1
ปัง ปัง ปัง!!! โครม!!!
เสียงทุบประตูที่แทบพังเข้ามา และเสียงกระทบกระแทกด้านนอก ทำให้ไพรหอม จำปานันท์ เด็กสาววัยยี่สิบปี รีบออกไปเปิดประตูด้วยความตระหนกตกใจ เธอผงะเมื่อเห็นชายฉกรรจ์ยืนจังก้าอยู่หน้าประตูพร้อมอาวุธครบมือ ด้วยความที่ยังเด็กนักจึงคิดว่าคนในหมู่บ้านมีธุระด่วนจึงมาเคาะประตูระรัวถึงขนาดนี้ แต่พอได้สติ เด็กสาวคิดว่าเธอไม่สมควรมาเปิดประตูให้คนอื่นง่ายๆ เพราะจะนำอันตรายมาสู่ตัวเองและคนในบ้าน
“ใครมาเหรอหอม แค่กๆๆ” ยายว่านหอมเอ่ยถามด้วยเสียงแหบแห้งเพราะกำลังล้มป่วย สายตาท่านก็ฝ้าฟางมากแล้ว จึงมองอะไรไม่ค่อยชัด
“พวกคุณเป็นใครกันคะ! มาที่นี่ต้องการอะไร” เด็กสาวเอ่ยถามอย่างหวาดระแวง ถอยหลังไปหลายก้าว เมื่อเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์สาวเท้าเข้ามาอย่างคุกคามน่ากลัว เด็กสาวหันไปหยิบไม้ขนาดเหมาะมือขึ้นมาถือเอาไว้ แม้รู้ดีว่าไม่มีปัญญาจะไปสู้รบปรบมือกับชายฉกรรจ์พวกนี้ได้ แต่เธอก็ขอสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องตัวเองและผู้เป็นยาย
“เจ้านายจะบอกเธอเอง ตามมานี่” หนึ่งในชายฉกรรจ์กระชากมือของไพรหอมออกไปจากบ้านไม้หลังเก่าสภาพทรุดโทรมแทบจะพังแหล่ไม่พังแหล่ ไพรหอมใช้ไม้รัวตี แต่โดนแย่งไปจากมือได้และโยนไปทิ้งไปอย่างง่ายดาย
“ปล่อยนะ เราไม่เคยรู้จักกัน อย่าทำอะไรฉันเลยนะ” เธอร้องขอน้ำเสียงตกใจ คนพวกนี้เป็นผู้ชายร่างใหญ่ยักษ์แถมยังแรงเยอะกว่าเธอหลายเท่านัก ถ้าใช้แรงกำลังคงสู้ไม่ไหว ที่ทำได้คือต้องใช้ปากให้เป็นประโยชน์ ขอร้องความเมตตา เผื่อพวกเขาจะใจอ่อนยอมปล่อยเธอไป
“นี่เหรอลูกสาวนังว่านจันทร์ นังอสรพิษนั่น” พันศึก หาญวรกร นักธุรกิจหนุ่มหล่อวัย 36 ปี ที่ร่ำรวยมหาศาล ทั้งยังเจ้าชู้เรียกว่าเปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เขาเอ่ยเหมือนคาดไม่ถึง มองเด็กสาวที่ตัวสั่นอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป สายตาของเขาทำให้ไพรหอมหวาดหวั่นอย่างประหลาด สมองที่กำลังครุ่นคิดเอาตัวรอดกลับชะงักและอื้ออึงในทันที
“คุณรู้จักแม่ของดิฉันด้วยเหรอคะ” เด็กสาวถามเสียงสั่นพยายามผลักมือหนาที่บีบคางเธอออกไป แต่เหมือนเขาจะยิ่งบีบหนักเหมือนคีบเหล็ก เขาวางอำนาจและดูเจ้าอารมณ์ ไม่ชอบให้ใครขัดใจ ที่สำคัญสายตาของเขามองเธอนิ่งไม่ยอมละไปไหน
“รู้จักดีมากทีเดียวเชียว แม่สารเลวของเธอทำฉันแสบมาก” เขาผลักคางของเธอออกห่าง สายตาดุกร้าวน่ากลัว
“แม่ทำอะไร” ไพรหอมถามเสียงสั่นเทา กลัวเขาจับใจ เขาเป็นผู้ชายที่ดูมีอำนาจมาก
เธอไม่เคยเจอหน้ามารดานานแล้ว จำได้ว่าเคยเจอตอนเด็กๆ ท่านทิ้งเธอเอาไว้กับยาย ท่านไม่ให้เธอเรียกว่าแม่ด้วยซ้ำ เธอแอบน้อยใจร้องไห้บ่อยครั้ง ยายเท่านั้นที่คอยปลอบโยน ครอบครัวของเธอลำบากมาก อาศัยอยู่ท้ายหมู่บ้าน บนพื้นที่เล็กๆ ที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวของยาย เธอไม่ได้เรียนหนังสือต่อ เพราะไม่มีทุนทรัพย์ ยายก็มาป่วยหนักจนเธอต้องออกมาดูแลท่าน ชีวิตลำเค็ญ อดๆ อยากๆ ต้องเก็บผักเก็บหญ้า
เธอประทังชีวิตด้วยการขุดหัวเผือกหัวมันเพื่อยาไส้ เงินค่ายาก็ไม่มี เธอก็พายายไปรักษาที่อนามัยใกล้ๆ โดยใช้บัตรทอง เพราะถ้าไปโรงพยาบาลต้องมีค่ารถค่ารา ซึ่งมันลำบากมากสำหรับคนจนๆ ยาที่ได้มาก็เป็นยาสามัญประจำบ้าน รักษาไปตามอาการ หายก็โชคดีไป ไม่หายก็ต้องกินยาเรื้อรังหลายอย่าง ทั้งยาความดันโลหิตสูง ยาละลายไขมันในเส้นเลือด ช่วงหลังมายายอาการน่าเป็นห่วง ทางอนามัยส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้วให้กลับมาพักรักษาตัว แต่อาการก็ทรงๆ ทรุดๆ ไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร ค่าเดินทางและอื่นๆ ทำให้เธอนึกท้อแท้ในชะตาชีวิตของตัวเอง และสงสารยายจับใจ คิดอยากมีเงินเยอะๆ จะได้เพียงพอกับค่ารักษายาย
ไพรหอมเคยนั่งร้องไห้ตอนดึกๆ เมื่อยายนอนหลับแล้ว เกิดเป็นคนจนนี่มันน่าเศร้าจริงๆ ขนาดยาจะรักษาอาการป่วยก็ยังได้ยาไม่ดีเพราะไม่มีเงิน ไม่เหมือนคนรวย จะซื้อยาแพงขนาดไหนก็ทำได้ คนจนรักษาไป หายก็ช่างไม่หายก็ช่าง ตามยถากรรม เคยได้ยินคนพูดว่าเงินไม่สำคัญเสียทุกอย่าง แต่ในเวลานี้เงินสำคัญกับเธอยิ่งกว่าอะไร ทั้งค่าอาหาร ยารักษาโรค บ้านช่องที่ทรุดโทรมกำลังจะพัง รั่วแล้วรั่วอีก อุดรูโน้นก็รั่วรูนี้ ชีวิตลำบากยากเข็ญอดมื้อกินมื้อ หาเช้ากินค่ำ ที่คนรวยๆ ไม่เข้าใจ เธออยากเรียนหนังสือ อยากทำอะไรตั้งหลายอย่าง แต่ไม่มีเงิน เพราะสิ่งที่อยากทำทั้งหมด ต้องอาศัยเงินแทบทั้งสิ้น
“ทำอะไรอย่างนั้นเหรอ ทำเลวแพศยายังไงล่ะ หึ!” เสียงของคนตรงหน้า ทั้งกร้าวทั้งน่ากลัว แววตาของเขาทำให้เธอเย็นยะเยือกไปถึงขั้วหัวใจ
“แม่ทำ แต่ฉันไม่ได้ทำ ปล่อยฉันกับยายไปเถอะ” เธอยกมือขึ้นไหว้เขาท่วมหัว สาบานได้เลยว่าเธอไม่เคยคิดเกลียดมารดา แต่น้อยใจที่ท่านไม่รัก ไม่ดูแล แม้แต่กอดท่านก็ไม่เคยกอดเธอสักครั้ง
“ปล่อยเหรอ ตลกแล้วเด็กน้อย” พันศึกหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างขบขัน ดวงตาร้อนแรงนั้นกวาดมองร่างเล็กอย่างจาบจ้วง ก่อนจะลูบคางไปมา
“แม่เธอเป็นหนี้ฉันหลายล้านเชียวนะ เธอจะให้ฉันปล่อยเธอไปง่ายๆ หรือไง” พันศึกพูดแล้วให้ยิ่งเจ็บใจ เขาได้เจอว่านจันทร์ด้วยความบังเอิญ ความสวยของเธอทำให้เขาหลงใหลจนคิดจะเลิกเจ้าชู้ แต่เธอกลับหลอกเขา หลอกเอาทรัพย์สินเงินทอง ขโมยเครื่องเพชรและเอกสารสำคัญของคู่แข่งไปเสียอย่างนั้น ยิ่งคิดยิ่งแค้นจนแทบกระอัก ถ้าเขาไม่ได้คิดบัญชีแค้นในครั้งนี้ อย่ามาเรียกเขาว่าพันศึกอีกเลย
“ฉันไม่มีเงินให้คุณหรอกค่ะ บ้านฉันยากจนมาก ยายก็กำลังป่วยหนัก” เธอยกมือขึ้นไหว้เขาปรกๆ เอ่ยขอร้องอย่างหวาดกลัว ระคนกับความทุกข์ใจที่เกิดขึ้น
“ไม่มีเงินแต่น่าจะใช้อย่างอื่นทดแทนได้นะ” พันศึกมองด้วยสายตาวาววับขณะกวาดตามองเด็กสาวที่นั่งพับเพียบอยู่บนพื้นดินหน้าบ้านไม้เก่าๆ โทรมๆ ใกล้จะพังแหล่มิพังแหล่ ตอนเขาเห็นว่านจันทร์ครั้งแรกยอมรับว่าเธอสวยมาก
แต่ไพรหอมหอม... สวยหวานและยังเด็กกว่าเยอะ รสชาติของเด็กสาวน่าจะเอร็ดอร่อยกว่าแม่ของหล่อนที่ทั้งหยาบกร้านและคาวโลกีย์ เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตอนนั้นหน้ามืดตามัวหลงว่านจันทร์ไปได้แม้จะวางตัวดี แต่สุดท้ายก็เป็นนังอรสรพิษ ทำให้เขาแค้นใจยิ่งนัก นี่ถ้าเธอรู้ว่าเขาสืบหาตัวลูกสาวเธอได้ และเอาไปเป็นนางบำเรอ คงกระอักเลือดตาย การแก้แค้นที่แสนหอมหวาน ทำลายคนที่หล่อนรักเหมือนแก้วตาดวงใจนี่แหละ มันสะใจดีพิลึก
“ฉันไม่มีอะไรให้คุณทั้งนั้นล่ะค่ะ หนี้ตั้งหลายล้าน คุณไปทวงเอากับแม่ไม่ได้เหรอคะ ฉันกับยายแค่เก็บผักขาย ไม่มีเงินขนาดนั้นหรอก ขนาดเงินจะซื้อข้าวกินยังไม่มีเลย”
เธอส่ายหน้าไปมา ก้มหน้างุดอย่างจนตรอก นี่ก็ต้องพายายไปหาหมอ เธอยังไม่รู้เลยว่าจะเอาเงินที่ไหน แค่คิดถึงอาการป่วยของยาย ไพรหอมก็น้ำตาแทบร่วงแต่กล้ำกลืนเอาไว้เพราะอยู่กับคนแปลกหน้าตั้งหลายคน ถ้าเธอแสดงความอ่อนแอออกมา พวกเขาจะยิ่งซ้ำเติมและรังแกเอาได้ เธอเคยคิดอยากจะชวนยายฆ่าตัวตายให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ยายเป็นคนเข้มแข็ง หาเลี้ยงเธอมาจนอายุป่านนี้ ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา
“ก็ตัวเธอไง พอจะทดแทนกันได้ ไปบำเรอฉันบนเตียงสักกี่วันดี...” พันศึกทำท่าคิดก่อนพูดต่อ “จนกว่าฉันจะเบื่อแล้วกัน จะได้ลดหนี้ให้แม่เธอได้บ้าง แต่ให้ปลดหนี้คงไม่ได้หรอกนะ เพราะแม่เธอเอาไปเยอะ”