"ขอโทษค่ะ" ฉันรีบยกมือไหว้ขอโทษคนตรงหน้าไปทันที ที่ฉันขอโทษเป็นเพราะฉันผิดแหละที่ดันไปเล่นกับเขามากเกินไป ก็ไม่อยากให้เขาทำหน้านิ่งอยู่แบบนี้ตลอดเวลาไง ไม่คิดว่าเขาจะโหดขนาดนี้ ก็นึกว่าจะใจดีที่ไหนได้โหดเหมือนหน้าตาเลย :(
และฉันก็เงียบแล้วก็นั่งนิ่งๆมาตลอดทางก่อนจะมองไปข้างๆกระจกรถ ที่สามารถมองเห็นวิวของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
"ทำไมประเทศไทยถึงวุ่นวายแบบนี้นะ" ฉันบ่นพึมพำออกมาคนเดียว ก็ดูสิรถก็เยอะแถมบางคนขับรถไม่ดูกันอีกถ้าเกิดอุบัติเหตุมาทำไงเนี่ย
"กลับฟินแลนด์ไปซะ" และเสียงหนึ่งของคนที่นั่งอยู่ข้างๆก็ดังขึ้น ทำให้ฉันหันไปมองด้วยใบหน้าไม่ค่อยพอใจ ฉันอุตส่าห์เงียบไม่คุยด้วยยังจะมาคุยด้วยอีกแถมตอนฉันหันไปมองเขาก็ไม่สนใจฉันแต่กลับมองไปข้างหน้าอย่างเดียว ให้มันได้อย่างนี้สิ!
นี่น่ะเหรอคนที่คุณแม่ส่งมาดูแลฉันแล้วฉันต้องเชื่อฟังคนนี้นะเหรอ ถ้าไม่เชื่อฟังแล้วตาบ้าหน้านิ่งขี้เก๊กคนนี้ไปฟ้องคุณแม่ คุณแม่ต้องมารับฉันกลับฟินแลนด์แน่ๆเลย ฮือออ มิวนิคคนนี้จะทำยังไงดี ฉันต้องฟังคำสั่งและอยู่ภายใต้การดูแลของตาบ้าหน้านิ่งขี้เก๊กคนนี้จริงๆสินะ T-T
.
.
@คอนโดมิวนิค
และแล้วรถก็เคลื่อนตัวมาจอดอยู่ที่คอนโดของฉันที่คุณพ่อเป็นคนจัดการซื้อให้ มันสะดวกสบายมากเลยนะใกล้มหาลัยด้วย ขับรถไปไม่น่าจะถึงสิบห้านาทีถ้ารถไม่ติดนะ อันนี้ฉันไม่รู้แต่คุณพ่อเป็นคนบอกมา
"ขอบคุณที่มาส่งค่ะ" ฉันยกมือไหว้เขาก่อนจะเดินลงจากรถ แต่..
หมับ! อยู่ๆเขาก็มาจับแขนฉันไว้ทำให้ฉันมองหน้าเขานิ่งๆด้วยใบหน้างุนงงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะปล่อยมือออกจากแขนของฉันแล้วเดินลงรถไป ส่วนฉันก็มองตามไปแบบงุนงงก่อนจะเจอสายตาของเขาทำให้ฉันต้องรีบเดินตามลงไป แล้วผู้ชายคนหนึ่งที่มากับเขาก็เดินไปหยิบเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ลงมาให้ฉัน
"ขอบคุณนะคะ" ฉันเดินเข้าไปหาผู้ชายคนนั้นก่อนจะยื่นมือไปหยิบกระเป๋าจากมือของเขามา
"ผมถือให้ครับ"
"ขอบคุณค่ะ" ฉันขอบคุณออกไปอีกครั้งก่อนจะหันไปมองหน้าอีกคนที่กำลังมองหน้าฉันอยู่พร้อมหยิบของบางอย่างในกระเป๋าออกมาให้ฉัน
"อะไรคะ?" ฉันทำหน้างุนงงใส่เขาเพราะอยู่ๆเขาก็ยื่นอะไรบางอย่างมาให้ฉัน แต่พอมองดูดีๆน่าจะเป็นคีย์การ์ดนะ แต่มันคือคีย์การ์ดห้องฉันเหรอ? แล้วไปอยู่ในมือของเขาได้ยังไง ฉันต้องไปติดต่อขอกับพนักงานคอนโดไม่ใช่เหรอ หรือเขาไปติดต่อขอมาแล้ว?
"คีย์การ์ดห้องเธอ ส่วนอีกอันอยู่กับฉัน"
"แล้วทำไมต้องอยู่กับ..." ฉันเม้มริมฝีปากแน่นเข้าหากันเพราะฉันไม่รู้จะเรียกคนตรงหน้าว่าอะไรดี
"อะไร?" เขาเลิกคิ้วถามฉันพร้อมยัดคีย์การ์ดในมือของเขาใส่มือของฉันอย่างแรง เอาให้เบาๆก็ไม่ได้รุนแรงจัง :(
แต่เขายังไม่ได้ฟังสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดเลย เขาก็เดินนำหน้าฉันเข้าไปในคอนโดเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ฉันต้องวิ่งตามเขาเข้าไป
"จะให้มิวเรียกว่าอะไรคะ นาย? คุณ? พี่? หรือว่า..." เขาหยุดชะงักก่อนจะหันมามองหน้าฉันด้วยสายตานิ่งเรียบ ทำให้ฉันมองหน้าเขาก่อนจะยิ้มออกมาอย่างนึกสนุก "...แด๊ดดี้ หรือ ป๊ะป๋าดีคะ?"
"คิดว่าเรียกอะไรแล้วเธอจะมีชีวิตรอดก็เรียกอันนั้น!"
"แด๊ดดี้..." ฉันยิ้มกริ่มออกไปอย่างนึกตลกโดยไม่ได้สนใจใบหน้านิ่งเรียบของคนตรงหน้าเลย แต่พอเขาเงียบมองหน้าฉันนิ่งๆมันก็รู้สึกเสียวๆเหมือนกันนะ
"ถ้ายังไม่รู้จักฉันดี อย่ามาลองดี"
อึก! ฉันกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอเมื่อเจอสายตาอันแหลมคมของเขาก่อนที่ฉันจะค่อยๆพูดออกไป
"งะ..งั้นมิวเรียกว่าพี่นะคะ"
"เรื่องของเธอ" เขาตอบแค่นั้นก่อนจะเดินต่อทำให้ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเดินตามหลังของเขาไปและไปหยุดอยู่ตรงหน้าลิฟต์โดยมีผู้ชายที่เดินตามหลังจำนวนสองคน ก็มีคนหนึ่งที่เดินไปกดลิฟต์แต่ฉันยังไม่หายสงสัยนะว่าพี่มาร์คัสเป็นใคร ทำไมต้องมีคนเดินตามหลัง และผู้ชายพวกนั้นดูเคารพพี่มาร์คัสมาก
ติ๊ง~ เสียงลิฟต์เปิดออกก่อนที่พี่มาร์คัสจะเดินเข้าไปและฉันก็เดินตามเข้าไปโดยมีผู้ชายที่ถือกระเป๋าคนนั้นเดินตามเข้ามา แต่อีกคนกลับไม่เดินตามเข้ามาแต่กลับยืนนิ่งๆ
"เขาไม่ไปกับเราเหรอคะ?" ฉันเงยหน้าขึ้นถามพี่มาร์คัสที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าที่สงสัยแต่เขาก็ก้มลงมองหน้าฉันแวบหนึ่งแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา และลิฟต์ก็ปิดลงจากนั้นฉันก็เงียบและยืนตัวเกร็งมาตลอดจนกระทั่ง..
ติ๊ง~ เสียงลิฟต์เปิดออกที่ชั้นยี่สิบสองทำให้พี่มาร์คัสเดินออกมาฉันจึงเดินตามออกมาติดๆโดยมีผู้ชายคนที่ถือกระเป๋าเดินตามมาอีกทีก่อนที่ฉันจะหยุดชะงัก
"พี่ชื่ออะไรเหรอคะ?" ฉันหมุนตัวกลับไปมองหน้าผู้ชายคนที่ถือกระเป๋า เขาคือผู้ชายคนที่ไปเรียกฉันที่อยู่สนามบินนั่นแหละ
"ไทม์" เขาตอบออกมานิ่งๆ นี่จะเหมือนพี่มาร์คัสไปแล้วนะ แต่เขาเป็นใครน้องพี่มาร์คัสเหรอหน้าตาไม่เหมือนนะ แต่หล่อเหมือนกัน
"พี่ไทม์เป็นน้องพี่มาร์คัสเหรอคะ?" ฉันถามคนตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่งุนงง
"ใครใช้ให้เธอเรียกมันว่าพี่" และเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของฉัน ทำให้ฉันหมุนตัวกลับไปมองก็เจอพี่มาร์คัสยืนมองอยู่ แต่ทำไมพี่มาร์คัสเรียกพี่ไทม์แบบนั้น สงสัยคงไม่ใช่พี่น้องกันหรอก
"ก็พี่ไทม์น่าจะอายุมากกว่ามิว มิวเรียกผิดตรงไหนคะ?" ฉันมองหน้าพี่มาร์คัสด้วยใบหน้าที่งุนงง
"คุณมิวนิคเรียกผมว่าไทม์ไม่ก็นายเฉยๆก็ได้ครับ" ฉันหันขวับไปมองหน้าพี่ไทม์ทันที
"แต่พี่..."
"จะทำตามที่มันบอกหรือกลับฟินแลนด์" เสียงของพี่มาร์คัสพูดขึ้น ฉันจึงหันหน้ามามองหน้าพี่มาร์คัสก่อนจะหันไปมองหน้าไทม์
"ก็ได้ค่ะ มิวจะเรียกว่าไทม์เฉยๆ" :(
"แทนตัวเองว่าฉันกับผมก็ได้" ไทม์พูดขึ้นอีกครั้งด้วยใบหน้านิ่งเรียบ
"แต่..."
"อย่าให้ฉันต้องรายงานกับแม่ของเธอ"
กึก! ฉันยังพูดไม่ทันจบเสียงของพี่มาร์คัสก็พูดขึ้น บอกเลยถ้าพี่มาร์คัสไปบอกคุณแม่จริงๆนะ ฉันโดนลากกลับฟินแลนด์ตอนนี้แน่ๆ เพราะฉันอธิบายอะไรออกไปคุณแม่ก็ไม่เชื่ออยู่ดี แต่ถ้าพี่มาร์คัสพูดคำเดียวคุณแม่เชื่อแน่นอน
"..ค่ะ" และฉันก็ต้องยอมไปตามระเบียบก่อนที่พี่มาร์คัสจะเดินไปที่หน้าห้องแห่งหนึ่งแล้วแตะคีย์การ์ดอีกอันที่อยู่ในมือของเขาเข้าไป ซึ่งคิดว่ามันน่าจะเป็นห้องของฉันนั่นแหละ