ตอนที่ 2 กามเทพตัวน้อยแผลงศร (2)

1188 คำ
“ก็ตาหวานอยากให้คุณพ่อกับอากล้วยสนใจตาหวานเยอะๆ นี่คะ” เด็กหญิงมองคุณพ่อทีคุณอาทีตาแป๋ว “โอ๋ คนดีของอา อาขอโทษที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เล่นกับหนู ไว้พรุ่งนี้หลังเลิกเรียนอาพาไปทานไอศกรีมดีมั้ยคะคุณดี” อาสาวเอ่ยหลอกล่อเด็กขี้น้อยใจ “จริงเหรอคะอากล้วย งั้นพรุ่งนี้อากล้วยไปรับตาหวานที่โรงเรียนได้หรือเปล่าคะ” นัยน์ตาดำขลับระยิบระยับอย่างดีใจ ขณะจ้องหน้าอาสาวนิ่ง “ตาหวานลูก ช่วงนี้อากล้วยเรียนหนักกลับบ้านก็ไม่ค่อยตรงเวลา หนูจะให้อากล้วยเหนื่อยนั่งรถไกลๆ ไปรับหนูอีกเหรอลูก” คุณพ่อถามเสียงขรึม เป็นสัญญาณเตือนให้รู้กลายๆ ว่า ห้ามทำนิสัยงี่เง่า งอแง หรือเรียกร้องโดยไม่มีเหตุผลเด็ดขาด “ไม่ค่ะ ตาหวานไม่อยากให้อากล้วยเหนื่อย งั้นตาหวานกลับกับรถรับส่งเหมือนเดิมก็ได้ค่ะ แล้วเดี๋ยวรออากล้วยกลับมาบ้าน ค่อยไปซื้อไอติมที่ร้านป้าบัวหน้าปากซอยก็ได้ค่ะ” “ใครบอกล่ะลูก เดี๋ยวพ่อจะไปรับหนูที่โรงเรียน และแวะไปรับอากล้วย แล้วไปทานไอศกรีมพร้อมกันต่างหาก” อิทธิวัฒน์พูดพลางอมยิ้ม ที่ได้แกล้งให้ลูกสาวนั่งหน้าสลด ก่อนจะเฉลยความจริงให้หนูน้อยได้ยิ้มหน้าระรื่น ตาหวานคงดีใจมากที่รู้ว่าเขาจะไปรับที่โรงเรียน ตั้งแต่ชั้นประถมหนึ่งแล้ว ที่เขาปล่อยให้ลูกขึ้นรถรับส่งไปโรงเรียน เธอคงจะเหงาน่าดูที่ไม่มีพ่อแม่ไปรับส่งเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ แต่ก็ถือเป็นบุญของเขาจริงๆ ที่ตาหวานเป็นเด็กน่ารัก เลี้ยงง่าย มีเหตุผล และไม่เอาแต่ใจ คงจะเหมือนกับภรรยาของเขาที่เสียชีวิตไป นิสัยเหมือนกันอย่างกับแม่กะลูก เอ่อ ก็แม่ลูกกันจริงๆ นี่นา เพราะเหตุนี้เขาถึงไม่คิดจะมีภรรยาใหม่ ตั้งใจเลี้ยงลูกน้อยที่เป็นตัวแทนความรักของทั้งสองอย่างดีที่สุด “งั้นอากล้วยว่าเราไปทานข้าวเย็นกันดีกว่าค่ะ ป่านนี้กับข้าวเย็นหมดแล้วมั้ง เห็นพี่จำเลียงเดินมาชะเง้อมองอยู่นานแล้ว” “ค่ะ ไปค่ะคุณพ่อ อากล้วย” เด็กหญิงรีบลุกจากตักบิดา ก่อนจะเอื้อมมือน้อยไปดึงมือบิดาและอาสาวคนละข้าง ให้เดินไปตามแรงฉุดน้อยๆ นั้น ตรงไปยังห้องครัว… เด็กหญิงชะเง้อคอมองตรงหน้าประตูโรงเรียนด้วยใจจดจ่อ วันนี้เธอดีใจมากจริงๆ ที่คุณพ่อจะมารับไปทานไอศกรีมกับอากล้วย นานแล้วที่เธอกับคุณพ่อและอากล้วยไม่ได้ออกไปข้างนอกด้วยกันเลย เด็กหญิงนั่งมองไปข้างหน้า และหันไปยิ้มให้เพื่อนๆ ที่กำลังทยอยกลับเมื่อผู้ปกครองมารับ เดี๋ยวคุณพ่อก็มาๆ เอ๊ะ ผู้ชายคนนั้นหันรีหันขวางอย่างกับกำลังมองหาอะไรซักอย่าง นั่น! อาพงศ์เพื่อนคุณพ่อนี่นา ไม่รอให้คิดเท้าเล็กรีบวิ่งไปหาร่างสูงทันที “อาพงศ์ขา” เสียงเด็กที่ดังขึ้นด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มรีบหันกลับไปมอง ก่อนจะเปิดยิ้มกว้างอบอุ่น เมื่อเจอคนที่กำลังมองหายืนอยู่ตรงหน้า “ตาหวานอยู่นี่เองเหรอคะ อามองหาตั้งนาน กำลังจะเดินเข้าไปถามคุณครูอยู่พอดีเลย” ชายหนุ่มตอบ ก่อนจะขมวดคิ้วน้อยๆ เมื่อเห็นคนตัวเล็กกางแขนยื่นมาหาเขา ก่อนจะพยักหน้ารับพลางยิ้มกว้างให้กับความน่ารักของเธอ “อาพงศ์อุ้มตาหวาน” อักษิพรยิ้มให้เขาที่ช่วยอุ้มเธอ อย่างน้อยๆ ก็ทดแทนอ้อมแขนอุ่นของคุณพ่อไปได้บ้าง แล้วคุณพ่อไปไหน แล้วทำไมอาพงศ์ถึงมาหาที่นี่ “ตาหวานรอคุณพ่อมารับไปทานไอติมค่ะอาพงศ์ แล้วก็ต้องไปรับอากล้วยที่มหาลัยด้วยค่ะ” “อากล้วยหรือครับ…” ใครกัน ไม่เคยได้ยินชื่อ “อากล้วยเป็นคุณอาของตาหวาน เป็นน้องสาวของคุณพ่อค่ะ” “งั้นอาพงศ์คงต้องพาหนูไปรับอากล้วยแล้วก็ไปทานไอศกรีมด้วยกัน แทนคุณพ่อแล้วล่ะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงนุ่ม ในใจรู้สึกเห็นใจหนูน้อยเหลือเกิน คงอยากให้พ่อเป็นคนพาไปมากกว่าสินะ พี่อิฐก็ช่างมีความรับผิดชอบสูงเสียจริง ทั้งๆ ที่บอกกับลูกไว้แล้วแท้ๆ ว่าจะมารับ พอมีงานด่วนสำคัญเข้ามาก็ไม่ยอมละทิ้งหน้าที่ จึงไหว้วานให้เขามารับลูกและน้องสาวแทน “คุณพ่อติดงานอีกแล้วเหรอคะ ตาหวานอยากให้คุณพ่อไปด้วย ทำไมคุณพ่อต้องงานเยอะด้วยล่ะค่ะ ฮึกๆ ฮือๆ” น้ำตาไหล่อาบดวงหน้าเล็กจนชุ่ม พงศกรกอดปลอบหนูน้อยแน่น ราวกับจะทดแทนให้เธอรู้สึกดั่งได้รับไออุ่นจากบิดา ก่อนจะเอ่ยปลอบประโลมด้วยเสียงทุ้ม “วันนี้คุณพ่อไม่ว่าง ไว้วันหลังก็ยังมีนะคนเก่ง วันนี้ไปกับอาพงศ์ก่อน หรือว่าตาหวานไม่อยากไปกับอา หนูไม่รักอาพงศ์เลยหรือครับ” น้ำเสียงเจือแววน้อยใจแกมตัดพ้อ หลอกเด็กผิดมากไหมนะ แต่วิธีการนี้มันได้ผลดีเกินคาด หนูน้อยรีบพยักหน้าตอบรับทันที “ไปสิคะ ตาหวานอยากไปกับอาพงศ์ค่ะ อาพงศ์พาตาหวานไปรับอากล้วยนะคะ” หมายเลขที่ไม่ปรากฏชื่อโทรเข้ามาสร้างความฉงนให้แก่นวียายิ่งนัก เบอร์ใครกันนะ อยากรู้ก็ต้องลองรับดูสิกล้วยเอ๊ย “สวัสดีค่ะ” เสียงหวานกรอกลงไปตามสาย “อากล้วยขา ตาหวานรออยู่ที่หน้ามหาลัย อากล้วยรีบมานะคะ” “ตาหวานเหรอลูก หนูเอาเบอร์ใครโทรมาคะ ตาหวานๆๆ” เฮ้อ โทรศัพท์รุ่นโบราณลูกแม่ทำไมต้องมาแบตเตอรี่หมดตอนนี้ด้วยนะ บ่นในใจพลางรีบเดินไปหาหลานสาวยังจุดนัดพบ หน้ามหาวิทยาลัย…. “ตาหวานคะ” เอ่ยเรียกหลานอย่างไม่แน่ใจนัก เมื่อเห็นหลานสาวตัวน้อยยืนหันหลังจับมือกับผู้ชายร่างสูงที่ยืนข้างๆ ซึ่งดูยังไงก็ไม่ใช่พี่ชายเธอแน่ๆ ทั้งสองหันหน้ากลับมาตามเสียงเรียก ก่อนที่ชายหนุ่มและหญิงสาวจะตกใจ ตาเบิกกว้าง พร้อมทั้งอุทานออกมาพร้อมกัน “นี่เธอ!/ นี่คุณ!” ทั้งสองต่างจ้องหน้ากันนิ่งอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ไม่มีใครยอมหลบสายตา ท่ามกลางความงุนงงของเด็กน้อย “อากล้วยกับอาพงศ์รู้จักกันด้วยเหรอคะ” หนูน้อยเอ่ยถามอย่างซื่อๆ มิได้รับรู้ด้วยซักนิดว่าพวกเขาอาจจะโกรธกันมาแต่ชาติปางไหน “เปล่าครับ/ เปล่าจ้ะ” “เอ๊ะ คุณอย่ามาตอบตามฉันนะ” สาวสวยตวาดแหว “อ้าว คุณก็อย่าพูดเหมือนผมสิ” ชายหนุ่มตีรวนกลับอย่างไม่ยอมแพ้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม