7
“ทำให้ฉัน!” ไฟท์สั่งเสียงห้วนแล้วมองเธอด้วยสายตาดุๆ จนอีกคนแอบสะดุ้งแต่ก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติเพราะเริ่มอ่านเกมของเขาออก เขาคงพยายามยั่วให้เธอกลัวสินะ
“อื้ม นั่งนิ่งๆล่ะ” ปลายฟ้าพยักหน้าแล้วเริ่มจัดการโกนหนวดของของอย่างตั้งใจอีกครั้ง พยายามอย่างมากที่จะไม่ให้สบสายตาสีดำสนิทที่กำลังจ้องมองใบหน้าเธออยู่
“ควจะทำบ่อยสินะ แฟนเธอไม่หวงหรือไงมาทำงานแบบนี้” มือเล็กหยุดลงเมื่อเขาพูด แล้วเลื่อนสายตาไปจ้องตาเขา
“ฉันไม่มีแฟน แต่พ่อฉันไม่สบายบ่อยเลยทำเป็น” เธอตอบแล้วจัดการกับหนวดเคราที่ขึ้นตามกรอบหน้าของเขาต่อ
“…”
“เม้มปากหน่อย” เธอบอกให้คนที่เงียบไปแล้วหันไปมองสบตาอีกครั้งเมื่อเขายังคงนิ่งไม่ยอมทำตาม แต่ครั้งนี้มันจะไม่ปกติเพราะทันทีที่เธอเจอกับสายตานิ่งๆ ของเขาที่มีระยะห่างแค่สองคืบนั้นกำลังทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ และเผลอจ้องนัยน์ตาสีดำคู่นั้นอยู่เนิ่นนานเหมือนเขากำลังจะสะกดจิตเธอให้หยุดนิ่งอย่างนั้นแหละ
อาจจะเพราะบรรยากาศพาไปหรือเพราะเขาอยากจะแกล้งเธอก็ไม่แน่ใจในตอนนี้ ถึงทำให้เลื่อนใบหน้าหล่อเหลานั้นเข้ามาใกล้อย่างเชื่องช้า จนกระทั่งริมฝีปากหยักของเขาทาบทับอยู่บนริมฝีปากของเธอ ความร้อนของสัมผัสนั้นทำให้ปลายฟ้านั่งนิ่งไม่สามารถขยับตัวได้ ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ เขากดริมฝีปากลงไปย้ำอีกครั้งแล้วค่อยๆ เคลื่อนที่บดเบียดริมฝีปากบางไปมา มือหนาล็อกเอวของเธอไว้เพื่อไม่ให้ขยับหนี
“อื้อ” เธอเผลอครางออกมาในลำคอจนอีกคนเริ่มรู้ตัวและถอนริมฝีปากออกอย่างรวดเร็ว
ปลายฟ้าสะดุ้งโหยงรู้ตัวอีกทีเขาจับมีดโกนในมือจากมือเธอไปถือไว้ ตอนไหนเธอก็ไม่รู้ตัว อันตรายเกินไปแล้ว คิดว่าเขาจะจมปลักกับความเศร้าชนิดที่ว่าไม่อยากยุ่งกับใครซะอีก แบบนี้เธอต้องระวังตัวมากขึ้นใช่มั้ย
ปลายฟ้าคิดในใจก่อนจะดีดตัวขึ้นจากตักของเขา
“เอ่อ นายจะทำเองใช่มั้ย งั้นฉันนั่งรออยู่ตรงนี้นะ” พูดจบเธอก็เดินอ้อมไปนั่งที่ปลายเตียง กดมือถือออกมาเล่นเพื่อหลีกหนีสถานการณ์ที่เพิ่งจบไปเมื่อสักครู่
“อืม” พูดจบเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยสีหน้าที่เหมือนจะไม่พอใจนัก
ปัง!
ปลายฟ้ามองอย่างไม่เข้าใจ เขาโกรธเธอเหรอทั้งที่เขาเป็นคนเริ่มก่อนแท้ๆ หรือกำลังทำตัวไม่ถูก เธอคิดในใจก่อนที่จะคิดบางอย่างออก
‘รู้สึกผิดกับตัวเองสินะ’ และมันก็ถูกอย่างที่เธอคิด เพราะตอนนี้คนด้านในห้องน้ำกำลังยืนนิ่งมองตัวเองในกระจก ทั้งที่ไม่ได้คิดอะไรกับผู้หญิงคนนั้น ทั้งที่บอกตัวเองมาตลอดว่าจะไม่ยุ่งกับใคร ทั้งที่คิดถึงแต่คนรักที่ตายจากไป ทำไมเมื่อกี้เขาถึงได้ทำแบบนั้น
คงเพราะอยากจะแกล้งยัยนั่นใช่มั้ย…
และสุดท้ายเขาก็สรุปให้กับตัวเองว่าเขาแค่อยากจะแกล้งเธอให้กลัวและไม่อยากเข้าใกล้เขาเท่านั้น แต่ทำไมเขาต้องลงทุนถึงขนาดนั้นด้วยนะ
“โถ่เว้ย!” หมัดที่กำไว้แน่นกระแทกลงกับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแต่คนกระทำไม่ได้รู้สึกเจ็บเลย
ก๊อกๆ
“เสร็จหรือยัง รีบๆ หน่อยสิ” เสียงหวานๆ ของคนด้านนอกเริ่มรบเร้าทำให้เขากลับคืนสู่ปกติอีกครั้ง
“ไม่ได้กลัวเลยสินะ เหอะ” ไฟท์พูดและหัวเราะในลำคอก่อนจะจัดการกับใบหน้าของตัวเองที่เธอทำค้างไว้
ยี่สิบนาทีต่อมา
“พร้อมหรือยัง” ปลายฟ้าพูดแล้วเดินเข้ามากอดอกมองผู้ชายที่ทำนั่นทำนี่อย่างเชื่องช้าเหมือนต้องการจะทำให้อีกคนรำคาญ
“พร้อมอะไร” เขาพูดแล้วหันไปสนใจอย่างอื่นต่อ
“ออกไปข้างนอก”
“ไปไหน ฉันไม่ไป” ไฟท์หย่อนตัวลงนั่งกับโซฟาตัวเดิมและกำลังจะหยิบรีโมทมาเปิดโทรทัศน์ แต่กลับถูกมือเล็กขว้างข้อมือของเขาเอาไว้
“อย่าลืมสิ ว่าหนึ่งเดือน เราจะไม่พูดคำนี้กันอีกนะรู้มั้ย” เธอพูดพร้อมกับพยายามดึงให้เขาลุกขึ้นแต่แรงอันน้อยนิดนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรผู้ชายที่นั่งอยู่ได้เลย
“ขนาดแค่วันเดียวฉันยังเบื่อเธอแล้ว หนึ่งเดือนฉันไม่อกแตกตายเลยเหรอ” เขาถอนหายใจแล้วบิดข้อมือออกแรงๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนล้วงกระเป๋ากางเกง
“คิดซะว่าชดใช้จูบแรกที่นายพรากของฉันไปแล้วกัน ช่วยทำตามที่ขอด้วยฉันไม่อยากอยู่กับนายนานกว่าหนึ่งเดือนนักหรอก” เธอพูดแล้มเม้มปากแน่นจนเกือบจะเป็นเส้นตรง คนที่ฟังถึงกับนิ่งไปทั้งๆ ที่เขายังไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ ตอนนี้
“อย่าคิดว่าฉันพิศวาสอะไรเธอ” เขาเอ่ยเสียงเรียบและหันหลังเดินไปที่ประตู
“อืม ฉันก็ไม่คิดว่านายจะคิดอะไรหรอก ที่ฉันไม่ว่าอะไรก็เพราะมันคือหน้าที่ของฉันเหมือนกัน ที่จะทำให้นายพอใจ” คนพูดหันหน้าหนีไปอีกทาง ไม่อยากจะมองคนที่เพิ่งกล่าวคำพูดอันใจร้ายนั้น ถึงแม้เมื่อกี้เขาจะทำให้ใจเต้นแรง แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าจูบเมื่อกี้มันน่าขยะแขยงสิ้นดี
เพราะเงินใช่มั้ยที่ทำให้เธอยอมกับจูบเมื่อกี้
“งั้นฉันจะทำอะไรเธอก็ได้ ถ้ามันทำให้ฉันพอใจสินะ” เขายิ้มกระตุกยิ้มมุมปากแล้วพูดขึ้นโดยที่ไม่หันมามอง คำถามนั้นทำเอาคนที่ฟังอยู่รีบหันมามองทันที
