บทที่ 2-3

1214 คำ
ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงกว่าๆแล้วเหลืออีกไม่เกินยี่สิบนาทีก็จะทุ่มหนึ่งแล้วร่างบางนั่งลงบนเตียงเป็นเวลานานเท่าไหร่ไม่อาจทราบได้ รู้แต่ว่าเวลานั่นช่างผ่านไปเชื่องช้าจนหญิงสาวชักทนรอไม่ไหวอีกต่อไป มือบางเปิดประตูกระจกใสทางระเบียบออกแล้วเดินออกไปก้มลงดูลาดลาวด้านล่างก็เห็นชายชุดดำยืนเฝ้าอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน เท้าบางเดินวนกลับไปกลับมาอยู่นานก่อนจะหยุดอยู่กลับที่ใบหน้าหวานหันกลับไปมองในห้องก่อนจะยิ้มเมื่อนึกอะไรออก รองเท้าหนังสีดำก่อนเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงด้านหลังของแดเนียลมีมือขวาเดินตามมาเพื่อรักษาความปลอดภัยให้เจ้านายอย่างใกล้ชิด ที่จริงแล้วไม่ใช่ว่าแดเนียลสู้ใครไม่เป็นถึงต้องมีทีมบอดี้การ์ดเดินตามหลังแต่เป็นเพราะชายหนุ่มทำอาชีพที่เสี่ยงต่อชีวิตจึงต้องมีคนคอยคุ้มกันให้เขาตลอดเวลา และกลับตรงกันข้ามในการต่อสู้ชายหนุ่มก็เก่งไม่แพ้ทีมบอดี้การ์ดที่ทำหน้าคอยคุ้มกันเขาเลยแม้แต่น้อยแต่น้อยครั้งนักที่แดเนียลจะสู้แบบใช้กำลังจึงทำให้คู่แข่งคิดว่าชายหนุ่มนั้นไม่เก่งเรื่องการต่อสู้ “รู้หรือยังว่าใครส่งมันมา” แดเนียลหันไปถามคนของตัวที่เดินตามมาติดๆก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าห้องทำงานตัวเอง “ทราบแล้วครับ คนของเราบอกมาว่าเป็นฝีมือของตระกูลเคนตันครับ” คุณแดน คาเดินตอบเจ้านายที่เดินไปนั่งหลังโต๊ะทำงาน “เคนตัน เคนตัน อ่อ ฝีมือไอ้มาร์เวลสินะ” แดเนียลพึมพำสองคำแรกก่อนจะนึกออกว่าคือใคร “ท่าทางไอ้หมอนั่นมันคงกัดไม่ปล่อยจริงๆสินะ” แดเนียลพูดถึงศัตรูที่เขาไม่อยากจะเป็นคู่อริกับอีกฝ่ายเลยแต่มันมีเหตุที่ทำให้ฝ่ายนั้นเข้าใจผิด “ทำไมนายถึงไม่บอกความจริงกับฝ่ายนั้นละครับว่าไม่ใช่ฝีมือของเรา” คาเรนแสดงความคิดเห็นกับเรื่องราวในอดีตที่อีกฝ่ายพยายามรื้อฟื้นขึ้นมา “ถึงฉันบอกความจริงฝ่ายนั้นก็จะหาว่าฉันแก้ตัวเปล่าๆสู้ให้มันรู้ความจริงเองไม่ดีกว่าหรอ” แดเนียลเอ่ยออกไปนัยน์สีน้ำเงินมองออกไปนอกกระจกใสด้วยสายตาว่างเปล่า กริ๊งงง แต่หันออกไปได้ไม่นานก็ต้องหันกลับมาที่โต๊ะทำงานอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตัวเองดังขึ้นมือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นเป็นเบอร์ของคาร์ลอสมือซ้ายของเขานั้นเอง “มีอะไร คาร์ลอส” แดเนียลกรอกเสียงลงไปถามปลายสายทันทีที่กดรับสายเรียบร้อยแล้วก่อนจะมีสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันทีที่ฟังอีกฝ่ายพูดจบ “ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ บอกคนของเราให้ช่วยกันออกตามหาด้วย” แดเนียลสั่งลูกน้องเสร็จก็ตัดสายทิ้งทันที “คาเรนไปเตรียมรถฉันให้เวลานายห้าสามนาที” แดเนียลหันมาออกคำสั่งกับมือขวาทันทีที่วางสายเสร็จ เมื่อได้รับคำสั่งจากเจ้านายด้วยไปหน้าบึ้งตึงคาเรนก็ไม่อยากถามให้อารมณ์เสียไปมากว่านี้จึงรีบทำตาคำสั่งทันทีที่เจ้านายพูดจบ “ครับคุณแดน” ทางด้านสุพัตราที่กำลังวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยอาการหอบจัดหญิงสาวหันกลับไปมองด้านหลังก็เห็นว่าไม่มีใครตามมาจึงหยุดนั่งพักตรงข้างถนนด้วยความโล่งอกที่ไม่มีใครตามมา