6
วันต่อมา
ก๊อกๆ
ปลายฟ้าเดินมาหยุดอยู่ตรงห้องเดิมที่เคยมาเมื่อวานนี้ แต่ไม่ว่าเธอจะเคาะกี่ทีก็ไม่มีทีท่าว่าเจ้าของห้องจะเปิดมาต้อนรับเธอเลย
“คิดว่าจะหนีฉันพ้นสินะ” เธอบ่นพึมพำแล้วหันหลังลงไปด้านล่างเพื่อกลับมาหาคนที่เธอเพิ่งทักทายก่อนจะเข้า
“แม่คะ”
“ว่าไงหนูฟ้า”
“ขอกุญแจห้องไฟท์ค่ะ สงสัยเขาอยากจะเล่นสนุกกับหนู” เธอพูดแล้วยิ้มอย่างหยอกล้อ จนทำให้คนที่นั่งอยู่ต้องยิ้มตามแล้วพยักหน้าเดินไปหยิบกุญแจมาให้
“แม่เพิ่งสังเกตเห็น นั่นหน้าไปโดนอะไรมา” คนเป็นแม่เดินเข้ามาใกล้แล้วจับใบหน้าเรียวเล็กอย่างเป็นห่วง
“เอ่อ พอดีซุ่มซ่ามชนประตูค่ะ แฮร่ๆ” ปลายฟ้าหัวเราะเบาๆ แล้วลูบแผลตัวเองที่ตอนนี้มันกำลังเขียวช้ำเป็นวงกลม
“อ่อ แม่นึกว่าไฟท์มันทำอะไรให้ซะอีก” คนพูดยิ้มเหมือนโล่งใจ
“ทำไมเหรอคะ หรือไฟท์เคยทำร้ายใครมาก่อน” เธอถามอย่างกังวลกลัวว่าจะโดนรุนแรงกว่าที่เจอมา
“ไม่หรอก แค่เวลาใครไปยุ่งด้วยกลัวเขาจะไม่พอใจจนถึงขั้นทำร้าย ถ้าแบบนั้นคงต้องจัดการขั้นเด็ดขาด” คนเป็นแม่นั่งลงแล้วขมวดคิ้วแน่น
“ไม่หรอกค่ะ หนูว่าเขากลับมาเป็นปกติได้ไม่ยาก แค่ต้องมีวิธีเยียวยาจิตใจที่ดี ดูเหมือนเขาจะเกลียดการที่ต้องพาหมอหรือใครมารักษานะคะ เลยปิดกั้นตัวเอง หนูอยากเข้าหาเขาโดยการเป็นเพื่อนมากกว่า” คนพูดยิ้มจนตาหยี จนแม่ของเขาต้องยิ้มตามไปด้วย เธอกำลังมองว่าเด็กคนนี้น่ารักมากๆ
“พยายามเข้านะหนูฟ้า”
“ค่ะ หนูขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบเธอก็โค้งให้ผู้ใหญ่ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปยังห้องเดิม ที่เจ้าของห้องไม่อยากต้อนรับเลยแม้แต่น้อย
เธอใช้กุญแจไขเข้าไปภายในห้องที่ดูมืดเหมือนไม่มีคนอยู่ ถึงแม้จะเป็นเวลากลางวันแต่กลับถูกปิดด้วยม่านรอบด้าน
“เธอนี่มันหน้าด้านจริงๆ รู้ว่าฉันไม่อยากเห็นหน้ายังจะมา” คนที่นอนอยู่พูดขึ้นเมื่อเท้าของเธอก้าวเข้ามาในห้องขอตัวเอง
“อืม ยอมรับว่าฉันหน้าด้าน วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันจะทำงานอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นช่วยให้ความร่วมมือด้วย” เธอเดินเข้าไปเปิดม่านจนแสงจากภายนอกสาดส่องเข้ามา คนที่นอนอยู่ต้องหรี่ตาลงแล้งมองค้อนผู้หญิงตรงหน้า
“ไร้สาระ”
“ไปอาบน้ำแต่งตัวเร็ว” เธอแกล้งไม่สนใจคำพูดอันไรไมตรีของเขาแล้วเปลี่ยนคุยทันที
“มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน”
“หรืออยากเห็นหน้าฉันนานๆ” ปลายฟ้าพูดขึ้นอย่างกวนๆ จนคนที่ฟังต้องถอนหายใจออกมาแล้วยันตัวลุกขึ้น มองเธออย่างรำคาญแต่สุดท้ายก็เดินเข้าห้องน้ำไป
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
ไฟท์เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่เข้าไปอาบน้ำนานเกือบชั่วโมง ที่จริงก็ไม่ได้อาบอะไรเนิ่นนานขนาดนั้นเพิ่งแต่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกรำคาญแล้วหนีออกไปต่างหาก หรือไม่ก็โวยวายจนหัวเสียจะได้รู้ว่าการอยู่กับเขามันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอก
แต่กลับคิดผิด เพราะนอกจากเธอจะไม่เป็นอย่างที่เขาคิดแล้ว ตอนนี้ยังนอนหลับสบายใจอยู่บนเตียงเพราะรอนานเกินไป
“เหอะ” เขาหัวเราะในลำคอแล้วมองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ คนบ้าอะไรไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไป
เขานั่งลงปลายเตียงแล้วเช็ดผมตัวเองที่เปียกหมาดๆ อย่างไม่สนใจ จนกระทั่งผ่านไปครู่ใหญ่คนตัวเล็กที่นอนอยู่ก็รู้สึกตัว ยันตัวขึ้นแล้วขยี้ตามองเขาที่หันมามองด้วยหางตาแล้วหันกลับไปอย่างเย็นชา
“นี่นายยังไม่เสร็จอีกเหรอ จะสองชั่วโมงแล้วนะ” เธอพูดขึ้นงัวเงีย
“รอไม่ได้ก็ไป”
“อืม ฉันรอไม่ได้ แต่ฉันจะไม่ไป” พูดจบก็เอื้อมมือไปจับผ้าขนหนูผืนที่อยู่ในมือของเขาแล้วจัดการเช็ดผมให้ โดยที่อีกคนไม่อนุญาต
“ทำบ้าอะไรของ!” เขาดีดตัวลุกขึ้นแต่ก็ถูกมือเล็กกระชากให้นั่งลงอีกครั้ง
“ขอร้องล่ะ นั่งลงเถอะฉันจะทำให้เพราะฉันรู้ว่านายกำลังถ่วงเวลา” เธอพูดเหมือนรู้ทัน และสุดท้ายเขาก็ยอมนั่งลง
“โกนหนวดนายหน่อยมั้ยตอนนี้หน้านายเหมือนโจรมากเลยนะ”
“เธอชักจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของฉันมากเกินไปแล้วนะ” เขาเอ่ยเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับเอียงตัวหลบฝ่ามือเล็กที่กำลังเช็ดผมให้อย่างตั้งใจ
“ฉันถูกจ้างมาเพื่อยุ่งเรื่องของนายไง” ปลายฟ้าพูดยิ้มๆ แล้วมองใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างกวนๆ จนเขาต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาอย่างรำคาญ
“น่ารำคาญ” เขาพูดเสียงห้วนแล้วเดินออกไปนั่งโซฟา เปิดโทรทัศน์จอใหญ่ที่ติดผนังดูเหมือนพยายามจะเลี่ยงการคุยกับผู้หญิงน่ารำคาญคนนั้น
แต่ไม่นานคนตัวเล็กก็เดินมายืนอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมกับของในมือที่เตรียมพร้อมจะจัดการเองถ้าเขายังดื้อแบบนี้ มาลองดูแล้วกันว่าใครจะดื้อด้านได้มากกว่ากัน เธอเป็นคนที่มีความอดทนสูงพอสมควรเลยนะ
ปลายฟ้าคิดในใจแล้วยืนมองคนที่แหงนหน้ามามองเธอเช่นกัน
“ถ้านายไม่ทำ ฉันจะทำเอง” พูดจบก็จัดการบีบโฟมลงบนฝ่ามือ แล้วใช้มืออีกข้างจับหน้าของอีกคนไว้
“นี่เธอ!” เขาปัดมือของเธอทิ้งพร้อมกับสีหน้าไม่พอใจ
“ขอร้องล่ะ ฉันก็ไม่ได้อยากจะยุ่งกับนายให้นานกว่าหนึ่งเดือนแต่ทุกอย่างที่ฉันทำมันคือสิ่งที่แม่นายต้องการ” เธอพูดเสียงเรียบสีหน้าจริงจังจนครั้งนี้เขายอมให้เธอทำอย่างว่าง่าย ถึงแม่จะไม่เต็มใจนัก
“…” เขาเกือบจะกระชากมือของเธอออกแล้วดึงมันมาจัดการด้วยตัวเองอีกครั้งแต่พอเห็นคนที่กำลังตั้งใจทำอยู่ก็เริ่มคิดอยากกลั่นแกล้งขึ้นมา
“อ๊ะ นี่! ทำอะไรของนายฮ่ะ!” เธอตกใจจนต้องแผดเสียงออกมา เมื่ออยู่ๆ เขาเอื้อมมือมาล็อกเอวบางของเธอเข้าไปหาแล้วกดให้นั่งลงบนตักของตัวเองจนมีดโกนเกือบจะไถลบาดใบหน้า
“อยากทำนักก็ทำสิ” คนพูดยิ้มมุมปากแล้วจ้องมองใบหน้าขอคนที่กำลังทำตัวไม่ถูก พลางคิดในใจว่าจะคอยดูความดื้อของเธอจะเอาชนะเขาได้ถึงไหน
“มันเกือบจะบาดหน้านายแล้วรู้มั้ย!” เธอเลือกที่จะพูดเรื่องที่ร้อนใจมากกว่าจะคิดเขินอายเขาตอนนี้ถึงแม้หัวใจจะเต้นผิดหวะไปแล้วก็ตาม
“ก่อนจะห่วงฉันห่วงตัวเองตอนนี้ก่อนเถอะ” เขายังคงยิ้มอย่างเยือกเย็นมาให้ เหมือนมีความคิดชั่วร้ายอยู่เต็มหัว แขนของเขายังโอบรอบเอวของเธอไว้แน่น จนปลายฟ้ารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
“ถ้างั้น เอ่อ ฉันว่ามันไม่ถนัด นายทำเองมั้ย” มือเล็กเลื่อนลงมาจะยัดมีดโกนนั้นใส่มือของเขาแต่ก็ต้องชะงัก
“ทำให้ฉัน!”
Fight: หึหึ เก่งนักก็ทำต่อสิ