02 P’Marcus

1333 คำ
"ขอโทษค่ะ" ฉันรีบยกมือไหว้ขอโทษคนตรงหน้าไปทันที ที่ฉันขอโทษเป็นเพราะฉันผิดแหละที่ดันไปเล่นกับเขามากเกินไป ก็ไม่อยากให้เขาทำหน้านิ่งอยู่แบบนี้ตลอดเวลาไง ไม่คิดว่าเขาจะโหดขนาดนี้ ก็นึกว่าจะใจดีที่ไหนได้โหดเหมือนหน้าตาเลย :( และฉันก็เงียบแล้วก็นั่งนิ่งๆมาตลอดทางก่อนจะมองไปข้างๆกระจกรถ ที่สามารถมองเห็นวิวของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี "ทำไมประเทศไทยถึงวุ่นวายแบบนี้นะ" ฉันบ่นพึมพำออกมาคนเดียว ก็ดูสิรถก็เยอะแถมบางคนขับรถไม่ดูกันอีกถ้าเกิดอุบัติเหตุมาทำไงเนี่ย "กลับฟินแลนด์ไปซะ" และเสียงหนึ่งของคนที่นั่งอยู่ข้างๆก็ดังขึ้น ทำให้ฉันหันไปมองด้วยใบหน้าไม่ค่อยพอใจ ฉันอุตส่าห์เงียบไม่คุยด้วยยังจะมาคุยด้วยอีกแถมตอนฉันหันไปมองเขาก็ไม่สนใจฉันแต่กลับมองไปข้างหน้าอย่างเดียว ให้มันได้อย่างนี้สิ! นี่น่ะเหรอคนที่คุณแม่ส่งมาดูแลฉันแล้วฉันต้องเชื่อฟังคนนี้นะเหรอ ถ้าไม่เชื่อฟังแล้วตาบ้าหน้านิ่งขี้เก๊กคนนี้ไปฟ้องคุณแม่ คุณแม่ต้องมารับฉันกลับฟินแลนด์แน่ๆเลย ฮือออ มิวนิคคนนี้จะทำยังไงดี ฉันต้องฟังคำสั่งและอยู่ภายใต้การดูแลของตาบ้าหน้านิ่งขี้เก๊กคนนี้จริงๆสินะ T-T . . @คอนโดมิวนิค และแล้วรถก็เคลื่อนตัวมาจอดอยู่ที่คอนโดของฉันที่คุณพ่อเป็นคนจัดการซื้อให้ มันสะดวกสบายมากเลยนะใกล้มหาลัยด้วย ขับรถไปไม่น่าจะถึงสิบห้านาทีถ้ารถไม่ติดนะ อันนี้ฉันไม่รู้แต่คุณพ่อเป็นคนบอกมา "ขอบคุณที่มาส่งค่ะ" ฉันยกมือไหว้เขาก่อนจะเดินลงจากรถ แต่.. หมับ! อยู่ๆเขาก็มาจับแขนฉันไว้ทำให้ฉันมองหน้าเขานิ่งๆด้วยใบหน้างุนงงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะปล่อยมือออกจากแขนของฉันแล้วเดินลงรถไป ส่วนฉันก็มองตามไปแบบงุนงงก่อนจะเจอสายตาของเขาทำให้ฉันต้องรีบเดินตามลงไป แล้วผู้ชายคนหนึ่งที่มากับเขาก็เดินไปหยิบเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ลงมาให้ฉัน "ขอบคุณนะคะ" ฉันเดินเข้าไปหาผู้ชายคนนั้นก่อนจะยื่นมือไปหยิบกระเป๋าจากมือของเขามา "ผมถือให้ครับ" "ขอบคุณค่ะ" ฉันขอบคุณออกไปอีกครั้งก่อนจะหันไปมองหน้าอีกคนที่กำลังมองหน้าฉันอยู่พร้อมหยิบของบางอย่างในกระเป๋าออกมาให้ฉัน "อะไรคะ?" ฉันทำหน้างุนงงใส่เขาเพราะอยู่ๆเขาก็ยื่นอะไรบางอย่างมาให้ฉัน แต่พอมองดูดีๆน่าจะเป็นคีย์การ์ดนะ แต่มันคือคีย์การ์ดห้องฉันเหรอ? แล้วไปอยู่ในมือของเขาได้ยังไง ฉันต้องไปติดต่อขอกับพนักงานคอนโดไม่ใช่เหรอ หรือเขาไปติดต่อขอมาแล้ว? "คีย์การ์ดห้องเธอ ส่วนอีกอันอยู่กับฉัน" "แล้วทำไมต้องอยู่กับ..." ฉันเม้มริมฝีปากแน่นเข้าหากันเพราะฉันไม่รู้จะเรียกคนตรงหน้าว่าอะไรดี "อะไร?" เขาเลิกคิ้วถามฉันพร้อมยัดคีย์การ์ดในมือของเขาใส่มือของฉันอย่างแรง เอาให้เบาๆก็ไม่ได้รุนแรงจัง :( แต่เขายังไม่ได้ฟังสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดเลย เขาก็เดินนำหน้าฉันเข้าไปในคอนโดเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ฉันต้องวิ่งตามเขาเข้าไป "จะให้มิวเรียกว่าอะไรคะ นาย? คุณ? พี่? หรือว่า..." เขาหยุดชะงักก่อนจะหันมามองหน้าฉันด้วยสายตานิ่งเรียบ ทำให้ฉันมองหน้าเขาก่อนจะยิ้มออกมาอย่างนึกสนุก "...แด๊ดดี้ หรือ ป๊ะป๋าดีคะ?" "คิดว่าเรียกอะไรแล้วเธอจะมีชีวิตรอดก็เรียกอันนั้น!" "แด๊ดดี้..." ฉันยิ้มกริ่มออกไปอย่างนึกตลกโดยไม่ได้สนใจใบหน้านิ่งเรียบของคนตรงหน้าเลย แต่พอเขาเงียบมองหน้าฉันนิ่งๆมันก็รู้สึกเสียวๆเหมือนกันนะ "ถ้ายังไม่รู้จักฉันดี อย่ามาลองดี" อึก! ฉันกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอเมื่อเจอสายตาอันแหลมคมของเขาก่อนที่ฉันจะค่อยๆพูดออกไป "งะ..งั้นมิวเรียกว่าพี่นะคะ" "เรื่องของเธอ" เขาตอบแค่นั้นก่อนจะเดินต่อทำให้ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเดินตามหลังของเขาไปและไปหยุดอยู่ตรงหน้าลิฟต์โดยมีผู้ชายที่เดินตามหลังจำนวนสองคน ก็มีคนหนึ่งที่เดินไปกดลิฟต์แต่ฉันยังไม่หายสงสัยนะว่าพี่มาร์คัสเป็นใคร ทำไมต้องมีคนเดินตามหลัง และผู้ชายพวกนั้นดูเคารพพี่มาร์คัสมาก ติ๊ง~ เสียงลิฟต์เปิดออกก่อนที่พี่มาร์คัสจะเดินเข้าไปและฉันก็เดินตามเข้าไปโดยมีผู้ชายที่ถือกระเป๋าคนนั้นเดินตามเข้ามา แต่อีกคนกลับไม่เดินตามเข้ามาแต่กลับยืนนิ่งๆ "เขาไม่ไปกับเราเหรอคะ?" ฉันเงยหน้าขึ้นถามพี่มาร์คัสที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าที่สงสัยแต่เขาก็ก้มลงมองหน้าฉันแวบหนึ่งแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา และลิฟต์ก็ปิดลงจากนั้นฉันก็เงียบและยืนตัวเกร็งมาตลอดจนกระทั่ง.. ติ๊ง~ เสียงลิฟต์เปิดออกที่ชั้นยี่สิบสองทำให้พี่มาร์คัสเดินออกมาฉันจึงเดินตามออกมาติดๆโดยมีผู้ชายคนที่ถือกระเป๋าเดินตามมาอีกทีก่อนที่ฉันจะหยุดชะงัก "พี่ชื่ออะไรเหรอคะ?" ฉันหมุนตัวกลับไปมองหน้าผู้ชายคนที่ถือกระเป๋า เขาคือผู้ชายคนที่ไปเรียกฉันที่อยู่สนามบินนั่นแหละ "ไทม์" เขาตอบออกมานิ่งๆ นี่จะเหมือนพี่มาร์คัสไปแล้วนะ แต่เขาเป็นใครน้องพี่มาร์คัสเหรอหน้าตาไม่เหมือนนะ แต่หล่อเหมือนกัน "พี่ไทม์เป็นน้องพี่มาร์คัสเหรอคะ?" ฉันถามคนตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่งุนงง "ใครใช้ให้เธอเรียกมันว่าพี่" และเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของฉัน ทำให้ฉันหมุนตัวกลับไปมองก็เจอพี่มาร์คัสยืนมองอยู่ แต่ทำไมพี่มาร์คัสเรียกพี่ไทม์แบบนั้น สงสัยคงไม่ใช่พี่น้องกันหรอก "ก็พี่ไทม์น่าจะอายุมากกว่ามิว มิวเรียกผิดตรงไหนคะ?" ฉันมองหน้าพี่มาร์คัสด้วยใบหน้าที่งุนงง "คุณมิวนิคเรียกผมว่าไทม์ไม่ก็นายเฉยๆก็ได้ครับ" ฉันหันขวับไปมองหน้าพี่ไทม์ทันที "แต่พี่..." "จะทำตามที่มันบอกหรือกลับฟินแลนด์" เสียงของพี่มาร์คัสพูดขึ้น ฉันจึงหันหน้ามามองหน้าพี่มาร์คัสก่อนจะหันไปมองหน้าไทม์ "ก็ได้ค่ะ มิวจะเรียกว่าไทม์เฉยๆ" :( "แทนตัวเองว่าฉันกับผมก็ได้" ไทม์พูดขึ้นอีกครั้งด้วยใบหน้านิ่งเรียบ "แต่..." "อย่าให้ฉันต้องรายงานกับแม่ของเธอ" กึก! ฉันยังพูดไม่ทันจบเสียงของพี่มาร์คัสก็พูดขึ้น บอกเลยถ้าพี่มาร์คัสไปบอกคุณแม่จริงๆนะ ฉันโดนลากกลับฟินแลนด์ตอนนี้แน่ๆ เพราะฉันอธิบายอะไรออกไปคุณแม่ก็ไม่เชื่ออยู่ดี แต่ถ้าพี่มาร์คัสพูดคำเดียวคุณแม่เชื่อแน่นอน "..ค่ะ" และฉันก็ต้องยอมไปตามระเบียบก่อนที่พี่มาร์คัสจะเดินไปที่หน้าห้องแห่งหนึ่งแล้วแตะคีย์การ์ดอีกอันที่อยู่ในมือของเขาเข้าไป ซึ่งคิดว่ามันน่าจะเป็นห้องของฉันนั่นแหละ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม