1 ในที่สุดก็หย่ากัน
“เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พชร ประธานแห่งซีเจย์ กรุ๊ป พาพลอยรุ้ง นางแบบสาวหน้าใหม่ไปแล่นเรือยอร์ชสุดโรแมนติก ก่อนจะมีคนถ่ายภาพของทั้งคู่ที่ดูสนิทสนมกัน…”
ข่าวนี้ถูกถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์ทุกช่อง
จากนั้นไม่นาน ข่าวนี้ก็กลายเป็นประเด็นร้อนทั่วประเทศ
หญิงสาวที่นั่งอยู่บนโซฟา เธอใส่ชุดยูนิฟอร์มสีเทาน้ำเงิน ผมของเธอถูกม้วนขึ้น อีกทั้งยังสวมแว่นตาหนาเตอะ การแต่งตัวแบบนี้ทำให้เธอดูเหมือน “มนุษย์ป้า” ในทีวีไม่มีผิด
ถึงแม้เธอจะแต่งตัวแบบนี้ แต่ใบหน้าของเธอยังคงงดงาม ผิวขาวเนียน ดวงตากลมโตที่แฝงไปด้วยความเศร้า เธอช่างเป็นผู้หญิงที่สวยอย่างไร้ที่ติจริง ๆ
เธอดูข่าวในทีวีด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ไร้ความรู้สึก
ป้าอันดา ป้าแม่บ้านที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็กำลังมองมาที่เธออยู่ และไม่รู้ว่าคุณหนูของเธอกำลังคิดอะไร
พวกเขาแต่งงานกันมาเป็นปี แต่คุณชายไม่เคยกลับบ้านเลยสักครั้ง อีกทั้งยังมีข่าวอื้อฉาวแบบนี้ออกมาไม่เว้นแต่ละวัน…
“คุณหนู ต้องเป็นพวกนักข่าวเขียนข่าวมั่ว ๆ ขึ้นมาแน่เลย คุณหนูอย่าไปเชื่อเลยค่ะ…” ป้าอันดาพูดปลอบใจ
แต่แพรไหมรู้ดีว่าข่าวนี้เป็นเรื่องจริง
เธอเพียงยิ้มบาง ๆ แต่ไม่ตอบอะไรกลับไป ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน
ไม่นาน ปลายสายก็กดรับสาย
“ฮัลโหล…”
เธอยังไม่ทันจะได้ทักทาย ปลายสายก็พูดขึ้นก่อน
“ฉันเอง!” แพรไหมตอบเสียงเรียบ
“มีธุระอะไร!?” น้ำเสียงของปลายสายเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“คืนนี้นายจะกลับบ้านไหม? ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย!” แพรไหมถาม
“มีเรื่องอะไรคุยทางโทรศัพท์ก็ได้ ฉันไม่อยากกลับไปเจอหน้าเธอให้รู้สึกคลื่นไส้” พชรตอบอย่างไม่ถนอมน้ำใจ
แค่นึกถึงสภาพการแต่งตัวของแพรไหมแล้ว เขาก็อยากจะอ้วกขึ้นมา
เมื่อได้ยินเช่นนั้น แพรไหมก็บีบโทรศัพท์แน่นขึ้น “แต่เราเป็นสามีภรรยากัน!”
“แพร——ฉันขอเตือนเธอไว้นะ ทางที่ดีอย่าพูดว่าเราเป็นสามีภรรยากันอีก มันเป็นแค่การแต่งงานเพื่อธุรกิจ อีกอย่าง สภาพของเธอทำให้ฉันขยะแขยงจนอยากจะหย่าให้มันจบ ๆ ไปซะ!” ปลายสายตะคอกเสียงดังลั่น
หย่า…
“พชร เราแต่งงานกันมาปีหนึ่งแล้ว ฉันก็อยู่ของฉันดี ๆ ไม่เคยทำเรื่องที่ผิด แล้วนายมีสิทธิ์อะไรมาขอหย่า?” แพรไหมไม่ยอม
“ก็เพราะเธอทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงเต็มทน!”
“นาย—”
“ดี ในเมื่อพูดมาขนาดนี้แล้ว งั้นก็หย่ากันเถอะ!” แพรไหมกล่าว
เมื่อได้ยินดังนั้น ปลายสายก็อึ้งไปทันที “เธอคิดได้แล้วเหรอ?”
“นายเป็นฝ่ายที่ต้องการหย่าในครั้งนี้เอง หวังว่านายจะรับผลที่ตามมานะ และอย่าได้ยื่นมือเข้ามายุ่งกับธุรกิจของครอบครัวฉัน!” แพรไหมกล่าว
ปลายสายที่เต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะหย่า จึงไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่น “ได้ ขอแค่เธอยอมเซ็น!”
“ฉันจะเซ็น แต่หวังว่านายจะรักษาคำพูด!”
“ไม่มีปัญหา!”
โทรศัพท์ถูกตัดสายไป
ขณะนั้นเอง ป้าอันดาที่อยู่ข้าง ๆ ก็ได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่อย่างชัดเจน เธอจึงเดินเข้าไปหาแพรไหม “คุณหนู คุณหนูกับคุณผู้ชายจะ…หย่ากันจริง ๆ เหรอคะ?”
แพรไหมหันมามองป้าอันดา สายตาภายใต้แว่นกรอบใสเป็นประกาย “มันดีกับเราทั้งคู่ค่ะ!”
“แต่ทางคุณท่านกับคุณผู้หญิง…”
“พชรจัดการได้ค่ะ!” แพรไหมพูดแทรกขึ้น
ในตอนนั้นเอง เธอก็เตรียมตัวจะขึ้นไปชั้นบน แต่จู่ ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “ป้าอันดา เก็บอาหารเย็นพวกนั้นเถอะค่ะ!” แพรไหมพูด
“คุณหนูจะไม่ทานเหรอคะ?” ป้าอันดาถามอย่างตกใจ
“ไม่ล่ะ ตอนนี้แพรไม่อยากกิน!” พูดจบ แพรไหมก็วิ่งขึ้นไปชั้นบน
เธอหยิบหนังสือสัญญาการหย่าที่พชรเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกมา ก่อนจะเซ็นชื่อลงไปทันที!
เธอมองดูลายเซ็นของตัวเอง พร้อมกับยิ้มมุมปาก
“พชร ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชีวิตนายเป็นของนาย ชีวิตฉันเป็นของฉัน ต่างคนต่างเดินทาง ไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีก!”