ภายในเพนเฮาส์กว้างขวางโอ่อ่า แต่บรรยากาศกลับอึมครึมเพราะเจ้าของห้องที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนโซฟาตัวยาว
“ทำไมแม่ไม่โทรบอกพรูฟก่อนครับว่าจะมา” พรูฟพูดกับคนเป็นแม่อย่างไม่สบอารมณ์ที่ถูกปลุกแต่เช้า นิสัยคนตื่นสายประจำจนไม่เคยลงเรียนก่อนเก้าโมงเช้าเลยสักตัว
ยิ่งเช้าวันหยุดไม่ต้องพูดถึง กลางคืนกว่าเขาจะนอนก็เกือบสว่าง
“อะไร แม่มาหาทำหน้าต้อนรับแม่แบบนี้หรอ” คุณไปรญาว่าให้ลูกชายที่อยู่ในสภาพหลับตาคุยกับเธอ
“แม่มีอะไรครับ” เมื่อหงุดหงิดก็ไร้ประโยชน์ รีบคุยรีบไปนอนต่อคงจะดีกว่า
“ถ้าจะให้แม่พูดก็ลืมตามาคุยกับแม่ดีๆ” ได้แต่ส่ายหัวกับท่าทางของลูกชายอย่างเหนื่อยใจ
แต่จะโทษใครได้ เธอนั่นแหละที่เลี้ยงลูกอย่างตามใจมาตลอด พอยิ่งโตก็ยิ่งคุยกันยาก พอต้องมาเจอฤทธิ์ด้วยตัวเองถึงรู้ตัว่ากลายเป็นพ่อแม่รังแกฉันไปแล้ว
“ครับ” ลืมตาขึ้นมามองคนเป็นแม่แล้วขานรับเป็นอันว่าพร้อมฟัง
“นี่น้องเม พรูฟจำน้องได้ไหม” คุณไปรญาไม่รอช้าแนะนำหญิงสาวข้างกายให้ลูกชายทันที
“ไม่ครับ” ไม่เสียเวลาคิด แค่ปรายตามองก็ส่ายหัวปฏิเสธทันควัน
แต่ชีวิตนี้เขามั่นใจว่าไม่เคยรู้จักกับผู้หญิงรูปร่างหน้าตาแบบนี้เป็นแน่
“น้องเมเป็นลูกสาวของเพื่อนที่ดีที่สุดของแม่ ตอนเด็กๆ พรูฟกับน้องสนิทกันมากเลยนะ” รื้อฟื้นความทรงจำในวัยเยาว์ให้ลูกชาย
“ก็แค่อดีตครับ” อดีตตอนไหนก็ไม่รู้ ไม่เห็นเคยจำได้ว่าสนิทกับเด็กที่ไหนที่หน้าตาแบบนี้มาก่อน
“แม่จะให้น้องมาอยู่กับเราที่นี่” เมื่อเห็นท่าทางไม่แยแสของลูกชายก็เข้าประเด็นทันที
“ห๊ะ!” คนฟังจากที่ตื่นไม่เต็มตาและนั่งอึนมาสักพัก ครั้งนี้เรียกว่าสติเต็มร้อยทันที “แม่หมายความว่ายังไงครับ!”
อะไรคือจะให้ยัยเฉิ่มนี่มาอยู่กับเขา อะไรคือจะเอาคนอื่นมาอาศัยในคอนโดของเขาโดยไม่บอกล่วงหน้า
“ถ้าพรูฟจำได้ แม่เคยบอกลูกแล้วว่าแม่อยากได้หนูเมเป็นสะใภ้” เธอเคยพูดกับลูกชายมานานแล้ว พูดตั้งแต่ทั้งสองยังเด็ก จนลูกชายเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นเธอก็เคยพูด
“เรื่องสมัยไหนพรูฟจำไม่ได้หรอก” จำได้สิ จำได้ว่าแม่มักพูดกับเขาเสมอ ‘ตอนนี้ลูกอยากคบกับใครแม่ไม่ว่า แต่ลูกสะใภ้ในอนาคตแม่มีในใจแล้วนะ’
แต่ถ้าลูกสะใภ้ในอนาคตที่แม่หมายถึงคือผู้หญิงที่นั่งข้างแม่ๆล่ะก็ ให้ตายเขายอมเป็นโสดตลอดชีวิต
“ถ้าแม่คิดจะหาเมียให้พรูฟควรหาผู้หญิงครับ ไม่ใช่...” ละไว้ในฐานที่เข้าใจดีกว่า พูดพร้อมกับมองเธอด้วยสายตาที่ไม่ต้องอธิบายอะไรเลยสักนิด
“อย่าเสียมารยาทกับน้องแบบนี้นะพรูฟ!” เมื่อเห็นสายตาและน้ำเสียงก็อดตำหนิลูกชายไม่ได้จริงๆ “อย่ามองคนแค่ภายนอก”
“พรูฟคงทะลวงไปมองภายในไม่ได้หรอกครับ” ให้ตายก็ไม่คิดจะมองด้วย “แล้วแม่ก็พาเธอกลับไปเลยครับ ขืนให้อยู่ที่นี่มีหวังผมได้เสียมารยาทกับเธอทุกวันแน่”
นี่ไม่ใช่คำเตือน แต่เขาคงได้ทำแบบนั้นจริงๆ แน่หากมีคนแบบนี้มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน
“แม่ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก” เมื่อเห็นท่าทีของลูกชายแบบที่คิดไว้ก็ไม่ได้เร่งรัด เปลี่ยนประเด็นขึ้นแทน “ตอนนี้น้องตัวคนเดียว แม่อยากให้น้องมีคนดูแล และคนที่เหมาะสมก็คือพรูฟ”
นี่คือจุดประสงค์ที่จะต่อยอดผลพลอยได้ของเธอในอนาคต เด็กสาวผู้น่าสงสารที่สูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ยังต้องอาภัพอีกครั้งเมื่อปีที่แล้วต้องสูญเสียแม่บังเกิดเกล้าไปอีกคน
แม้ว่าฐานะทางการเงินเด็กสาวจะไม่ลำบาก แต่เด็กสาวตัวคนเดียวยังไงก็ควรมีคนดูแล เธอที่เคยเอ่ยปากเรื่องจองตัวและอยากให้ดองกับเพื่อนรักในวันวาน จึงใช้โอกาสนี้สานต่อเจตนารมณ์ ให้ลูกๆ ได้ใกล้ชิดและทำความสนิทสนมกันอีกครั้ง
“พรูฟเนี่ยนะ!?” นี่แม่เป็นแม่เขาจริงหรือเปล่าถึงบอกว่าเขาเหมาะสมจะดูแลใคร “คนอย่างพรูฟจะดูใครได้ครับ”
แค่ดูแลตัวเองยังไม่ทำเลย ที่สำคัญกว่านั้นให้ดูแลผู้หญิงที่โคตรไม่มีอะไรเฉียดเข้าใกล้คำว่าดูดีในสายตาเขา ไม่มีทาง!
“อีกอย่างเธอก็ไม่ใช่เด็กสามสี่ขวบสักหน่อย ควรจะดูแลตัวเองนะครับ” ดูไปแล้วก็รุ่นราวคราวเดียวกับเขา แต่ก็จำไม่ได้จริงๆ ว่าลูกคนไหนของเพื่อนแม่ ในความทรงจำที่เคยเล่นและสนิทกับลูกๆ เพื่อนแม่ก็มีแต่เด็กน่ารักๆ
ไม่เคยมีใครที่สภาพแบบเธอ
“อย่าใจแคบนักเลยพรูฟ ห้องก็ตั้งกว้างขวาง จะให้น้องอยู่ด้วยสักคนจะเป็นไรไป”
“พรูฟไม่สะดวก นี่มันพื้นที่ส่วนตัว”
“แต่นี่คือคำขอร้องของแม่” คำขอร้องที่ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงติดไปทางแข็งเล็กน้อยจนกลายเป็นคำสั่ง
“ถ้าแม่เป็นห่วงก็ซื้อคอนโดให้เธอสักหลังสิครับ เอาที่ที่ระบบความปลอดภัยดีๆ” เสนอทางออกให้แม่แทนการให้เธออยู่ที่นี่
“ถ้าแบบนั้นจะเรียกว่ามีคนดูแลได้ยังไง” ว่าให้ลูกชายอย่างไม่สบอารมณ์ “เลือกเอาว่าจะให้น้องอยู่ที่นี่ด้วยอีกคน หรือจะให้แม่หักเงินเดือนของเรา”
“แม่!” โอดครวญออกมาอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมเลยสักนิด มันไมได้เกี่ยอวะไรกับเขาเลย แล้วทำไมเขาต้องลำบากเพราะผู้หญิงเฉิ่มเฉยแบบนี้ด้วย
“เมื่อก่อนพรูฟสนิทกับน้องมาก หวงน้องจะตายไป โตมาจะหมางเมินน้องที่ตัวคนเดียวจริงๆ หรอ” รำลึกความหลังให้ลูกชายได้ฟัง “อย่าใจร้ายกับน้องนักเลย คนกันเองทั้งนั้น”
“แต่นั่นมันอดีต พรูฟจำไม่ได้หรอกครับ”
“จำไม่ได้ก็เริ่มใหม่” แย้งลูกชายขึ้นอย่างไม่ยอม “ไม่รู้แหละ ถ้าลูกไม่ช่วยดูแลน้อง อย่าว่าแม่ใจร้ายก็แล้วกัน”
มือใหญ่ยกขึ้นลูบหน้าตัวเองอย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน อยู่ๆ ก็ต้องรับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ให้มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน ถ้าสวยเขาไม่ว่า แต่นี่มันเสียบรรยากาศชีวิตเขาเกินไป