หลังจากเหตุการณ์ที่ตุนท์พาดาวเต็มฟ้ากลับไปหาร่องรอยของเติมตะวันทำให้เธอคิดว่าสุดท้ายแล้วยังไงเขาก็คงต้องการแค่ได้เงินคืนเท่านั้น ต่อให้เธอจะพยายามทำดีอย่างไรก็คงทำได้แค่ให้เขาตายใจว่าเธอไม่มีปัญญาหนี แต่มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกใจอ่อนลงเลย สู้กับคนไร้หัวใจอย่างไรก็เหนื่อยเปล่า พี่ชายเธอก็คงจะไม่รอดอยู่ดี
เมื่อได้กลับไปทำงานที่คาสิโน ดาวเต็มฟ้าจึงพยายามเลียบเคียงถามสาวเชียร์เบียร์คนที่พูดถึงนายพงษ์ชาติ
"ขอโทษนะจ๊ะ เราชื่อเต็มฟ้า เรามาทำงานที่นี่ได้ไม่นานเท่าไรเราอยากรบกวนถามอะไรเธอหน่อยได้หรือเปล่า" ดาวเต็มฟ้าเริ่มเปิดบทสนทนา
"อ๋อ เราชื่อนิดนะ มีอะไรถามหรือ" สาวเชียร์เบียร์ที่อยู่มาก่อนตอบเธอด้วยอัธยาศัยที่ดี
"ถ้าเราสนใจอยากไปกับแขก เธอพอจะมีแนะนำไหม" ดาวเต็มฟ้าถามตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม
"แน่ใจหรือว่าอยากจะไป ปกติจะมีคนดูแลหัวคิวอยู่ชื่อเจ๊นางวันนี้น่าจะเข้ามาที่นี่ลองคุยดูก็ได้" นิดท้วงติงเล็กน้อยแต่ก็บอกเธอ
"แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าคนไหนคือเจ๊นาง"
"ถ้าจะคุยจริงๆเราจะมาเรียก" นิดทิ้งท้ายก่อนไปทำงานต่อ
เวลาประมาณสามทุ่มเศษผู้หญิงอายุราว 40 ปีแต่ยังคงดุสวยเฉียบเดินเข้ายังคาสิโนและเมื่อนิดเห็นเธอก็เข้าไปกระซิปที่ข้างหูเธอบอกให้รู้ว่ามีเด็กอยากได้งาน
"เจ๊นางคะมีเด็กใหม่อยากได้งานค่ะ อยู่ตรงโน้น" นิดบอกกล่าว
"หรือไหนเอามาดูตัวซิ" ผู้หญิงที่ชื่อนางออกอาการสนใจอยู่ยิ่งขึ้นชื่อว่าเด็กใหม่ นางไม่ใช่คนของคาสิโนแต่เธอมักจะมามองหาเด็กสาวร้อนเงินที่ทำงานเสิร์ฟเครื่องดื่มที่นี่ไปส่งให้กับลูกค้าเงินหนา ที่เธอเลือกที่นี่เพราะว่าเธอเองก็เป็นนักเล่นในบางครั้งและสังเกตุว่าสาวๆที่นี่สวยไม่น้อยและมักจะต้องการเงิน
"เต็มฟ้า เจ๊นางมาแล้วไปคุยไหม" นิดเดินมาเรียกเธอ
"ไปสิ" ดาวเต็มฟ้าเดินตามนิดไป
"สวัสดีค่ะ" ดาวเต็มฟ้ายกมือไหว้ผู้หญิงที่ใครๆก็เรียกว่าเจ๊นาง
"สวัสดีจ้ะ เห็นว่าสนใจอยากจะได้งาน เพิ่งมาทำงานที่นี่หรือ" นางพูดกับเธอด้วยความเอ็นดูและ เมื่อเธอไล่สายตาดูทรวดทรงองค์เอวของดาวเต็มฟ้าก็ดูจะเป็นสินค้าที่ทำเงินให้เธอไม่น้อย
"ใช่ค่ะเพิ่งมาทำไม่นาน"
"จุ๊ๆๆ อย่างหนูนี่เหมาะกับแขกวีไอพีเลยนะ" นางทำเสียงจุ๊ปากแบบทึ่งในรูปร่างผิวพรรณเธอ
"หนูจะได้เงินเท่าไรคะ" ดาวเต็มฟ้าบอกจุดประสงค์
"หึๆๆใจเย็นๆใจร้อนจริงหนูอยากได้เท่าไรล่ะ" นางเล่นลิ้น
"ต้องทำยังไงหนุถึงจะได้เงินหลักล้าน" ดาวเต็มฟ้าพูดประสาซื่อ
"หลักล้านเลยหรือพูดจริงพูดเล่นเนี่ยหนู"นางหัวเราะอีก
"หนูพุดจริงๆนะคะไม่ได้พูดเล่น" ดาวเต็มฟ้าน้ำเสียงจริงจังขึ้น
"ถ้าเธอแน่ใจฉันก็พอจะมีคนที่สามารถให้เธอได้ แต่บอกก่อนนะว่าตกลงแล้วเปลี่ยนใจเหมือนเด็กเล่นขายของไม่ได้ แล้วเธอรู้หรือเปล่าว่าคำว่าไปทำงานกับแขกคืออะไร" นางปรายหางตาที่กรีดอายไลน์เนอร์เฉี่ยวไปที่เธอเป็นการบ่งบอกว่ามันคือชีวิตจริงที่ล้อเล่นไม่ได้
"แล้วหนูต้องทำอะไรบ้าง"ดาวเต็มฟ้าถามพาซื่อแต่ดูเป็นที่ขบขัน
"ฉันว่าแล้ว ดูท่าทางยังไม่ประสีประสาด้วยซ้ำว่าต้องทำอะไร เอาเป็นว่า บีบๆนวดๆดูแลเอา...อกเอา...ใจ ให้ถูกใจ เขาอยากทำอะไรต้องตามใจน่ะเข้าใจหรือเปล่า" นางพูดเล่นลิ้นให้คิดเอาเอง
"เอาเป็นว่าฉันให้เวลาหนูไปคิดสักสามวันแล้วกลับมาคุยกับฉันใหม่ ฉันพอจะมีคนที่ให้เงินล้านหนูได้" นางทิ้งท้ายแล้วเดินไปเล่นตามโต๊ะต่อ
"เชื่อเจ๊นางเถอะลูกค้าที่จะให้เงินเธอได้ขนาดนั้นความต้องการมันไม่ธรรมดา" นิดเดินมาตบไหล่เธอเบาถือว่าเตือนด้วยความหวังดีอย่างน้อยเธอก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไรมากกว่า
ดาวเต็มฟ้ายืนนิ่งอยู่อย่างนั้นหันกลับไปมองนางที่เป็นความหวังของเธอ
"มันมีคนให้เงินเราได้จริงๆด้วย"
...........................................
เมื่อดาวเต็มฟ้ากลับมาที่บ้านของตุนท์ เธอเข้าห้องนอนด้วยความเหม่อลอย เพราะในใจเฝ้าทบทวนถามตัวเองถึงสิ่งที่นางพูดให้เธอเอากลับมาคิด
ดาวเต็มฟ้านั่งลงบนที่นอนและค่อยๆเอนกายลงเอาหัวแนบลงกับหมอนว่ามันดูยุ่งยากขนาดนั้นเลยหรือทำไมนางถึงพูดเหมือนมีลับลมคมนัย
"ไดอารี่"ขณะที่เธอเอนกายลงนอนมือเธอสอดใต้หมอนไปโดนเข้ากับสมุดไดอารี่ของเติมตะวันที่เธอแอบหยิบมาตอนที่ตุนท์พาเธอกลับไปที่บ้าน เธอซ่อนมันไว้ใต้หมอนจนลืมไปเสียสนิท
เธอลุกขึ้นมานั่งอีกครั้งด้วยท่าเอาหมอนพิงหลังและไล่เปิดอ่านไดอารี่ทีละหน้า
"เต็มฟ้าน้องสาวของพี่ อีกไม่นานเท่าไรน้องสาวของพี่ก็ใกล้จะเรียนจบแล้ว พี่หวังว่าพี่จะสามารถส่งน้องสาวของพี่ให้ถึงฝั่งได้อย่างราบรื่น ภาระที่พี่มีตอนนี้มันคือบ้านที่พี่ต้องหาเงินมาผ่อนต่อเพื่อเก็บรักษาสมบัติชิ้นเดียวที่เราสองคนพี่น้องได้รับมาจากพ่อกับแม่พี่จะรักษามันเอาไว้ให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามและเช่นเดียวกันพี่จะต้องส่งเต็มฟ้าให้เรียนให้จบให้ได้เช่นเดียวกัน" ดาวเต็มฟ้าน้ำตาเอ่อคลอเมื่ออ่านไดอารี่ได้เพียงแค่หน้าแรกเท่านั้น
"เต็มฟ้าหากวันหนึ่งน้องรู้ว่าพี่ทำสิ่งที่ผิดพลาดไปน้องจะให้อภัยพี่ได้หรือเปล่านะ ครั้งแรกมันคือความจำเป็นส่วนครั้งที่สองมันคือความจำเป็นยิ่งกว่า เพราะในชีวิตพี่ไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่าดาวเต็มฟ้าของพี่อีกแล้ว ถึงจะต้องแลกด้วยอนาคตทั้งหมดที่พี่มีหรือว่าชีวิตของพี่เองก็ตาม"
"ดาวเต็มฟ้าคือน้องสาวที่พี่รักมากที่สุด" ข้อความทิ้งท้ายของไดอารี่หน้านั้น
"พี่ตะวันทำอะไรมานะ" ดาวเต็มฟ้าเริ่มอยากรู้มากขึ้นหลังจากที่อ่านบันทึกจบในหน้าถัดไป
"ก๊อกๆๆ" เสียงคนมาเคาะประตูหน้าห้องเธอ ดาวเต็มฟ้าจึงรีบเอาไดอารี่เก็บซุกซ่อนไว้ใต้หมอนเช่นเดิมและไปเปิดประตู
"อ้าวพี่ปิ่นมีอะไรหรือเปล่า" เมื่อเปิดประตูออกมาก็พบว่าเป็นปิ่นสาวใช้ในบ้านตุนท์นั่นเอง
"ขอโทษทีค่ะ พอดีพัดลมที่ห้องเสียน่ะ พี่ขอมานอนในห้องด้วยวันนึงได้ไหมคะ พรุ่งนี้ถึงจะให้พี่คนขับรถช่วยซ่อมให้" ปิ่นสาวใช้งัวเงียมาเคาะห้องกลางดึก
"อ๋อนึกว่าอะไร มาสิเข้ามาเลย" ดาวเต็มฟ้าจึงต้องยุติการอ่านไดอารี่แต่เพียงเท่านั้น
"รบกวนหน่อยนะคะ" ปิ่นหาวเอามือปิดปากเดินเข้าประตูห้องมา
"ทำไมต้องมาตอนนี้ด้วยนะ พี่ปิ่น เฮ้อ!" ดาวเต็มฟ้าคิดในใจถึงเธอจะมีความสนิทสนมกับปิ่นแต่อย่างไรเสียปิ่นก็คือคนของตุนท์อยู่ดี เธอจึงไม่กล้าจะอ่านมันต่อ
แต่ใช่ว่าเธอจะนอนหลับเฝ้าคิดถึงแต่สิ่งที่พี่ชายได้บันทึกเอาไว้ว่าหน้าต่อไปพี่ชายเธอบอกอะไรไว้บ้าง
..............................................