“ฉันไม่คิดว่านายจะทำอะไรฉันหรอก เพราะนายไม่ได้พิศวาสอะไรฉันจริงมั้ย” เธอยิ้มมุมปากแบบที่เขาทำแล้วถามออกไป
“หึ ก็ไม่แน่หรอก” คำพูดของเขากลายเป็นเหมือนคำขู่เท่านั้นสำหรับเธอ ส่วนอีกคนก็มั่นใจว่าเขาก็แค่ขู่เธอจริงๆ
“ถ้าเป็นแบบนั้น ก็ถือว่าฉันเกือบจะทำสำเร็จแล้วสินะ เพราะทำให้นายสนใจในตัวฉันได้” ปลายฟ้าพูดขึ้นเหมือนอยากจะเอาชนะไม่ต่างกันกับเขา ก็มาลองดูสิว่าใครจะแน่กว่ากัน
“อย่าหลงตัวเอง เธอไม่น่าสนใจพอจะทำให้ฉันเปลี่ยนใจได้หรอก” เขาหันมามองเธอด้วยสายตาดุดัน
“ฉันก็ไม่ได้มาทำงานนี้เพื่อจุดประสงค์ให้นายสนใจฉันหรอก แต่ถ้านายทำอะไรฉันขึ้นมาจริงๆ แปลว่าฉันทำสำเร็จไปได้เยอะแล้วนี่ รีบลงไปด้านล่างเถอะแม่นายรอทานข้าวด้วย”
พูดจบปลายฟ้าก็เดินผ่านเขาไปและเปิดประตูเดินนำออกมา โดยที่เขายังยืนนิ่งกับคำพูดนั้น
เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันว่ะ บอกว่านั่นคือจูปแรก แต่ยังท้าทายผู้ชายเหมือนไม่กลัวอะไรแบบนี้เหรอ ไฟท์คิดแล้วขมวดคิ้วแน่น แต่สุดท้ายก็เดินตามออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งตามแบบฉบับของเขาเหมือนเดิม
ลงมาถึงชั้นล่างผู้เป็นแม่กำลังนั่งดูเอกสารบางอย่างอยู่บนโซฟาหรูในห้องนั่งเล่น เธอเงยหน้าขึ้นมามองปลายฟ้าก่อนจะยิ้มดีใจเมื่อเห็นว่าปลายฟ้าพาลูกชายของเธอลงมาจากห้องพร้อมกับใบหน้าที่ดูดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ได้
เป็นสัญญาณที่ดีแล้วใช่มั้ย คนเป็นแม่คิดในใจโดยหารู้ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างสองคนกำลังตึงเครียด แต่ปลายฟ้าก็ปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้มเพื่อไม่ให้อีกคนเป็นห่วง แต่ไฟท์กับทำหน้าบึ้งตึงไม่สนว่าใครจะคิดยังไง
“ไปทานข้าวกันเถอะลูก” คนเป็นแม่เดินเข้าไปโอบเอวลูกชายที่ตัวสูงกว่า ก่อนจะขว้ามือของปลายฟ้าไปยังโต๊ะที่มีคนจัดอาหารเที่ยงไว้ให้มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นของโปรดของเขาทั้งนั้น
เธอรู้สึกดีไม่น้อยที่ได้กลับมาทานเข้าพร้อมกับลูกชายอีกครั้ง เพราะปกติเขาจะมาทานไม่เป็นเวลา บางมื้อก็ไม่ทานข้าวเพราะบอกว่าไม่หิว
“น่ากินจังเลยค่ะ” ปลายฟ้าอ้าปากค้างเมื่อเห็นกับข้าวที่วางบนโต๊ะ
“ของที่ไฟท์ชอบทั้งนั้นเลยหนูฟ้า” แม่ยิ้มแป้นให้ปลายฟ้าก่อนจะหันไปมองหน้าลูกชายตัวเองที่กำลังนิ่งค้างกับคำพูดของคนเป็นแม่ ก่อนจะหันไปมองปลายฟ้าพร้อมกับขมวดคิ้ว
“…”
“ปะ เป็นอะไรไฟท์”
“…ผมไม่หิว”
“น้องต้องทานนะ อย่าลืมสิ่งที่ที่เราตกลงกันไว้” เธอหันไปบอกเขาแล้วเดินมาจับข้อมือของเขาแต่กลับถูกสะบัดออกอย่างไม่ไยดี
“อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน” เขาจ้องหน้าผู้หญิงที่ชื่อเหมือนกับแฟนเก่าตัวเองที่เดินจากไป ยิ่งทำให้ไม่อยากเห็นไม่อยากได้ยินชื่อของคนตรงหน้ามากขึ้นไปใหญ่
“หรือจะให้ฉันบอกว่าเมื่อกี้…”
พรึ่บ!
