INTRO

1835 คำ
“โอบกอดร่างของฉัน ให้เท่ากับความรักที่เธอมี...” เสียงหวานนุ่มละมุนดังสะกดให้คนได้ฟังนั้นหลงเพ้อละเมอราวกับตัวเองนั้นล่องลอยอยู่ในห้วงความฝัน ร่างสูงสง่าของอัลฟ่าผู้สง่างามนั้นเดินไปตามเสียงเรียกร้องของผู้หญิงคนนั้นที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้จัก ยามที่ร่างกายของเธอย่ำหา...ใบหน้าของเจ้าหล่อนก็ค่อย ๆ ส่องสว่างเมื่อยามที่พระจันทร์นั้นตกกระทบมาที่ใบหน้า ผิวขาวลออเนียนสวยรับกับดวงตาทรงเสน่ห์เผยให้รอยยิ้มนั้นปรากฏ เจ้าหล่อนอ้าแขนรอรับแล้วมีหรือที่คนอย่างเธอจะไม่ยอมเข้าไปหาตามใจที่เรียกร้อง สัมผัสอุ่นนุ่มทำให้เธอนั้นราวกับตกอยู่ในห้วงภวังค์จนมิอาจจะมีสิ่งใดเข้ามาแทนที่ ร่างกายอุ่น ๆ รับกับมือบางสวยที่กรีดกรายไปทั่วแผ่นหลังของเธอนั้นทำเอาคนที่ถูกสัมผัสถึงกับหลงละเมอ สิ่งที่ใจของเธอต้องการมันมากเกินกว่าสิ่งที่เจ้าหล่อนนั้นกำลังมอบให้กันอยู่ เธอจึงเอนศีรษะขึ้นเพื่อหวังจะได้สบมองใบหน้าของนางฟ้าตนนี้ให้ชัดเต็มตาดูสักครั้ง... ติ๊ก! ติ๊ก! ร่างสูงสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงที่ตัวเองนั้นแสนเกลียดชังมันนักหนา มือหนาเอื้อมไปกดปิดมันอย่างไม่ชอบใจก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอีกครั้งเพื่อหวังจะเข้าสู่ห้วงนิทรา แต่เพราะฝันดีเมื่อครู่นั้นทำให้คนที่ตั้งใจจะหลับลงอีกครั้งถึงกับผวาลุกขึ้นมาอีกหน มันเป็นความโชคดีที่แฝงอยู่ในความโชคร้ายเพราะเธอนั้นจดจำความฝันนั้นไม่ได้เลย แต่มันมีเพียงความผูกพันและความโหยหาแม้เธอจะไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนในฝันคนนั้นคือใครกันแน่ นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เธอเกิดมาตลอดระยะเวลา 12 ปีนี้ เธอไม่เคยฝันถึงใครคนไหนที่เป็นฝันดีแบบนี้มาก่อนเลย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะคุณพ่อและคุณแม่ของเธอก็ต่างบอกกับเธอเสมอว่าเมื่อถึงวันนั้นมันจะเป็นฝันดีที่สุดในชีวิตของเธอ เรื่องราวที่พวกเขาต่างเล่าขานไม่ได้ทำให้เด็กคนหนึ่งอย่างเธออยากจะล่วงรู้และจดจำมัน คู่โซลเมทที่พวกเขาเคยบอกเธอมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ ก็ไม่ได้ถูกจดจำเข้าไปในหัวสมองของเธอเลยแม้เพียงน้อย แต่วันนี้เธอคงต้องคิดใหม่กับเรื่องที่มันกำลังจะเกิดขึ้นกับเธออีกต่อจากนี้ไป การรับรู้เอาไว้ถึงคู่โซลเมทก็อาจจะเป็นผลดีกับเธอในอนาคตและอาจจะทำให้ชีวิตของเธอนั้นดำรงต่อไปได้อย่างมีความสุขก็เป็นได้นะ ❣︎❣︎❣︎ “ไงฮันส์ ช่วงปิดภาคเรียนไปทำอะไรมาบ้างล่ะ” เมื่อยามที่ร่างสูงก้าวเท้าขึ้นไปยังรถบัสของทางโรงเรียนก็มีเสียงจากเหล่าเพื่อน ๆ นั้นเอ่ยทักขึ้นมาทันทีอย่างไม่ขาดสาย แน่นอนว่าอัลฟ่านั้นมักจะสวยงามและอุดมไปด้วยเพื่อนฝูงไม่ขาดสายอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นความเคยชินไปเสียแล้วล่ะที่ตัวเธอมักจะเป็นที่สนใจของผู้คนอยู่เสมอ “ก็ธรรมดาแหละ พ่อพาไปขับเรือแล้วก็ไปพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศที่เมืองฮาสร์น่ะ” “ว้าว! เมืองนั้นเขาบอกว่ามีแต่บ้านพักของคนรวย ๆ ใช่ไหม?” และเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นมาอีกครั้งจนฮันส์ก็ทำได้เพียงแต่ยกมือกอดอกอย่างภาคภูมิใจ เพราะความที่เธอเป็นอัลฟ่าก็มักจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้อื่นอยู่เสมอ และแน่นอนว่าตระกูลของเธอก็เป็นอัลฟ่าตระกูลเก่าแก่ที่รวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ “แต่โรงเรียนของเราน่าจะไม่มีพวกขี้แพ้อย่างโอเมก้าเนอะ เธอว่าไหมฮันส์?” เสียงจากเด็กหนุ่มตัวอ้วนพุ้ยที่มีศักดิ์เป็นเบต้านั้นเอ่ยขึ้นมาอย่างเหยียดหยามกับโอเมก้าสาวที่พึ่งจะเดินขึ้นมาบนรถโรงเรียนคันนี้ เจ้าหล่อนนั้นก้มหน้าหลุบตาลงต่ำทันใดเมื่อตัวเองนั้นกำลังตกเป็นเป้าสายตาและการดูถูกเหยียดหยามจากผู้คน เรื่องนี้เธอเห็นด้วยกับเด็กอ้วนคนนั้นเพราะพวกโอเมก้านั้นมันช่างแสนจะน่ารังเกียจ “ก็จริงอย่างที่นายบอก โอเมก้านั้นมันน่ารังเกียจสิ้นดี” และฮันส์ก็หลบหน้าหนีคนที่กำลังจะเดินผ่านตัวของเธอไปทันใดเพราะไม่อยากจะสบมองให้ตัวเองยิ่งรู้สึกรังเกียจมากไปกว่านี้ เสียงโห่ร้องเห็นด้วยกับฮันส์ดังขึ้นมาทั่วคันรถให้เด็กที่ไม่เดียงสาอย่างเธอนั้นเผลอยักไหล่ออกมาอย่างชอบใจ การเป็นอัลฟ่ามันได้เปรียบทุกสิ่งอย่างและเธอก็มีความสุขมากกับการที่ได้เหยียบย่ำพวกเหล่าโอเมก้าที่น่ารังเกียจให้จมดิน... ❣︎❣︎❣︎ รถเคลื่อนตัวไปได้อีกไม่นานก็เข้ามายังเขตรั้วโรงเรียนที่เธอกำลังศึกษาอยู่ เป็นเพราะว่าในเขตเมืองนี้มีโรงเรียนอยู่เพียงที่เดียว ดังนั้นเธอจึงจำใจที่จะต้องมาเรียนที่นี่เพราะไม่อยากจะไปอยู่กับคุณย่าของเธอที่เมืองหลวงที่แสนใหญ่โต เธอยังเป็นเด็กที่ติดแม่และยังต้องการความรักจากคุณพ่อ เช่นนั้นเธอจึงจำใจต้องมาเรียนที่นี่แม้ว่าสภาพแวดล้อมมันจะไม่ได้ดีเหมือนโรงเรียนในเมืองหลวง พื้นที่ลานกว้างที่ปกติจะดูโล่งไร้ผู้คนแต่บัดนี้กลับถูกจับจองไปด้วยรถบัสจากโรงเรียนที่เธอไม่คุ้นเคยอยู่หลายคัน พร้อมกับที่มีเด็กจากโรงเรียนอื่น ๆ มายืนออกันเต็มไปหมด ชุดยูนิฟอร์มที่เธอสัมผัสได้บ่งบอกว่านี่เป็นโรงเรียนในเมืองหลวงที่มีการแต่งกายให้ถูกกฎระเบียบของโรงเรียน และนั่นมันก็ไม่ได้ดูน่าสนใจเท่าไหร่เพราะบุคคลที่ยืนอยู่ตรงนั้นส่วนมากล้วนแล้วแต่เป็นเบต้ากับโอเมก้าทั้งสิ้น ฮันส์รีบเดินออกไปให้ห่างเพราะไม่อยากจะสัมผัสกับโอเมก้าที่เธอไม่พึงประสงค์และเดินไปเข้าห้องเรียนพร้อมกับเพื่อน ๆ เบต้าที่เดินตามหลังมาราวกับลูกสมุนที่ติดตามเจ้านาย ❣︎❣︎❣︎ “วิชาพละนี่ฉันเกลียดมันที่สุด!” เด็กชายตัวอ้วนบ่นกระปอดกระแปดหลังจากที่เราพึ่งผ่านพ้นวิชาที่ต้องใช้พละกำลังอย่างวิชาพละศึกษา “ก็เพราะว่านายอ้วนอย่างไรล่ะ...ว่าง ๆ ก็หัดออกกำลังกายบ้างนะไออ้วน!” คนนิสัยไม่ดีและทะนงตัวอย่างเธอไม่ได้รับรู้เลยว่าสิ่งที่เธอพูดออกไปนั้นมันแทงใจของคนฟังมากมายเพียงใด ชายอ้วนกำหมัดแน่นกัดฟันกรอด ๆ อย่างควบคุมอารมณ์ของตัวเองพร้อมทั้งสถบด่าว่าฮันส์อยู่ภายในใจ หากเขามีศักดิ์เป็นอัลฟ่าเหมือนเธอคงจะไม่ยอมอดทนอยู่เฉย ๆ แน่! ร่างสูงลุกขึ้นไปยังล็อกเกอร์ของตัวเองก่อนจะลงมือเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไม่มียางอาย เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของผู้หญิงอยู่แล้ว มันจึงไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่เธอจะต้องอายเลย ฮันส์เอื้อมมือไปหยิบเสื้อตัวใหม่ของตัวเองและกำลังจะสวมใส่มันเป็นปกติ แต่รอยแผลเป็นที่ขึ้นอยู่บนหน้าอกของเธอมันดูมีอะไรเปลี่ยนไปจนฮันส์ต้องหยุดมือและสบมองมันอีกครั้งผ่านกระจกที่อยู่ตรงหน้า ในรูปนาฬิกามันดูเหมือนจะมีกิ่งไม้ขึ้นมาเริ่มแรกจากที่มันเป็นเพียงแค่จุดเล็ก ๆ แต่ตอนนี้ดอกไม้ชนิดนี้มันยังเป็นต้นอ่อนเกินไปจนเธอไม่อาจจะรับรู้ได้เลยว่ามันจะออกเป็นดอกอะไรให้เธอได้รับรู้กันแน่ ฮันส์ยกยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเพราะคุณแม่ของเธอเคยบอกเอาไว้ว่ามันจะเติบโตเมื่อเธอนั้นเข้าสู่ช่วงวัยหนุ่มสาว และมันก็เปรียบเหมือนการบอกเป็นนัย ๆ ถึงลักษณะและนิสัยของคู่โซลเมทที่เธอไม่เคยเชื่อมาก่อนจนกระทั่งถึงตอนนี้ “ฮันส์! เสร็จหรือยัง คาบต่อไปเราไม่มีเรียนนะ!” เสียงเรียกจากเพื่อนดึงสติให้เธอต้องรีบหุบยิ้มลงทันใด ฮันส์กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดีเสร็จก่อนจะเดินออกไปหาเพื่อนพร้อมกับหัวใจของเธอที่เริ่มผลิบาน ❣︎❣︎❣︎ “ได้ข่าวว่าวันนี้พวกคนรวยมาสำรวจโรงเรียนของเราน่ะ” เพื่อนหนุ่มของฮันส์ชี้ไปที่กลุ่มเด็ก ๆ ที่ดูเหมือนว่ากำลังจะเดินทางกลับกันแล้ว เพราะพวกเขาเหล่านั้นกำลังจะเดินไปขึ้นรถบัสที่จอดอยู่ที่ลานโล่ง แต่มันก็ยังมีคนอีกหลายคนที่ยังคงจับกลุ่มและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ “ไปกันเถอะ ฉันได้กลิ่นพวกโอเมก้าจนอยากจะอ้วก” ฮันส์รีบบอกและตั้งท่าจะเดินออกไปก่อน ถ้าไม่ถูกรั้งเอาไว้ด้วยเพื่อนคนเดิมที่มีศักดิ์เป็นอัลฟ่าเหมือนกัน “เห้ยเดี๋ยว ๆ ดูผู้หญิงกลุ่มนั้นดิ น่ารักโคตร” ฮันส์กรอกตาก่อนจะยอมหันไปอีกครั้งตามคำบอกกล่าวของเพื่อนเธอ “เธอ ๆ คนที่กระโปรงลายสก็อตน่ะ” “เห้ย! ทำไรของมึงวะ!” ฮันส์รีบเอ็ดเพื่อนทันใดที่มันตะโกนไปเรียกใครบางคนเข้าจนตอนนี้พวกหล่อนที่ยืนจับกลุ่มคุยกันหันหน้ามามองเขาเป็นตาเดียวเพราะพวกหล่อนต่างก็ใส่ชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนที่กระโปรงเป็นลายสก็อต “เพื่อนเราที่เป็นอัลฟ่าคนนี้มันชอบเธอน่ะ!” “เห้ย! ไอบิลล์!” และสายตาเหล่านั้นก็ถูกปรับเปลี่ยนและเบนกลับมาที่เธอเป็นที่เรียบร้อยอย่างสนใจ เป็นจังหวะเดียวกับที่ฮันส์นั้นรีบหันหน้าไปสบมองพร้อมทั้งจะปฏิเสธออกไปเพื่อบอกว่าพวกหล่อนเข้าใจผิด เธอหันไปสบตาทีละคนก่อนจะได้ยินเสียง ติ๊ก ติ๊ก ราวกับเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังออกมาจากร่างกายของเธอ แต่ตอนนี้เธอก็เดียงสาเกินกว่าที่จะเข้าใจความหมายของมัน อัลฟ่าผู้ขี้อายจึงรีบวิ่งหนีออกไปทันใดท่ามกลางสายตาที่ไม่เข้าใจของพวกหล่อนที่ยังมึนงงอยู่ แต่กลับมีสิ่งหนึ่งได้พลันเปลี่ยนไป เพราะมีหนึ่งในเหล่าพวกเธอกลุ่มนั้น...มีตัวเลขขึ้นมาที่ข้อแขนเริ่มต้นที่เลขศูนย์เป็นตัวบ่งบอกว่าตอนนี้เธอคนนั้น...ได้พบกับคู่โซลเมทของตัวเองเข้าให้แล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม