Chapter 21 โลกกลมเกินไปไหม

1452 คำ
เช้าวันแรกของการเริ่มต้นเป็นอาจารย์สอนโรงเรียนการบินพลเรือนของภูริช วันแรกที่เขาไม่ได้เข้าไปทำงานที่ร้าน ทว่าวันนี้ก็เป็นวันกลับมาเริ่มงานที่ร้านสกายมูนของเชฟหน้าหวานอย่างเพลินวานเหมือนกัน หลังจากเพลินวานวนหาที่จอดและรถอยู่นาน หญิงสาวดับเครื่องยนต์จอดขวางแนวตามคันอื่นที่จอดอยู่ก่อนหน้า ถึงแม้ว่าชั้นนี้ไม่ใช่ช่องตีเส้นที่จัดไว้ให้จอด แต่ที่ตรงนี้เป็นมุมอับ อีกทั้งเป็นที่จอดรถในส่วนที่ทางร้านเช่าพิเศษให้กับพนักงาน ส่วนมากรถที่มาจอดตรงนี้จะเข้าออกในเวลาไล่เลี่ยกัน คงไม่มีคนอื่นนอกเหนือจากพนักงานมาจอดเป็นแน่ ความรีบร้อนทำให้หญิงสาวไม่ทันมองเห็นรถอีกคันที่จอดอยู่ข้างใน เพลินวานเรียกลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนสุดของตึก ไปที่ร้านตามความคุ้นชินของเธอทันที ตึกคู่แฝดที่อีกฝั่งเป็นโรงแรม ส่วนร้านอาหารอยู่ชั้นบนสุดของตึกที่เป็นห้องชุดสำหรับพักอาศัย อีกทั้งยังเป็นสำนักงานให้เช่า และคุณมารตีใช้เงินเกือบร้อยล้านซื้อตึกนี้ถึงสองชั้นเพื่อทำร้านอาหาร เพราะฉะนั้น… ก็ไม่ต้องห่วงว่าจำนวนคนที่อยู่ที่นี่มากหรือน้อยเพียงไร และไม่ต้องพูดถึงเศรษฐกิจในย่านนี้เลย คนที่เพิ่งตรวจเอกสารเสร็จและเตรียมตัวไปเริ่มงานใหม่วันแรก ถึงแม้ว่าจะเป็นงานสอนที่เขาไม่เคยทำมาก่อน แต่อย่างน้อยเขาก็ได้ใช้ประสบการณ์จากที่ได้ร่ำเรียน และหลายปีที่ทำงานจากหน่วยงานระดับโลกมาถ่ายทอดให้นักเรียนไทย แม้หน้าที่ความรับผิดชอบไม่เหมือนเดิมกับที่เคยทำแต่ก็ยังคงอยู่ในสายงานที่คุ้นเคย ความเร่งรีบของเขาก็ยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดมากเป็นสองเท่า เมื่อมีรถอีกคันจอดขวางหน้ารถเขาอยู่ แต่พอมองมันชัดๆ ก็ยิ่งโมโหหนักมากกว่าเดิม เพราะรถคันนี้เขาจำมันได้แม่นยำฝังใจเลยทีเดียว “เพลินวาน!” เจ้าของ BMW คันหรูสบถฮึ่มในลำคอ ชายหนุ่มเดินวนหา รปภ. จะให้ช่วยเข็นสองรอบก็ไม่เจอ เขาจำต้องออกแรงเข็นรถคันนั้นด้วยตัวเองทั้งชุดทำงานใหม่จนเหงื่อท่วม ยังดีที่วันนี้เจ้าของรถปลดเกียร์ว่างเอาไว้ แต่มันก็เรียกเหงื่อในวันทำงานแรกของเขา ทำให้เขายิ่งจำเจ้าของรถได้แม่นยำขึ้นไปอีก ‘แม่ตัวดี มาทำงานวันแรกก็แสบเลยนะ ไม่เจอตัวยังทิ้งความแสบไว้ให้ดูต่างหน้าอีก ถ้าได้เจอกันทุกวันจะไม่นอนฝันถึงเลยรึ’ เพลินวานกวาดสายตามองรอบร้านสุดหรูที่เธอจากไปหลายปี หลายอย่างถูกเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น โซนการจัดร้านถูกเปลี่ยนไปเป็นหลากหลายบรรยากาศให้ลูกค้าได้เลือกตามความชอบ ทั้งมุมสงบโทนสีส้มดูอบอุ่นสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว อีกทั้งอีกฝั่งเป็นแบบเรียบหรูริมหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ที่สามารถมองเห็นแสงไฟในมุมสูงรอบกรุง ตรงกลางห้องเป็นลานที่เหมาะกับการเลี้ยงสังสรรค์ของกลุ่มเพื่อน หญิงสาวเองอดทึ่งและนึกชื่นชมผู้บริหารคนใหม่ไม่ได้… เพียงไม่กี่ปีที่เข้ามาบริหารต่อจากมารตี หลังจากที่เธอไปเรียนต่อไม่นาน ที่นี่ก็เปลี่ยนไปมาก และดูเหมือนว่ามีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และหลายสิ่งถูกเปลี่ยนไปในเวลาไม่กี่วันที่เธอเดินทางกลับมาจากฝรั่งเศส เพลินวานเดินข้ามประตูกระจกกั้นเข้าไปอีกห้อง ห้องที่เคยเป็นที่แห่งความทรงจำและความสุขของเธอ หลังเลิกเรียนทุกวันเพลินวานต้องกลับมารอคุณมารตีที่ร้าน และมักไปยืนเกาะขอบประตูครัวอ้อนเชฟบริหารอยู่บ่อยครั้ง จนมันกลายเป็นความเคยชินสำหรับเธอไปแล้ว ‘มาเกาะขอบประตูครัวอย่างนี้ อยากอ้อนอะไรอีกละ… หนูเพลิน’ เชฟบริหารหน้าดุมองหน้าสาวน้อย เขาถามเพลินวานด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ‘รู้ใจเพลินจังเลยนะคะ… เชฟ เพลินอยากลองเรียนทำพาสต้าดูบ้าง เชฟช่วยสอนเพลินหน่อยได้ไหมคะ’ สาวน้อยนามเพลินวานออดอ้อนเชฟวัยดึกของสกายมูน ชายสูงวัยร่างสูงใหญ่อ้วนพุงพลุ้ย ทว่าเขากลับเป็นคนที่ใจดีมากที่สุดของเพลินวาน รองลงมาจากคุณมารตี ‘เข้ามาก่อนสิ’ ‘เชฟน่ารักที่สุดในโลกเลยค่ะ… เพลินจะทำให้อร่อยเหมือนอย่างที่เชฟทำให้ทานเลย’ สาวน้อยวัยใสเกาะแขนอ้อนเชฟของร้าน คนถูกอ้อนสีหน้ามีความสุขไม่แพ้กัน สาวน้อยคนนี้มักมาสร้างสีสันและรอยยิ้มในครัวสกายมูนอยู่เสมอ ‘โม้ไปแล้วนะเรา!’ คุณมารตีเอ็ดเพลินวาน แต่คนโดนดุกลับหัวเราะคิกคัก เธอสนใจกระทะตรงหน้ามากกว่า ‘น้ารตีไปรอชิมได้เลยค่ะ… มื้อนี้เพลินจะทำให้สุดฝีมือเลย’ หลังจากวันนั้น เพลินวานก็มาอ้อนเชฟหน้าดุของร้าน เธอเรียนทำอาหารหลากหลายเมนู จนสามารถพัฒนาฝีมือเรื่อยมา มีหลายเมนูที่เชฟยังออกปากชมว่าทำได้ดี บ่อยครั้งที่ในครัวขาดคน เธอเองต้องมาเป็นผู้ช่วยเชฟฝึกหัดจำเป็นเฉพาะกิจ และทุกครั้งก็ได้รับผลการตอบรับกลับมาเป็นอย่างดี เธอยิ้มอย่างเป็นสุขทุกครั้งที่จานอาหารกลับเข้ามาเป็นจานเปล่า และความรู้สึกนี้เกิดขึ้นกับเธอเงียบๆ และเธอก็ตัดสินใจเลือกเรียนในสิ่งที่ใจเธอรัก มันอาจจะขัดกับกรอบครอบครัวของเธอที่วางแผนเอาไว้ แต่มันก็เป็นทางเลือกเดียว ที่เธอคิดว่าเธอเดินไป… แล้วเธอจะมีความสุขที่สุด เพลินวานตัดสินใจเลือกทางเดินให้ตัวเอง… เข้าเรียนสาขาศิลปะการประกอบอาหารและการจัดการภัตตาคาร หลักสูตรนานาชาติ ร่วมกับ เลอ กอร์ดอง เบลอ มหาวิทยาลัยมีชื่อในด้านนี้ที่สุดของเมืองไทย เธอไม่รู้ว่าเริ่มรักการทำอาหารตั้งแต่เมื่อไร แต่พอรู้ตัวอีกครั้ง… การปรุงและการรังสรรค์อาหารแต่ละจานออกมาเป็นสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขที่สุด เธอยังจำเรื่องราวต่างๆ ได้ดี แม้ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนานสักเพียงไหน.... “สวัสดีครับเชฟเพลินวาน มาอยู่ที่นี่เอง ยินดีต้อนรับกลับมาทำงานอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะครับ” เสียงของผู้จัดการทักคนที่เข้ามาทำให้เพลินวานตื่นจากภวังค์ ผู้จัดการคนนี้ถือเป็นคนเก่าแก่เพียงไม่กี่คนที่เธอเห็นว่ายังหลงเหลืออยู่ เขาอยู่เคียงข้างกับมารตีเมื่อครั้งที่เธอยังทำงานอยู่ที่นี่ “สวัสดีค่ะ ผู้จัดการ… ที่นี่เปลี่ยนไปมากเลยนะคะ วันก่อนเพลินมายังไม่ทันได้สังเกต เพลินคิดไม่ถึงเลยว่า… ที่นี่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีมากขึ้นขนาดนี้” เพลินวานทำความเคารพผู้สูงวัยนอบน้อม ยังไล่สายตามองรอบๆ เหมือนเดิม ที่นี่ยังคงเป็นร้านแห่งความทรงจำของเธอเสมอ แม้ว่าเวลาจะผ่านมาเนินนาน “เชฟสบายดีนะครับ ไม่เจอกันนาน ผู้บริหารคนใหม่เป็นเจ้าของตึกและเจ้าของโรงแรมแห่งนี้นะครับ” “ค่ะ เพลินสบายดี… ผู้จัดการเรียกเพลินอย่างเดิมเถอะค่ะ ถึงอย่างไรเพลินก็ยังเป็นเพลินคนเดิม ผู้จัดการเองก็คงสบายดีนะคะ” “อย่างนั้นหนูเพลินก็ต้องเรียกว่าอาเหมือนเดิมสินะ ส่วนสุขภาพ… ก็ตามอัตภาพคนแก่วัยก่อนเกษียณแหละหนูเพลิน” ชายสูงวัยยังเล่าต่อเสียงเรียบ สรรพนามที่เขาเรียกขานกลับมาเป็นหนูเพลินที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็ก “อ้อ! หนูเพลินใช้ห้องทำงานที่ห้องเดิมนะ คุณภู… เอ่อ… คุณพิณให้อาจัดห้องให้หนูใหม่” ผู้จัดการเก่าแก่ของร้านเกือบหลุดคำพูดที่เขารับปากกับภูริชเอาไว้ ยังดีที่เขาแก้คำได้ทัน และเพลินวานเองก็ไม่ได้สงสัยอะไรมาก “แล้วคุณพิณไม่ได้มาเข้ามาที่ร้านหรือคะ เพลินว่า… เพลินขอโต๊ะตัวเล็กๆ เอาไว้จัดการเอกสารก็พอ เวลาส่วนมากของเพลินก็อยู่ในครัวอยู่แล้ว เพลินเกรงใจเจ้าของเขาน่ะค่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม