจะได้ผ่านมือชาย”
“ไอ้เอว! อ่อย!” (ไอ้เลว ปล่อย)
“ถถถ...แต่ไม่แน่นะ สวยเสียขนาดนี้ คงเสร็จซานติโน่มันไปแล้วมั้งเนี่ย!”
“อื้อ! อ่อย!” (ปล่อย)
“ขี้โวยวายจริงๆ น่ารำคาญชะมัด!” วาเรนติโน่ส่ายหัวเบาๆ ก่อนที่จะเดินจากไป
“แออันอั่ว ไอ้เอว อ่อย!” (แกมันชั่ว ไอ้เลว ปล่อย)
วาเรนติโน่และบอดี้การ์ดของเขาเมินเฉยใส่เสียงร้องของเรา ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องกว้างนี้ไป พวกมันต้องเป็นคนยังไงกัน...ถึงได้จับผู้หญิงไปขายได้อย่างโหดเหี้ยมแบบนี้
คนแบบนี้...มันต้องไม่ตายดี!
เมื่อไม่มีใครอยู่แล้ว เราก็ค่อยๆ พยายามแกะเชือกที่มัดมือของเราออก ในระหว่างนั้นด้วยกันก็พยายามใช้ฝ่าเท้าทั้งสองข้างหนีบดึงเอาเชือกที่ปากออก
“อึบ อื้อ!!!” เราขบกรามแน่นเพื่อดึงเชือก เราใช้เวลาอยู่ ณ ตรงนั้นอยู่นานจนสุดท้ายก็สามารถแกะออกได้ทั้งหมด “เธอ! เธอได้ยินเราไหม เธอ!”
“.....”
“เธอคนนี้ก็ได้ หนีไปด้วยกันกับเราไหม ตอนนี้เรือน่าจะออกจากท่าได้ไม่ไกลเท่าไหร่ พวกเราน่าจะยังมีโอกาสรอดอยู่ เธอยังมีสติดีอยู่ไหม ฟังเราก่อน”
ไม่ว่าเราจะพยายามเรียกใครก็ตามก็ไม่มีใครส่งเสียงตอบรับเรากลับมาเลย ทุกคนต่างพากันอนแน่นิ่ง เหมือนหงอยซึมๆ เสียใจที่ถูกเจ้านายทิ้ง
“เธอ...เดี๋ยวเราจะแก้มัดให้เธอนะ แล้วเราจะหนีไปด้วยกัน” ร่างบางหันไปพูดกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ดูจากหน้าตาอายุก็น่าจะไล่เลี่ยเราไม่เท่าไหร่ “เธอตอบเราสิได้ยินเราไหม”
“อือ...” ผู้หญิงคนนั้นครางรับเราเบาๆ แต่เราไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเธอมากนักเมื่อแก้มัดเสร็จก็รีบดึงมือเธอหวังจะหนีออกไปพร้อมกัน แต่ก้าวขาเดินออกมาไม่กี่ก้าวเธอก็ล้มลงหมดสติลงไป
“เธอ! เธออย่านอนนิ่งแบบนี้สิ ตอบเราก่อน เธอ!” มือบางเขย่าร่างกายของผู้หญิงคนนั้นรัวๆ แต่ก็ไม่ได้ผล พวกผู้หญิงที่ถูกจับมากับเราต่างพากันนอนแน่นิ่ง
พวกเขาเป็นอะไรกันไปหมด
เราว่าเราสติไม่ดีแถมยังบ๊องๆ แล้วนะ แต่กลับกลายเป็นว่าเรากลายเป็นคนที่ปกติและมีสติดีที่สุดในสถานการณ์ตอนนี้ซะงั้น
เราพยายามที่จะช่วยแล้วนะ แต่ทุกคนก็เหมือนผีตายซาก เหมือนคนที่ไม่มีแรง เหมือนแรงที่มีอยู่ในเวลานี้เป็นแรงเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่ในชีวิต!
เมื่อไม่สามารถช่วยใครได้ เราจึงตัดสินใจเดินหนีออกมาจากห้องนั้นด้วยตัวเอง มันก็แอบแปลกๆ อยู่เหมือนกันนะคะเพราะที่หน้าห้องที่ใช้ขังพวกสาวๆ
ไม่มีบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่เลยสักคน
“แปลก...แต่ก็ช่างมันเถอะ! รีบไปต่อกันดีกว่า” เรามองซ้ายมองขวาอีกครั้ง เมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครแล้วเรารีบจึงเดินออกมาจากห้องนั้นทันที! “พี่ตะวัน...ช่วยภาวนาให้น้องสาวคนนี้รอดพ้นจากภัยอันตรายใดๆ สักทีเถอะนะคะ! สาธุ!”
“สาธุงั้นเหรอ?”
“อ...เอ่อ” มือบางลดมือที่ยกมือไหว้ต่ำลงเพื่อที่จะได้เห็นหน้าต้นสายปลายเอกของเสียงนั้น “อึก!”
“เธอหนีไม่รอดหรอกสาวน้อย หึหึ!”
“อึก...กรี๊ดดด!” ร่างบางกรีดร้องออกมาในลำคอพร้อมกับพยายามทุบตีบอดี้การ์ดยักษ์ใหญ่คนนั้น แต่แรงของเขามันก็มีมหาศาลจริงๆ
เราพยายามดิ้นหนีแต่ก็ดิ้นไม่หลุด จนกระทั่งสายตาต้องเบิกกว้างทันทีที่ได้เห็นเข็มฉีดยาขนาดหนึ่งที่ชายบอดี้การ์ดคนนั้นหยิบออกมา เมื่อเห็นมันก็ยิ่งอยากจะหนีแต่ก็หนีไม่ได้ดิ้นไม่หลุดจนกระทั่งเราไม่สามารถขัดขืนอะไรได้ ถูกบอดี้การ์ดผู้นั้นแทงเข็มมาที่ต้นคอของเราอย่างจัง!
“อึก....ฮึก!” ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นหลังจากเหตุการณ์ต่อจากนั้น แล้วก็ไม่รู้ด้วยความตื่นขึ้นมาชีวิตของเรามันจะเป็นยังไง
จะสวรรค์หรือตกนรกก็ต้องลุ้นกันอีกที แต่อย่างน้อยเราขอตายอย่างมีศักดิ์ศรีดีกว่า!!!
“ฮึก....อื้อ~” ร่างบางค่อยๆ อ่อนแรงลง ก่อนที่จะสลบลงไปที่พื้นต่อหน้าต่อตาบอดี้การ์ดผู้นั้น ตื่นขึ้นมาเราจะยังบริสุทธิ์อยู่ไหมนะ...
หรือจะถูกจับนอนอ้าขารอให้แขกมาใช้บริการ
ถ้าเลือกได้...ขอให้เราได้พบกับเขา
...คุณซานติโน่...