สุดท้ายเขาก็นั่งลงภายใตความงุนงงของแม่ตัวเอง ถึงแม้จะอยากถามว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ปลายฟ้ากลับส่งสายตาให้เธอว่าไม่มีอะไร แล้วยิ้มออกมาเหมือนพอใจกับการกระทำของเขา
คิดจะทำแบบนั้นเพื่อเอาะชนะเธอ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเธอจะใช้เรื่องนั้นมาทำให้เขากลายเป็นอีกคนในสายตาแม่ตัวเองสินะ
“รู้จักกันกับหนูปลายฟ้าแล้วใช่มั้ยลูก เจอหน้ามาสองวันแล้ว” คนเป็นแม่พูดขึ้นระหว่างที่กำลังนั่งทานข้าวด้วยกัน
“เพิ่งรู้ว่าชื่อนี้” เขาพูดแล้วนั่งเขี่ยข้าวตัวเองในจานต่อ
“ทานข้าวเยอะๆ นะไฟท์ มีคนบอกว่านายชอบทานอันนี้มากๆ” ปลายฟ้าเลื่อนมือไปตักกับข้าวมาใส่จานให้เขา พร้อมกับแอบขยิบตาให้อย่างกวนๆ จนเขาเกือบจะเขวี้ยงช้อนจนพื้นอย่างหมดความอดทนแต่ก็กลัวว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าบอกเรื่องนั้นกับแม่ของเขาจริงๆ
“อืม” เขาตอบเสียงเรียบแล้วตักข้าวในจานกินต่อ
จนกระทั่งเขากินข้าวหมดจาน และเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปีที่เห็นเขาเหมือนจะกลับมาเนปกติ ถึงแม้ใบหน้าจะไม่บ่งบอกว่าพอใจก็ตาม
“วันนี้หนูชวนไฟท์ออกไปข้างนอกนะคะ” ปลายฟ้าพูดแล้วยิ้มให้ผู้เป็นแม่
“ได้สิลูก ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างจะได้รู้สึกดี” เธอพูดแล้วเอื้อมมือไปจับมือของลูกชายตัวเองที่ทำหน้าเหมือนอยากจะเหวี่ยงคนที่นั่งตรงข้ามเต็มทน
เวลาลาผ่านไปครู่ใหญ่
“งั้นเดี๋ยวเราไปแล้วนะคะ” ปลายฟ้ากล่าวลาก่อนจะหันไปพยักหน้าให้อีกคน เขามองหน้าแล้วถอนหายใจออกมายาวๆ แต่สุดท้ายก็ยอมลุกออกมาจากตรงนั้น
“นายช่วยเป็นคนขับด้วยนะ เราไปกันสองคนลุงเตรียมรถให้แล้ว” เธอหันมาบอกคนที่เดินตามมาด้วยอารมณ์คุกรุ่น
“เธอร้ายกว่าที่ฉันคิดนะ อยากจะลองดีกับฉันใช่มั้ย” เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่เธอพูดแต่กลับเดินเข้ามากระชากแขนของคนตัวเล็กจนเธอต้องนิ่วหน้าแล้วอุทานออกมาด้วยความเจ็บ
แผลเก่ายังไม่หายจะมาได้แผลใหม่อีกหรือเปล่าปลายฟ้า
“อ๊ะ เจ็บนะ” เธอพยายามจะแกะมือหนานั้นออกแต่เขากลับบีบมันแน่นกว่าเดิมจนเหมือนอยากจะให้มันแหลกละเอียดคามือ นี่เขาลืมไปแล้วเหรอว่าเธอเป็นผู้หญิง
“หึ ตอนที่เธอท้าทายทันทำไมไม่คิดล่ะ” เขายิ้มมุมปากแล้วพูดลอดไรฟันออกมาเพราะกลัวว่าคนอื่นจะได้ยินเข้า
“นายใจเย็นๆ นะไฟท์ แล้วก็ปล่อยมือฉันก่อนฉันเจ็บไปหมดแล้ว” ปลายฟ้าน้ำตาซึมมองข้อมือของตัวเองที่ถูกบีบไว้แน่นรู้สึกเจ็บจนคิดอะไรไม่ออก อย่างเดียวที่เธอคิดว่าจะสู้ไม่ได้คงเพราะการใช้กำลังนั่นแหละ
“อย่ามากวนประสาทฉันอีก” เขายอมปล่อยมือออกเพราะเห็นว่าอีกคนกำลังจะร้องไห้และเขาไม่อยากจะให้ใครมาเห็นเข้า
“…” ปลายฟ้าไม่ได้ตอบแต่ใช้มือลูบข้อมือของตัวเองเบาๆ ที่ตอนนี้มันกำลังแดงช้ำ
“…” คนตัวสูงมองตามที่ข้อมือของเธอ ก่อนจะหันหน้าหนีเพราะคิดว่าเขาอาจจะทำรุนแรงเกินไปแต่นั่นก็เพราะเธอยั่วโมโหเขาไม่ใช่เหรอ
“ไม่เห็นต้องทำรุนแรงขนาดนี้เลย” ปลายฟ้าเม้มปากมือยังคงลูบที่รอบลยแดง น้ำตากำลังเอ่อนองเกาะขอบตาจนเกือบจะล้นออกมาทั้งที่พยายามจะไม่ร้องไห้ให้เขาเห็น เพราะถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็จะได้ใจและรู้วิธีกลั่นแกล้งเธอ
“จะไปได้หรือยัง!”
Fight: จูบแรกงั้นเหรอ เหอะ!