นั่งพักจนหายเหนื่อยลงไปบ้างแล้วสุพัตราจึงลุกขึ้นแล้ววิ่งไปข้างหน้าอย่างไรจุดหมาย น่าแปลกที่ถนนแถวนี้ไม่ค่อยมีรถผ่านเพื่อที่จะให้หญิงสาวขอความช่วยเหลือเลยสักคันเดียวสุพัตราหยุดวิ่งแล้วกลับมาเดินตามปกติอีกครั้งอย่างไม่รู้จุดหมายปลายทางว่าจะต้องไปที่ไหนต่อ นี้ยังดีนะที่ของทุกอย่างเธอทิ้งไว้ที่โรงแรมหมด ใช่ โรงแรม เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างบางก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่ของทุกอย่างยังไม่โดนมาเฟียเผด็จการนั้นเอาไป ก่อนจะทำสีหน้าสลดเมื่อคิดขึ้นว่าเธอยังไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแล้วแบบนี้เธอจะกลับโรงแรมได้ยังไงล่ะ เฮ้อ ย้อนไปเวลาก่อนหน้านี้ร่างบางของสุพัตราที่กำลังดันโต๊ะและตู้เอาไปปิดประตูเอาไว้เพื่อที่จะไม่ให้ใครเข้ามาได้ก่อนที่จะดันของพวกนี้นั้นหญิงสาวได้ทำการล็อกห้องเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจตรงนี้แล้วสุพัตราก็ทำการดึงผ้าปูที่นอนกับผ้าม่านออกมาและเอามามัดรวมกันให้เกิดความยาวที่สามารถทำให้เธอลงไปข้างล่างอย่างปลอดภัย “ช่วยด้วยคะ ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยฉันที” สุพัตราตะโกนร้องออกมาเสียงดังก่อนจะเดินออกไปดูหน้าระเบียงว่ามีใครเข้าไปในบ้านหรือยังเมื่อเห็นว่ายังไม่มีใครได้ยินก็ร้องตะโกนออกไปอีกจนการ์ดที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดอยู่มีสีหน้าแตกตื่นก่อนจะพากันวิ่งขึ้นมาบนห้องของเธอที่อยู่ชั้นสอง “คุณสุพัตราครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” คาร์ลอสเอ่ยถามหญิงสาวที่อยู่ข้างในห้องด้วยหน้ากังวลกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนในห้องก่อนจะพยามเปิดห้องก็เปิดไม่ได้เมื่อห้องมันล็อกจากข้างในก่อนจะสั่งให้ลูกน้องไปหยิบกุญแจให้มาเปิดห้อง ระหว่างรอก็ตะโกนถามคนข้างในด้วยอาการร้อนรน ก็จะไม่ให้เขาร้อนรนกระวนกระวายใจได้ยังไงเล่าก็ผู้หญิงคนนี้เป็นคนสำคัญของนายถ้าเกิดเธอเป็นอะไรไปนายเอาเข้าตาแน่เลย “คุณสุพัตราครับ ได้ยินที่ผมพูดหรือเปล่าครับ” คาร์ลอสเอ่ยถามคนข้างในอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบ ทางคนด้านในที่ตอนนี้กำลังมัดผ้าปูที่นอนเสร็จพอดีก็ตะโกนออกไปอีกเพื่อให้คนด้านนอกยิ่งแตกตื่นกันไปอีกก่อนจะทำการค่อยๆโหนผ้าที่มัดไว้กับระเบียงเมื่อเท้าแตะพื้นแล้วสุพัตราก็ไม่รอช้ารีบวิ่งออกไปทันทีแต่ก็เกิบหาที่หลบแถบไม่ทันเมื่อเห็นชายชุดดำใส่แว่นเดินกำเดินผ่านมาทางนี้ เมื่อชายชุดดำผ่านไปแล้วหญิงสาวก็ค่อยย่องออกไปอย่างเงียบเฉียบจนไปถึงกำแพงหลังคฤหาสน์หญิงก็กระทำการปีนขึ้นกำแพงทันที่การปีนกำแพงขนาดสูงใหญ่ผ่านไปอย่างทุลักทุเลจนในที่สุดหญิงสาวก็ปีนผ่านไปอย่างสำเร็จด้วยดี เท้าบางในรองเท้าผ้าใบสีขาวแตะพื้นเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็ไม่รอช้าให้คนพวกนั้นตามมาก็ออกแรงวิ่งไปทางข้างหน้าทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม