ทดแทนหนี้

2008 คำ
ดาวเต็มฟ้าอาสาในการดูแลตุนท์เธอทำเองทุกอย่างปิ่นสาวใช่เป็นเพียงแค่ลูกมือในบางเรื่องเท่านั้น และเช้าวันนี้เช่นกันเธอเดินขึ้นไปเคาะประตูห้องเขาเพื่อเข้าไปช่วยล้างแผลและนำอาหารเช้าไปให้ อันที่จริงเธอไม่เคยขึ้นมาชั้นบนของตัวบ้านมาก่อนโดยเฉพาะห้องนอนเขาเพราะเธอไม่กล้าที่จะขึ้นมาวุ่นวายกับเขาเท่าไรนักเพราะเดาอารมณ์เขาไม่ออกเลยในแต่ละวัน "ก็อกๆๆ" ดาวเต็มฟ้าถือถาดอาหารด้วยมือเดียวส่วนมืออีกข้างหนึ่งเคาะเบาๆที่ประตูหน้าห้อง "ขออนุญาตเข้าไปหน่อยนะคะ" ยืนรออยู่ได้สักครู่ไม่มีเสียงตอบรับเธอจึงค่อยแง้มประตูเข้าไป "คุณตุนท์" เธอเดินปรี่เข้าไปหาเขา "ตัวก็ไม่ร้อนเท่าไรนะ แล้วทำไมยังไม่ยอมลุกนี่เกือบจะสิบโมงแล้ว" ดาวเต็มฟ้านั่งอยู่ข้างเตียงเขาเมื่อเอามืออังหน้าผากไม่พบไข้แต่เขากลับไม่ยอมลุกขึ้นมา โดยวิสัยเขามักจะลงไปรับประทานอาหารเช้าประมาณแปดโมงเช้าของทุกวัน "อ้าวเธอ..." เขาตาปรือขึ้นอาจจะเพราะเสียงของเธอวางถาดอาหารและถ้วยชาม "คุณตุนท์ไม่สบายหรือปวดตรงไหนหรือเปล่าคะทำไมวันนี้ตื่นสาย" เต็มฟ้าถามและมองหน้าเขาที่ดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไรนัก "ไม่เป็นไร นั่นเธอเอาข้าวเช้ามาให้ฉันหรือ โอ้ยย!" เขามองที่ชามอาหารและจะพยายามลุกขึ้นแต่ลืมตัวไปว่าแขนเจ็บจึงเผลอใช้แขนขวาที่บาดเจ็บยันตัวขึ้น "ระวังค่ะ เต็มฟ้าช่วย" เธอรีบเข้าไปประคองเขาให้ยืนขึ้น "ไม่ต้อง ฉันลุกเองได้" ตุนท์ยังรั้นที่จะทำอะไรด้วยตัวเอง "ได้ค่ะ" "โอ้ยอย่าปล่อยฉันอย่างนี้สิ" เธอปล่อยมือจากที่ประคองเขาอยู่ทันทีจนเขาล้มลง "ก็คุณตุนท์บอกว่าไม่ต้องยังไงล่ะคะ เต็มฟ้าก็เลย ฮิฮิๆ" เธอพยายามจะไม่หัวเราะแต่ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ตุนท์มองรอยยิ้มของเธอที่แสดงให้เห็นฟันขาวสะอาดเรียงตัวสวยและริมฝีปากบางรูปกระจับที่กำลังยิ้มกว้างทำให้บรรยากาศของห้องเขาเช้านี้ดูสดใสขึ้นมากเลยทีเดียว "คุณตุนท์คะ คุณตุนท์คะ" ดาวเต็มฟ้าเรียกเขาสองรอบเมื่อเห็นเขาจ้องค้างมาที่เธอ "เอ่อ เดี๋ยวฉันไปล้างหน้าล้างตาก่อน เธอวางข้าวไว้ตรงนั่นแล่ะ ไปได้แล้ว" ตุนท์แก้เก้อด้วยการรีบขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แต่เธอยังคงยืนดูจนแน่ใจว่าเขาช่วยเหลือตัวเองได้จริง เขาเดินไปเข้าห้องน้ำได้แต่แขนข้างที่ถนัดนั้นเจ็บเกินกว่าจะยกขึ้นมาได้ "คุณตุนท์ใช้มือซ้ายแปรงฟันแทนนะคะเดี๋ยวเต็มฟ้าบีบยาสีฟันเปิดน้ำใส่แก้วให้" เธอพูดพร้อมหยิบแปรงและยาสีฟันมาให้เขา "แปรงค่ะ เต็มฟ้าจะยืนช่วยคุณ ไม่อย่างนั้นวันนี้คุณตุนท์คงไม่ได้แปรงฟันหรอกค่ะ" เธอยื่นแปรงให้เขาพร้อมพยักหน้าให้เขารับไป "แล้วถ้าฉัน...จะฉี่ล่ะเธอจะช่วยฉันไหม" เขาพูดกวนพร้อมจ้องตาและย่างกรายเข้าใกล้เธอจนเธอต้องหลบ "งั้นเต็มฟ้าขอตัวไปช่วยพี่ปิ่นข้างล่างก่อนค่ะ แล้วจะขึ้นมาใหม่ตอนเก็บถาดอาหารนะคะ" เธอหน้าแดงก้มหน้าเดินลิ่วๆออกจากห้องน้ำ "นึกว่าจะแน่ยัยเด็กบ๊อง" เขาพูดตามหลังเธอเบาๆและแอบยิ้มที่มุมปาก "อ้าวเต็มฟ้าไปทำอะไรมาหน้าแดงเชียว" ปิ่นสาวใช้ทักดาวเต็มฟ้าในตอนที่เดินสวนกันข้างล่าง "ร้อนน่ะ" เธอตอบส่งเดชด้วยความเขินอาย "ร้อน ร้อนอะไร อากาศเย็นสบายขนาดนี้" ปิ่นงงกับคำตอบของเธอ "คนบ้า จะช่วยแท้ๆ" เธองึมงำคนเดียว ....................................... ประมาณหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ดาวเต็มฟ้าทำใจกล้าเอายาขึ้นไปให้เขาอีกครั้ง "ก็อกๆ" คราวนี้เธอเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไปเลยโดยเปิดประตูค้างเอาไว้ด้วยอย่างน้อยหากเขาจะแกล้งอะไรเธออีกเธอจะได้วิ่งหนีออกประตูทัน "ทำไมยังไม่ทานข้าวคะเต็มฟ้าเอายามาให้" เธอมองที่ถาดอาหารชามข้าวต้มยังไม่พร่องลงไปเสียเท่าไร "มือซ้ายตักไม่ถนัด" เขาบอกอาการแบบเหนือยๆไม่ค่อยมีแรง "แล้วทำไมไม่เรียกคะ" เต็มฟ้าเดินเข้าไปยกชามข้าวต้มออกมาจากถาดแล้วนั่งลงข้างเตียงเขา "ทานค่ะ" เธอตักข้าวต้มยื่นเข้าไปจ่อที่ปากเขา "ฉันไม่ใช่เด็กไม่ต้องป้อน" เขายังดื้ออีกครั้ง "ทานค่ะสองสามคำก็ยังดีจะได้ทานยา อย่าดื้อค่ะ" เต็มฟ้าแกล้งเสียงเขียว เขายังจ้องหน้าเธอแต่ไม่ยอมอ้าปากรับช้อนข้าวเข้าไป "ให้เด็กอย่างฟ้าป้อนข้าวคงไม่เสียเหลี่ยมเจ้าพ่อคาสิโนอย่างคุณตุนท์เท่าไรมั้งคะ ทานข้าว ทานยาจะได้กลับไปเป็นเจ้าพ่อคุมบ่อนเหมือนเดิม" คำพูดของเธอแกล้งประชด "ใครบอกเธอว่าฉันเป็นเจ้าพ่อ ฉันแค่เป็นเจ้าของกิจการ" เขาย้อนเธอกลับ "จะเป็นอะไรก็ช่างตอนนี้ทานข้าวนะคะ คุณเจ็บตัวเพราะเต็มฟ้า เต็มฟ้าไม่สบายใจเท่าไร" เธอเสียงอ่อยลง "ฉันไม่ได้เจ็บตัวเพราะเธอหรือเพื่อเธอ ไม่ต้องรู้สึกอะไรทั้งนั้น รอเรื่องสงบเมื่อไรรีบๆไปทำงานใช้หนี้ฉันและถ้าจะให้ดีให้คนของเธอมันเอาเงินมาคืนฉัน เธอจะได้รีบๆไปจากที่นี่" หัวใจที่เคยอ่อนโยนแต่แข็งกระด้างเพราะรักที่ไม่สมหวังจากครอบครัวและจากคนรักมันทำให้เขาไม่อยากรู้สึกอ่อนไหวกับใครอีก คำพูดทุกคำต้องเอ่ยออกมาตรงข้ามกับหัวใจเพื่อสร้างกำแพงให้กับตัวเอง "ถ้าพี่ตะวันไม่กลับมาหรือถ้าเต็มฟ้าไม่มีปัญญาใช้หนี้ทั้งหมดของคุณตุนท์ได้คุณตุนท์จะทำยังไงคะ เงินเดือนที่น้อยนิดของเต็มฟ้ามันต้องทำงานกี่ปีกี่ชาติถึงจะหมด" "ถ้าฉันรำคาญเธอขึ้นมาจริงๆก็คงจะต้องฝังเธอไว้หลังบ้านฉันเนี่ยแหล่ะ ในเมื่อเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์" เขาพูดเสียงเบา สีหน้าเรียบเฉย ทั้งที่ใจไม่ได้คิดอะไรอย่างที่ปากพูดแต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรดีๆได้เพราะคนแบบเขาเกิดมาเพื่อพบเจอแต่ความผิดหวังจนต้องแสดงออกมาเป็นความแข็งกร้าว "ถ้าแบบนั้นเต็มฟ้าคงต้องตายแล้วล่ะค่ะ ฮิฮิ" เธอแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อนน้ำตาที่ตกในใจ "ทานยาได้แล้วค่ะ" เธอวางชามเข้าและหันไปหยิบยาพร้อมส่งแก้วน้ำให้เขา จากนั้นเธอก็ไม่พูดอะไรอีกจนเก็บถาดอาหารและออกจากห้องไป ........................................ หลังจากวันนั้นดาวเต็มฟ้าก็ไม่ได้ขึ้นไปดูแลเขาที่ห้องนอนชั้นบนอีกเลยเธอปล่อยให้ปิ่นคอยช่วยเขาแทนเป็นเวลาเกือบสัปดาห์ จนเขาอาการดีขึ้นและลงมาเองที่โต๊ะอาหารชั้นล่างได้ "คุณตุนท์ดีขึ้นแล้วใช่ไหมคะ งั้นปิ่นจัดอาหารที่โต๊ะอาหารนะคะ" สาวใช้ทักเจ้านายเมื่อเห็นเขาลงมาเองได้แล้ว "อืม เต็มฟ้าล่ะ" ประโยคแรกที่ถามหาคือดาวเต็มฟ้า "อ๋อ เห็นวาง จัดของอยู่ที่โต๊ะนั่งเล่นหลังบ้านค่ะ" ตุนท์ไม่ได้ใส่ใจอะไรจนได้รับประทานอาหารเช้าจนเสร็จเรียบร้อย เขาค่อยๆเดินไปที่โต๊ะนั่งเล่นหลังบ้าน เห็นดาวเต็มฟ้ากำลังก้มๆเงยๆหยิบถังน้ำขนาดย่อมและเก้าอี้มาวาง "ทำอะไร" เขาเดินมาเงียบๆทักเธอจนสะดุ้งเล็กน้อย "เต็มฟ้าจะให้คุณตุนท์สระผมค่ะ ดูคุณตุนท์น่าจะไม่ได้สระเลยใช่ไหมคะเหม็นแย่" เธอยิ้มให้เขาอารมณ์ดี "สระยังไง" เขายังงงกับอุปกรณ์ที่มีเพียงแค่ไม่กี่อย่าง "อยากรู้ต้องนั่งลงค่ะ" เธอประคองให้เขานั่งลงที่เก้าอี้ ดาวเต็มฟ้าค่อยๆพาเขาเอนหลังลงให้พิงไปกับพนักพิงแล้วนำผ้าเช็ดผมมารองที่ไหล่เอาไว้ "หลับตานะคะ เดี๋ยวแชมพูจะเข้าตา" เธอค่อยๆบรรจงรินน้ำจากเหยือกแก้วใสรดลงที่ศรีษะของเขาจนเปียกชุ่มบีบแชมพูลงฝ่ามือถูวนจนแชมพูแตกตัวเป็นฟองละเอียด จากนั้นก็ลูบไล้ไปจนทั่วศรีษะของเขา นิ้วเรียวเล็กนวดคลึงขมับของเขาเบาๆให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ตุนท์ไม่เคยรุ้สึกดีแบบนี้มาก่อนถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งธรรมดาที่ไม่วิเศษอะไรแต่เขากลับรู้สึกพิเศษกับสิ่งที่เธอทำให้เขา เมื่อจบขั้นตอนจนชำระล้างศรีษะของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วดาวเต็มฟ้าก็นำผ้ามาเช็ดผมให้เขาอย่างเบามือ "ถึงชีวิตเต็มฟ้าจะไม่มีค่าแต่ก็พอมีประโยชน์อยู่นิดนึงนะคะอย่างน้อยก็สระผมให้คุณตุนท์ได้ เป็นยังไงคะโล่งหัวขึ้นเยอะเลยไหมคะ" เธอค้อมตัวลงเอามือทั้งสองข้างจับที่เข่าถามเขาที่นั่งอยู่ เขาไม่ตอบเพราะรู้สึกจุกกับคำพูดที่ว่าชีวิตเธอไม่มีค่า เหมือนเธอกำลังจะตอกย้ำว่าเขาดูหมิ่นเธอด้วยคำพูดก่อนหน้านี้ เขาเองไม่เคยจะพูดดีกับเธอเสียเท่าไรแล้วทำไมเธอถึงต้องมาทำดีกับเขา "ถ้าเธอคิดว่าการที่เธอพยายามจะทำดีกับฉันในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมารวมจนถึง ณ วันนี้ตอนนี้ เพื่อให้ฉันใจอ่อนให้กับเธอเรื่องหนี้ เธอคงคิดผิดนะ" เขายังคงทำร้ายเธอด้วยคำพูดที่เจ็บแสบเสมอดั่งคนมีปม "ค่ะ" ดาวเต็มฟ้าที่หันหลังให้เขาอยู่ตอบ เธอหันมาแค่คอเพียงนิดเดียวเท่านั้น แล้วก็เข้าบ้านไปเงียบๆ มันก็ใช่นะที่เธอคิดจะทำดีเพื่อให้เขาใจอ่อนให้เธอ อยากให้เขาตายใจและยอมผ่อนปรนหนี้ให้หรือยอมปล่อยตัวเธอไป แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงเจ็บทุกครั้งที่เขาเมินเฉยเธอ ความเป็นห่วงความรู้สึกที่อยากจะดูแลเขามันก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร "พอได้แล้วล่ะดาวเต็มฟ้า" เสียงข้างในหัวใจมันบอกเธอ .................................... เติมตะวันและกรได้ลงไปทำงานกับญาติของกรที่ภาคใต้ไปช่วยออกเรือทะเลทำให้เติมตะวันขาดการติดต่อกับดาวเต็มฟ้าเป็นระยะเวลานาน เขาพยายามที่จะใช้โทรศัพท์แต่ก็ไม่มีสัญญาณ เขาได้แต่เก็บความคิดถึงและเป็นห่วงเอาไว้ "คิดถึงน้องสาวหรือวะไอ้ตะวัน" กรเพื่อนรักเดินมาตบไหล่ "เออ ว่ะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ กูหายไปนานกลัวจะเสียขวัญ" "อดทนหน่อยเพื่อนเดี๋ยวเรื่องเงียบลงก็น่าจะพอขึ้นกรุงเทพไปได้บ้างแหล่ะ" "แต่กูว่ากลับเข้าฝั่งรอบนี้กูจะขึ้นกรุงเทพเลยกูเป็นห่วงน้อง" เติมตะวันยืนยันกลับเพื่อน เติมตะวันตั้งใจอยากจะกลับขึ้นมาหาน้องสาวหลายครั้งแล้วแต่เพราะว่าเพื่อนทัดทานไว้เนื่องจากกลัวว่าถ้าเรื่องยังไม่เงียบเขากลับไปหาน้องสาวก็น่าจะกลายเป็นเอาเรื่องไปให้น้องสาวเดือดร้อนไปด้วยมากกว่า "รอพี่นะเต็มฟ้า" เขาได้แต่ทำใจและภาวนาให้เธอปลอดภัยดีเช่นเดียวกัน ....................................

อ่านด้วยแอป

ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน

อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม