ภูริชปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงการบริหารงานใหม่หมดทุกอย่าง วางระบบกล้องวงจรปิดไว้ทุกมุมตามที่เขาวางแผนไว้ ก่อนจะเข้ามานั่งดูเอกสารในห้องทำงานต่อจนผู้จัดการเข้ามาทำงาน
ชายหนุ่มละสายตาจากกองเอกสารตรงหน้าที่เขาไม่ถนัดสักนิดเดียว เงยหน้ามองผู้จัดการหนุ่มที่นั่งรอตอบคำถามที่เขาสงสัยเป็นระยะ
“แฟ้มพวกนี้เดี๋ยวผมดูต่อเอง ถ้าสงสัยอะไรจะถามคุณอีกครั้งก็แล้วกันจะได้ไม่เสียเวลาทำงานของคุณ ช่วยตามเชฟมาพบผมด้วยนะครับ อยากคุยไปทีเดียวพร้อมกันเลย”
“ครับ เดี๋ยวผมให้เด็กไปตามให้นะ” ว่าแล้วผู้จัดการก็หันไปสั่งเด็กทันที
“ก้อง ก้อง นายช่วยไปตามเชฟคีตะมาพบคุณภูริชที่ห้องทำงานด้วยนะ”
“ครับ” เด็กหนุ่มรับคำก่อนที่จะเดินไปในส่วนของห้องครัว คล้อยหลังเด็กหนุ่มผู้จัดการก็หันกลับมาถามคนที่เป็นผู้บริหารงานร้านคนใหม่อีกครั้ง
“คุณภูริชต้องการอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่าครับ”
“พอแล้วครับ คุณไปจัดการตามที่ผมแจ้งไปก็พอแล้ว ส่วนในห้องทำงานของผมกับเชฟเพลินวานที่บอกไปก่อน ถ้าทำได้คุณช่วยเพิ่มห้องน้ำและเปลี่ยนโซฟาเบทตัวใหม่แทนตัวเดิมที่เก่ามากแล้ว จัดห้องให้ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้นก็พอ พี่สาวผมกำชับนักหนา… ว่าต้องดูแลเชฟคนนี้อย่างดี เพราะเธอก็คือหนึ่งในหุ้นส่วนของที่นี่ แล้วโต๊ะทำงานของผมก็ไม่ต้องใหญ่มาก ผมคงไม่ได้มานั่งทำงานที่นี่สักเท่าไร มีแค่ช่วงนี้ที่ผมว่างก่อนที่จะไปเริ่มทำงานใหม่เดือนหน้า ผมคงต้องเข้ามาจัดการทุกอย่างให้ลงตัวและเข้าที่เสียก่อน” ผู้บริหารร้านคนใหม่สั่งยาว
“ครับ ผมจะรีบจัดการให้ ผมขอไปดูแลงานก่อน คุณดูเอกสารพวกนี้ไปก่อนถ้าสงสัยตรงไหนก็ถามผมได้เลย”
“ครับ อย่างนั้นก็ได้ อ้อ… ทุกอย่างที่ผมแจ้งไป ผมขอด่วนที่สุดนะ อยากให้ทุกอย่างเสร็จให้ทันก่อนสิ้นเดือน เพราะตอนนั้นผมคงจะไม่มีเวลาได้เข้ามาดู”
“ครับ” จัดการร้านรับคำอีกครั้งก่อนที่จะเดินเลี่ยงออกไปทำงานอย่างที่เขาบอกไว้
ก๊อก ก๊อก… เสียงเคาะประตูทำให้คนนั่งหันหลังให้ประตู หันกลับมามาตามต้นเสียง
“สวัสดีครับคุณภูริช” คนที่พึ่งเดินเข้ามาใหม่ทักขึ้นมาก่อน พร้อมกับเสียงประตูที่ปิดลง
“เชิญนั่งครับเชฟ ผู้จัดการ...” ชายหนุ่มผายมือเชิญแขกที่เข้ามาในห้องนั่ง แล้วเขาก็เข้าเรื่องทันที
“ที่ผมเรียกคุณสองคนมาพร้อมกันก็เพราะ อยากคุยพร้อมกันทีเดียวเลย ผมจะเข้ามาดูแลร้านชั่วคราวในช่วงนี้ ก่อนอื่นผมต้องออกตัวไว้ก่อน ว่าผมเองก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องอาหาร และการบริหารจัดการร้านอาหาร ผมคงต้องพึ่งพาคุณทั้งสองคนเป็นอย่างมาก... ผมอยากให้คุณสองคนทำทุกอย่างเหมือนที่เคยทำมา ผมจะไม่เข้าไปก้าวก่ายในส่วนงานครัวของเชฟคีตะ ผมยกให้คุณจัดการไปตามความเหมาะสมที่คุณเห็นสมควรนะ”
“และส่วนงานบริหารจัดการผมก็ให้สิทธิขาดกับผู้จัดการวสุธา ผมคงไม่ได้เข้ามานั่งทำงาน แต่ขอรายงานประจำวัน สรุปรายจ่ายวางไว้ที่โต๊ะทำงานของผมหลังร้านปิด แต่ถ้ามีปัญหาอะไรก็แจ้งผมได้ทันทีในอีเมลเดิมของคุณภูริชญาก็แล้วกัน ผมจะเข้ามาตรวจงานและดูบัญชีบ้างเท่านั้น”
“ครับ” ชายหนุ่มสองคนพยักหน้าและรับคำพร้อมกัน
“เชฟคีตะ คุณยังคงทำหน้าที่เชฟเหมือนเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย ต้นเดือนจะมีเชฟใหม่มาอีกหนึ่งคน ที่จริงคงจะไม่ถูกนักถ้าจะบอกว่าเธอเป็นเชฟใหม่ เชฟเพลินวานเป็นหุ้นส่วนของที่นี่ และเคยเป็นเชฟของที่นี่มาก่อน คงจะก่อนที่เชฟคีตะจะเข้ามาทำงานกระมัง งานในครัว… ผมคงต้องให้คุณสองคนตกลงกันเอง แต่ถ้ามีปัญหาอะไรหรือขัดข้องเรื่องอะไร คุณก็แจ้งผมเป็นเรื่องๆ ไป เข้าใจนะ”
“ครับ” เชฟคีตะรับคำ ทั้งที่เกิดคำถามมากมายในใจ แต่ก็ยังดี… ที่ผู้บริหารคนใหม่ไม่เข้ามาก้าวก่ายงานในครัว งานของเขาก็คงจะราบรื่นต่อไป
“อีกอย่างที่ผมอยากจะขอร้องคุณสองคน ผมอยากให้ทุกคนในร้านรับทราบเพียงว่า คุณภูริชญากับคุณมารตียังเป็นผู้บริหารงานของที่นี่เหมือนเดิม เพราะผมแค่มาดูแลในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ในร้าน… ผมอยากให้ทุกคนบริการและให้การต้อนรับผมอย่างลูกค้าทั่วไป เพราะเวลาในเปิดร้าน ผมจะไม่ขึ้นมาทำงาน เข้าใจนะ”
“ครับ” ทั้งสองคนรับคำพร้อมกันอีกครั้ง ทั้งที่ไม่เข้าใจแนวการบริหารงานของชายหนุ่ม แต่ก็ไม่มีใครคัดค้านอะไร
“ถ้าอย่างนั้นคุณสองคนแยกย้ายกันไปทำงานเถอะ อ้อ... ผู้จัดการครับ ผมรบกวนขอแฟ้มรายรับรายจ่ายของร้านหน่อยนะครับ ผมอยากจะศึกษาข้อมูลเอาไว้บ้าง”
“ครับ” ทั้งสองคนรับคำพร้อมกันอีกครั้ง ก่อนที่จะแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง
หลังจากวันนั้น ภูริชก็เข้ามาทำงาน ศึกษาและวางระบบงานอย่างที่เขาบอกไว้ จนทุกอย่างลงตัวตามแบบฉบับการบริหารงานของเขา
ทุกคำสั่งที่เขาถ่ายทอดไปเริ่มเข้ารูปเข้าร่าง จนลงตัวในที่สุด ไม่น่าเชื่อว่ามุมมองการบริหารงานของเขาจะทำให้ผู้จัดการที่ทำงานวงการนี้มานานอดทึ่งไม่ได้ ทุกอย่างที่เขาทำ… ทำให้ผู้จัดการอย่างเขาเองทำงานได้สะดวกมากขึ้นด้วย ทั้งที่ภูริชไม่เคยทำงานในรูปแบบอย่างนี้สักครั้ง
“เป็นไงบ้างวะเพื่อน… กับงานใหม่ของนาย” จู่ๆ นวินก็เดินเข้ามาตบบ่าทักผู้บริหารหนุ่มที่นั่งรอที่โต๊ะ เขาแฝงตัวเข้ามาเป็นลูกค้าในร้านตามปกติ
“นายมาได้อย่างไรนี่ ฉันนึกว่านายไปบินแล้วซะอีก”
เขาเองก็ประหลาดใจไม่น้อยที่เพื่อนมาถึงที่นี่ แล้วยังควงว่าที่คู่หมั้นอย่างหม่อมหลวงการะเกด ถ้าเขามองไม่ผิด อาการของเพื่อนหนุ่มดูจะไม่เต็มใจมาเดทครั้งนี้สักเท่าไร ต่างจากหญิงสาวข้างกายมากนัก
“ยัง… อีกไม่นานเหมือนกัน แล้วนี่… หม่อมหลวงการะเกด”
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ เชิญนั่งก่อนดีกว่าครับ” สองหนุ่มสาวทักขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนที่ผู้บริหารป้ายแดงของร้านไม่กี่วัน จะเชิญแขกนั่งในโซนพิเศษของร้าน
แต่ทันทีที่ย่อตัวลงนั่ง เพื่อนหนุ่มนักบินก็มองหน้าเขาเหมือนต้องการความช่วยเหลือ สายตาแบบนี้มีหรือเพื่อนที่คบกันมาหลายปีจะมองไม่ออก
“ต้องขอประทานโทษนะครับคุณการะเกด คือผมมีเรื่องจะปรึกษาเพื่อนผมนิดหน่อยนะครับ ต้องขออนุญาตและขอตัวเขาสักครู่”
“ค่ะ” สาวสวยปรายตาหวานขึ้นมามอง ตอบกลับมาอย่างมีจริต ดูเผินๆ คงจะเหมือนกุลสตรีไทยแท้อย่างที่คุณหญิงแม่ของเขาชื่นชมนักหนา หลังจากสาวสวยเอยปาก ชายหนุ่มก็เดินตามเพื่อนออกไปทันทีอย่างรู้งาน