EP 4 : อ่อยจนได้เรื่อง

1211 คำ
ตอนที่ 4 : อ่อยจนได้เรื่อง "กว่าจะมาได้นะยะ" อันดาเอ่ยแซวเมื่อเพื่อนวิ่งกระหืดกระหอบมาหา ดวงตากลมโตมองสีหน้าของเพื่อนที่ไม่สู้ดีนัก คงเพราะโดนแฟนสุดที่รักที่พึ่งคบได้สองอาทิตย์ทิ้งไป แต่แก๊งเธอไม่มีคำปลอบที่อ่อนโยน ไม่มีโอ๋เมื่อเพื่อนผิดหวังเพราะผู้ชาย "ผู้ชายคนเดียวหาใหม่ง่ายจะตายไป หน้าตาแกดูดี แค่ขยิบตาผู้ชายก็เรียงคิวรอเป็นผัวแล้ว" "แกรู้เหรออันดา" "ถ้าไม่รู้คงไม่พูดแบบนี้หรอก" "การปลอบของแก ฟังเหมือนด่าเลยนะ" "ชินได้แล้ว อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งยังไม่รู้นิสัยอีกเหรอไง" "เข้าเรียนก่อนไหม เหลือเวลาอีกแค่ห้านาที" เนเน่ก้มดูนาฬิกาที่ข้อมือและพูดแทรกบทสนทนาของเพื่อนสาวทั้งสอง "คืนนี้ค่อยว่ากัน เพื่อนอกหัก เลี้ยงได้ไม่อั้น" "สมแล้วที่เป็นเจ้าแม่สายดื่ม" ทั้งสามคนส่งยิ้มให้กันอย่างรู้ทัน สายปาร์ตี้ทั้งแก๊ง แต่เรื่องเรียนก็ยังสำคัญ ไปไหนไปด้วยกัน ติวด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน ทำให้ทั้งสามคนสนิทกันมาก เมื่ออีกคนมีปัญหาคนที่เหลือจะช่วยเหลือเสมอ ไม่ใช้คำพูดที่หวานเยิ้ม แต่ใช้คำพูดที่ออกมาจากใจ ใช้ความจริงใจส่งหากัน "นี่น่ะเหรอ...อันดา ก็ไม่เท่าไหร่" เท้าเรียวเล็กชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนเอ่ยถึง ในจังหวะที่กำลังจะขึ้นเรียน ร่างอรชรหันมาเผชิญหน้ากับคนที่ใช้น้ำเสียงเหยียดหยาม ถ้าไม่เอ่ยชื่อเธอ เธอคงไม่สนใจ เมื่อหันมาก็รู้ว่าคนที่พูดต้องการคุยกับเธอ เพราะผู้หญิงคนนั้นยืนจ้องด้วยสีหน้าดูถูก สายตาผู้หญิงคนนั้นมองมาตั้งแต่หัวจรดเท้า บ่งบอกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ต้องการเข้ามาสร้างสัมพันธไมตรีแน่นอน "พี่ป๊อปปี้" ใบหม่อนพูดขึ้นเบาๆ อันดาชำเลืองมองเพื่อนเพียงนิดที่พูดชื่อออกมาและหันไปมองคนตรงหน้าใช้สายตาไม่ต่างกันจ้องกลับ เธอไม่รู้จักว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร แต่เท่าที่ได้ยินเพื่อนสบถออกมาคงเป็นรุ่นพี่ปีสี่ "รูปร่างหน้าตาและของแบรนด์เนมที่ใช้ไม่น่าเป็นพวกแย่งผัวชาวบ้าน" แย่งผัวชาวบ้าน อยู่ๆก็ได้เรื่องอีกแล้วสินะ ไม่ใช่ครั้งแรก แต่มันซ้ำซากจนน่ารำคาญ พวกไม่ล่ามโซ่ผัว ปล่อยให้ผัววิ่งร่อนหาผู้หญิงอื่นไปทั่ว "ล่ามไว้หรือเปล่าละ ถ้าไม่ล่ามก็ไม่แปลกที่จะวิ่งไล่เห่าไล่ปี้ไปทั่ว ถ้าอยู่ในช่วงติดสัดต้องทำใจหน่อย ตัวเมียตัวอื่นมันอาจกลิ่นหอมกว่าตัวเก่า" "อีนี่! มันจะมากไปแล้วนะ แย่งผัวชาวบ้านยังลอยหน้าลอยตา" อันดาเชิดหน้าขึ้นเมื่อคนตรงหน้าง้างมือจะตบแต่ถูกพรรคพวกตัวเองห้ามไว้ “อย่ามีเรื่องกับยัยเด็กนี่ ถ้าเปิดก่อนเราเสียเปรียบแน่” เพื่อนรุ่นพี่ที่มาด้วยพูดห้ามไว้ "หยุดกล่าวหากันมั่วซั่ว และไปล่ามผัวตัวเอง อย่ามากัดเป็นหมาบ้า ถ้าตัวเองมีค่าจริงผู้ชายคงไม่ทิ้ง" อันดาพูดจบได้หมุนตัวเดินออก ปล่อยให้คนบ้ากรีดร้องสติแตกคนเดียว "กรี๊ดดด...อีเด็กบ้า ฉันจะตบแก เสียเปรียบมันไม่สะใจเท่าเห็นปากอีเด็กนี่เลือดออก" พรึบ รุ่นพี่สาวกระชากไหล่อันดาและง้างมือจะตบ แต่กลับถูกมือเรียวเล็กของอันดาคว้าข้อมือไว้ได้ทัน มือเรียวเล็กบีบข้อมือรุ่นพี่สาวอย่างแรงด้วยความโมโห เล็บเรียวยาวจิกเข้าที่ผิวหนังพร้อมกับบิดข้อมือจนเสียงกระดูกลั่น ไม่เคยอยากมีเรื่อง แต่เรื่องดันมาหาซะเอง "อย่าเอามือสกปรกมาแตะต้องตัวฉัน ทางออกของหมาบ้าคือตายอย่างอนาถ ไปใช้วิธีสกปรกกับคนอื่น อย่ามาใช้กับฉัน และจะบอกอะไรให้ผัวเธอฉันไม่เคยยุ่ง" ผลั่ก! อันดาสะบัดมือออกและมองรุ่นพี่สาวด้วยสายตาเรียบนิ่ง แต่แฝงไปด้วยความอำมหิต "อย่ามาระรานกูอีก อย่าหาว่ากูไม่เตือน เก็บหน้าสวยๆไปหาผัวใหม่ซะ" อันดาชี้หน้าและพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สายตาบ่งบอกว่าไม่เล่นและถ้าหยามกันอีกครั้ง คราวนี้เอาจริงแน่ อันดาเดินออกจากวงชุลมุนอีกครั้งด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ตามด้วยเพื่อนสนิททั้งสองคน "แกไปแย่งผัวยัยป้านั่นเหรอไง" "ฉันยังไม่รู้เลยว่าผัวยัยนั่นเป็นใคร หงุดหงิดแต่เช้า" "นี่แหละนะ ความสวยเป็นภัยอันตราย พี่ป๊อปปี้เรียนอยู่คณะวิศวะ ตัวแม่ตัวมัมของคณะเลยนะ อย่างว่าคณะวิศวะผู้หญิงหายาก และนี่ก็แฟนของพี่เขา พี่แทนไทเรียนคณะนิเทศที่มาเต๊าะแกเมื่อวันก่อน" ใบหม่อนยื่นรูปรุ่นพี่ผู้ชายให้อันดาดู ดวงตากลมโตมองรูปภาพจากโทรศัพท์เครื่องหรูที่เพื่อนส่งให้ดูและกลอกตามองบน “ฉันว่าตั้งใจหาผัวเลยเลือกเรียนคณะนั้นมากกว่า” เหนื่อยเหลือเกินกับพวกที่ชอบคิดเองเออเอง เธอยังไม่ได้ไปแย่งอะไร และไม่ใช่สเปคเธอด้วยซ้ำ "ยิ้มมายิ้มกลับก็เท่านั้น พวกเพศผู้ชอบคิดว่าผู้หญิงชอบทั้งที่ฉันยังไม่คิดอะไร คนที่ซวยก็คือฉัน" "ลดความอ่อยลงสักนิดสิ" เนเน่แซวอันดา เพราะรู้ว่าเพื่อนสาวชอบยั่วยวนผู้ชายแต่ไม่คิดจริงจัง "ติดเป็นสันดานแล้วล่ะ" คำพูดของอันดาทำให้ทุกคนหัวเราะออกมา จากเรื่องตึงเครียดกลายเป็นบทสนทนาที่ขบขันในช่วงเวลาไม่กี่นาที ช่วงบ่ายของวัน ทางด้านชาวินท์ ครืด ครืด... เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังลั่นปลุกให้ชายหนุ่มที่หลับไปตั้งแต่ช่วงสายรู้สึกตัวตื่น มือหนาคลำหาโทรศัพท์ด้วยท่าทางหงุดหงิด เปลือกตายังคงปิดสนิทแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากวนเวลาอันสำคัญ สายตาสะลึมสะลือมองหน้าจอโทรศัพท์ ครั้นจะรับเลยกลัวว่าจะเป็นพ่อหรือแม่ที่โทรมา แต่เมื่อเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิททำให้ชาวินท์ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ "ฮัลโหล" (เสียงนี้บ่งบอกว่ามึงแอบแม่มานอนที่คอนโดสินะ) "มีอะไรก็พูดมาไอ้เรน ก่อนที่กูจะฆ่ามึง" น้ำเสียงที่แหบพร่าแสดงออกถึงความหงุดหงิดส่งตรงไปยังคนที่โทรเข้ามา ปลายสายหัวเราะใส่โทรศัพท์เมื่อได้ยินคำขู่ของชาวินท์ (เข้ามาเรียนคาบบ่ายด้วย มึงขาดไม่ได้แล้วนะ แล้ววันนี้มีนัดรุ่นน้องหลังเลิกเรียนด้วย หัวหน้าแก๊งอย่างมึงจะไม่มาได้ไง" "กูรู้แล้ว เดี๋ยวกูไปเองแหละ รับรองทันตอนรุ่นน้องเลิกเรียนแน่ แต่ไม่รับปากเข้าเรียนช่วงบ่าย" (ความเหี้...ไม่เคยลดละ) ติ้ด ชาวินท์กดวางสายไม่ได้สนใจคำพูดของเพื่อน บิดขี้เกียจสลัดความเมื่อย นอนหงายมองฝ้าเพดานสีขาวสะอาดตา รอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เรื่องเรียนไม่เคยมีอยู่ในหัว แต่เรื่องเหี้…ไม่เคยขาดตกบกพร่อง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม