เหมือนจะผ่อนคลายแต่ไม่เลย

1467 คำ
หลังจากที่ตุนท์บุกไปตามล่าตัวเติมตะวันกับกรที่บ้านแต่เมื่อไม่เจอใครเขาก็ได้นำตัวของดาวเต็มฟ้ามาแทนเพื่อทดแทนไม่ให้ไปแล้วเสียเที่ยวคว้าน้ำเหลว คมสันและลูกน้องพากันเอามือปิดปากและเดินประกบพาตัวดาวเต็มฟ้า ออกมาจากบ้านและพาขึ้นรถกลับไปโดยใช้ผ้าปิดตาและปากของเธอเอาไว้ด้วย "จะพาผู้หญิงคนนี้ไปไว้ที่ไหนคับนาย" คมสันหันไปถามตุนท์ "เอาไปไว้บ้านพักส่วนตัวฉันที่ใกล้กับคาสิโนก่อน ไม่ต้องเอาไปที่บ้านใหญ่ แล้วก็ไม่ต้องเสนอหน้าไปบอกเรื่องนี้กับพ่อฉันนะ ฉันอยากจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง" ตุนท์สั่งกับคมสัน "อือออ อือ" เสียงดาวเต็มฟ้าพยายามจะพูดแต่ติดที่ถูกผ้ามัดปิดปากเอาไว้ "อยู่เงียบดีกว่าเธอน่ะ" ตุนท์เอี้ยวตัวหันไปบอกเธอด้วยสายตาเฉยชา "อือออ อือ" เธอยังดื้อที่จะพยายามต่อ "ถ้าเธอยังไม่หยุด ฉันจะหยุดเธอเอง" ตุนท์ขู่แต่ไม่ได้บ่งบอกว่าจะหยุดเธอด้วยวิธีการใด แค่เพียงเท่านี้เขาก็ดูน่ากลัวในสายตาเธอแล้ว ถึงตอนนี้เธออยากจะร้องไห้ออกมาแต่มันร้องไม่ออกไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรและกังวลว่าตัวเองจะปลอดภัยไหม ใจมันตื่นกลัวไปหมดสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอ ............................................. เมื่อรถเลี้ยวเข้าตัวบ้านคมสันก็พาดาวเต็มฟ้าเข้าบ้านไปโดยมีตุนท์ตามเข้าไป ในบ้านจะมีแม่บ้านคอยดูแลบ้านและคนสวน ดูจะเหมือนบ้านของมหาเศรษฐีทั่วไปแต่ผิดแผกแค่มีคนใส่ชุดซาฟารีสีดำคล้ายเป็นบอดี้การ์ดคอยยืนเฝ้าที่หน้าบ้านและตามจุดต่างๆ เธอถูกผลักลงโซฟาล้มลงจนผมเผ้าบังปรกหน้า คมสันเดินเข้ามาเพื่อแก้มัดผ้าที่ปิดปากและตาเธอออก พอเธอลุกขึ้นตั้งหลักได้ก็ทำท่าจะวิ่งหนีออกไปแต่ร่างเธอก็ต้องเด้งกลับถอยหลังมาคล้ายถูกดึงรั้งเอาไว้จนล้มลงไปกองที่พื้น "ถ้าเธอคิดหนีฉันบอกเลยเธอจะไม่มีลมหายใจ เห็นไหม ลูกน้องฉันอยู่เต็มบ้านไปหมด คิดหรือว่าจะรอด" ตุนท์ย่อตัวลงชันเข่าหนึ่งข้างก้มลงพูดกับเธอ เมื่อได้ยินประโยคขู่ถึงชีวิตแบบนี้ดาวเต็มฟ้าได้แต่มองหน้าหน้าเขา ตัวสั่นเป็นลูกนกตกน้ำ จำยอมต้องลุกขึ้นช้าๆแต่โดยดี "ปิ่น เดี๋ยวพาไปหาห้องพักด้วย" ตุนท์สั่งแม่บ้านแล้วก็เดินขึ้นไปที่ชั้นสองของตัวบ้าน เธอได้แต่อยู่ในห้อง โดยมีแม่บ้านคอยเอาน้ำเอาอาหารมาให้ไม่ได้ออกไปไหน "นี่เสื้อผ้า เอาไปใส่ก่อน" ตุนท์เอาเสื้อผ้าจำนวนมากมากองไว้ให้เธอ มันเป็นเสื้อผ้าของแฟนเก่าที่เลิกกันไปนานแล้วของเขาเอง ดาวเต็มฟ้าที่นั่งกอดเข่าร้องไห้เงยหน้ามองตุนท์ทั้งคราบน้ำตาแต่ไม่พูดอะไร "กินข้าวซะ อดข้าวไม่ได้ช่วยอะไร " เขาพูดเมื่อเหลือบมองเห็นถาดอาหารที่ไม่พร่องลงไปเลย "ปัง!"พูดเสร็จเขาก็เอื้อมมือไปคว้าลูกบิดปิดประตูใส่เสียงดัง "หรือเราควรจะกินจะได้มีแรงหนี" ดาวเต็มฟ้ามองไปที่ถาดอาหาร "พี่ตะวัน พี่อยู่ที่ไหนนะตอนนี้"ดาวเต็มฟ้าทั้งกลัวและคิดถึงพี่ชาย ................................................. ดาวเต็มฟ้าเริ่มกินอาหารที่แม่บ้านเอามาให้บ้างเพราะอยากเก็บแรงเอาไว้หนี เธอเริ่มคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาในใจ กะว่าเธอจะลองไหลไปตามน้ำหากตุนท์สั่งอะไรเธอจะแกล้งสมยอมไปให้เขาตายใจ หลังจากทานอาหารเรียบร้อยเธอก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เสื้อผ้าของแฟนเก่าเขาเธอใส่ได้พอดี เพราะสัดส่วนผอมบางพอกัน ตุนท์แวะเข้ามาดูเธอเป็นระยะ และสังเกตุว่าท่าทีจองเธออ่อนลงไม่พยศเหมือนวันแรก "ถ้าเธออยากออกมาข้างนอกห้องบ้างก็ได้นะ" เขาเริ่มให้เธออกมาหายใจบ้างด้วยลูกน้องเต็มบ้านไปทั่วบริดวณเขามั่นใจว่าเธอหนีไปไหนไม่รอด ดาวเต็มฟ้ายิ้มดีใจที่จะได้ออกไปจากห้องสี่เหลี่ยมนี้บ้าง "แต่ไม่ต้องคิดหนีล่ะ ฉันสั่งลูกน้องฉันไว้ว่าถ้าหนีก็จัดการซะ" เขาก้มหน้ามาที่ใบหน้าที่หมดจดจองเธอและขู่ให้กลัว ดาวเต็มฟ้าไม่พูดโต้ตอบแต่ใช้แววตาใสจองเธอมองเขากลับ จนตุนท์เองต้องเป็นฝ่ายหันหน้าหนีสายตานั่นเสียเองเหมือนกลัวว่าใจจะสั่นไหว เขาบอกเธอเพียงเท่านั้น ส่วนตัวเองก็นั่งรถออกไปนอกบ้านพร้อมลูกน้องผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง ดาวเต็มฟ้าเดินสำรวจไปรอบบ้าน "บ้านนี้ก็สวยร่มรื่นดีนะ แต่ทำไมเจ้าของบ้านถึงดูใจร้ายนัก" เธอคิดเมื่อเดินออกมาพบบรรยากาศสวนดอกไม้ที่ดูแล้วเจ้าของบ้านน่าจะอ่อนโยนได้มากกว่าที่เธอเห็น เธอถือวิสาสะเด็ดดอกกุหลาบที่ออกดอกบานสะพรั่งเต็มสวนติดมือมาสองสามดอกอย่างลืมตัวเพราะมัวแต่เพลิดเพลินกับความสวยงามของเหล่าบุปผชาติจนลืมไปเสียสนิทว่าเธออยู่ที่นี่ในฐานะเชลยหรือตัวประกัน เมื่อเดินเข้าบ้านเธอนำดอกไม้ที่เด็ดมาดอมดมและนำไปปักที่แจกันบนโต๊ะอาหาร และเหลือบสายตาไปเห็นว่ามีชั้นหนังสืออยู่ทางด้านขวาของมุมห้อง เธอเดินตรงดิ่งไปที่นั่นทันที พร้อมทั้งเปิดหนังสือแต่ละเล่มอ่านด้วยความสนใจ "โห หนังสือดีๆ ทั้งนั้นเลย" เธอหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาเธอสนใจที่จะเปิดอ่านเพราะว่ามันมีข้อความที่เขียนด้วยลายมือที่หน้าว่างด้านในก่อนที่จะเข้าถึงตัวบทของหนังสือ "เล่มนี้สำหรับหนอนหนังสือที่รัก" ดูจากลายเส้นตัวหนังสือที่ตัวเล็กแต่หัวกลมโตชัดเจนเหมือนลายมือตามสมัยนิยมซึ่งน่าจะเป็นลายมือของผู้หญิง ดาวเต็มฟ้าจึงเปิดอ่านอย่างสนใจ ด้วยความเพลินใจในการอ่านหนังสือทำให้เธอลืมความกลัวของสถาณการณ์รอบตัวของเธอไปได้ชั่วขณะ เธอนั่งลงตรงหน้าตู้หนังสือและอ่านมันอยู่แบบนั้น จนเธอเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว กระทั่งตุนท์กลับมาที่บ้านและพบว่าเธอนั่งหลับฟุบไปที่บันไดขนาดสองขั้นที่มีไว้เพื่อปีนหยิบหนังสือบนชั้นสูง เขาเดินเข้าไปใกล้เธอและย่อตัวลงมองหน้าเธอ ลักษณะท่าทางเมื่อหลับตาอยู่ดูช่างไร้เดียงสา มีไรผมปรกลงที่หน้าเล็กน้อยแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้บดบังความงามของใบหน้านั้นเลย กลับมองว่าช่างมีเสน่ห์ชวนมองเสียด้วยซ้ำไป ตุนท์กำลังหลงอยู่ในภวังค์ชั่วขณะแต่แล้วอารมณ์เขาก็ต้องเปลี่ยนทันทีเมื่อเห็นหนังสือเล่มที่วางคาอยู่บนตักเธอ "ใครอนุญาตให้เธอหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่าน!" เขาตวาดเธอด้วยเสียงอันดังกังวาน "พี่ตะวัน" เธอตกใจสะดุ้งตื่นตามเสียงที่ดังแทบจะกรอกหู แต่ดันเอ่ยเรียกชื่อเติมตะวันออกมาเหมือนสัญชาตญาณของความคุ้นเคย ตุนท์ไม่ว่าเปล่าแต่มือเขายังคว้าข้อมือเธอเอาไว้อย่างแรง "ใคร อนุญาตให้เธอหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่าน" ตุนท์พูดช้าๆชัดๆและจ้องหน้าเธอเหมือนจะเอาเรื่อง ใบหน้าคมที่โกรธจนเห็นกรามนูนขึ้นเป็นสัน "คือ ฉัน เห็นว่ามันอยู่ที่ชั้นหนังสือแล้ว...." ดาวเต็มฟ้าพูดไม่ถูกเลยทีเดียวเพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงจนเขาต้องโกรธขนาดนี้ "อย่ามายุ่งกับหนังสือเล่มนี้อีก" ตุนท์ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจนจบแต่ตัดบทด้วยคำสั่งแบบเผด็จการราวกับว่าหนังสือเล่มนี้เป็นสิ่งของต้องห้ามหรือของรักของหวง ดาวเต็มฟ้าไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้นอกจากก้มหน้าและเดินกลับเข้าห้องของเธอไป "ทำไมนะกะอีแค่หนังสือเล่มเดียว" ดาวเต็มฟ้าใจเสียเมื่อเดินกลับเข้าห้องได้ก็เอาหลังพิงประตูเหมือนโล่งใจ เธอยังจะต้องเจอกับผู้ชายอารมณ์แปรปรวนเช่นเขาไปอีกนานแค่ไหน ดาวเต็มฟ้าได้แต่ถามในใจ ..............................................
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม