[บทบรรยาย : เสือ]
ร้านเหล้าหลังมอ
ผมก็ไม่ได้อกหักทำไมต้องมานั่งแดกเหล้าอะไรตอนนี้ด้วยวะ แต่ก็ช่างมันเถอะปกติผมก็ดื่มกันประจำอยู่แล้ว ชีวิตผมมันก็มีไม่กี่อย่าง ออกจะน่าเบื่อซะด้วยซ้ำ อะไรใหม่ๆ ก็เริ่มไม่เร้าใจไอ้เสือไปซะแล้ว
"ไม่เลิกได้ไหม.."
คำพูดของรินรดายังติดอยู่ในหัวผมไม่หาย ไหนจะท่าทาง แววตาที่มองผมอย่างมีเยื่อใยแบบนั้นอีก มันทำให้ผมไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ ผมไม่ใช่คนดีอย่างที่เธอมอง ผมไม่เคยพอใจในสิ่งที่ผมมี ตอนนี้ผมไม่พร้อมจะรักใครทั้งนั้น ไอ้เสือคนนี้ไม่อยากให้คนที่ดีต้องมาฝากชีวิตไว้กับผม
ทำไมผมจะดูเธอไม่ออก..
ผมอยากทำยังไงก็ได้ให้เธอเกลียดผมไปเลยยิ่งดี อย่ามายุ่งกับคนเลวๆ แบบผมเลย อีกอย่างผมไม่ได้ต้องการความรักจากเธอ
ไม่ชอบผูกมัด ไม่ต้องยึดติ ไม่ต้องคอยระแวงนั่งจับผิดกันไปมา
"เสือมึงเป็นไรป่าววะ"ไอ้บาสมันหันมาถามพลางยื่นแก้วเหล้ามาให้ผมด้วย ทุกเย็นผมก็จะมานั่งรับลมหน้าหอพักนี่แหละ พอไม่มีอะไรทำหัวมันก็จะว่างเลยต้องหาอะไรกระแทกปากหน่อย
"ป่าว กูเครียดนิดหน่อย"ผมว่า แต่มันก็ไม่หน่อยหรอก แต่ก็ช่างแม่งเถอะ คิดเยอะไปก็ปวดหัวเปล่า แดกเหล้านี่ดีที่สุดละ
"เรื่องรินหรอวะมึง"
"อือ"ผมตอบไอ้ปาร์คมัน เสียงมือถือของผมมันยังคงดังขึ้นต่อเนื่อง เสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นก็ดังต่อเนื่องเช่นกัน
"ไม่รับหน่อยหรอไอ้เสือ"
"อืม"ผมว่าพลางช้อนสายตามองมันด้วยความไม่พอใจสักเท่าไหร่ แล้วก็ปล่อยให้มือถือมันดังอย่างนั้นต่อไป เดี๋ยวหมดความพยายามก็เลิกตื้อผมไปเอง
"ไอ้เสือ.. สรุปมึงจะเอายังไงกับน้องมันกันแน่วะ น้องมันเสียใจนะมึง" มันห่วงออกหน้า ออกตาขนาดนี้ทำไมไม่ไปสารภาพรักกับเธอเองเลยวะ จะมาบังคับผมทำไมกัน
"มึงก็ไปปลอบเขาสิ เห็นชอบทำหน้าที่แทนกูอยู่เรื่อย"ผมว่าพลางกระดกเบียร์เข้าปากตัวเองรวดเดียวหมด สายตาคาดคั้นมองไอ้ปาร์คอย่างเอาเรื่อง
ตอนที่ผมบ้าใครก็ห้ามไม่อยู่หรอก ฮึ
"เห้ยเสือ มึงหมายความว่าไงวะ"
"เฮอะ ปาร์ค.. มึงอย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึงคิดอะไรอยู่"
[บทบรรยาย : รินรดา]
ใจแลกใจ มันใช้ไม่ได้กับทุกคน ..โดยเฉพาะเขา 'พี่เสือ'
ฉันนั่งกอดเข่าร้องไห้ในห้องนอนของตัวเองคนเดียว สายตามองทอดออกไปนอกหน้าต่างที่ฝนกำลังตกแรงลงมากระทบที่พื้นโลก สายตาฉันพร่ามัวจากการร้องไห้ น้ำตามากมายหลั่งไหลออกมาราวกับสายฝน ฉันไม่สามารถหยุดเสียงสะอื้นของตัวเองได้เลย
ยิ่งข่มเอาไว้ก็ยิ่งเจ็บปวด..
ฉันเชื่อแล้วว่าไม่มีใครสามารถกอดฉันได้อุ่นเท่าตัวของเราเอง ในวันนี้ทุกอย่างมันเริ่มเผยปมออกมาช้าๆ ว่าฉันไม่เหมาะที่จะมีความรักเหมือนคนอื่น หรือบางทีการอยู่คนเดียวสำหรับฉันมันอาจจะดีกว่า
"ริน.. แกให้ฉันเข้าไปเถอะ"เสียงขิมดังขึ้นจากหน้าประตู ฉันอยากจะขอโทษเธอมากที่ทำให้ไม่สบายใจ จนต้องมาวุ่นวายเพราะฉัน เพราะฉันคนเดียว
"ขอโทษนะ ..แต่เราอยากอยู่คนเดียว"
พี่เสือเขาพูดออกมาได้ยังไงกันว่าเขามีคนอื่น ..เขาพูดมันออกมาได้หน้าตาเฉยได้ยังไงกัน ในเมื่อฉันกับเขาเรามีอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น มันคือความผิดพลาดของฉันเอง ฉันโง่เองที่หลวมตัวเข้าไปเป็นเหยื่อของเขา
ฉันมันโง่เอง..
เสียงฝนจากด้านนอกไม่ได้กลบให้เสียงสะอื้นของฉันเบาลงเลยสักนิด ที่ผ่านมาความซื่อสัตย์และไว้ใจของฉันไม่ได้ทำให้เขาหันมามองฉันได้เลยงั้นสินะ ความรักที่ฉันมอบให้เขามันไม่มีอยู่จริงในสายตาของเขาเลยใช่ไหม ท้งหมดมันคือความโง่เง่าของฉันเอง
ฉันรักเขามากเกินไป..
"รินแกให้ฉันเข้าไปเถอะนะ ฉันขอร้อง ฉันเป็นห่วงแกนะเว้ย.."ขิมตะโกนผ่านประตูเข้ามา ก่อนที่ฉันจะค่อยๆ รวบแรงฮึดของตัวเองเพื่อเดินไปเปิดประตูให้เธอเข้ามา ยังไม่ทันที่ฉันจะรอให้ขิมพูดอะไรฉันก็พุ่งตัวเข้าไปสวมกอดเพื่อนรักตัวเองเอาไว้แน่นซะแล้ว
ฉันเสียใจจริงๆ นะ.. มันเจ็บปวดจนพูดไม่ออก
"ขิม ..ฮึ่ก เราไม่อยากเลิก ทำไมพี่เสือทำกับเราแบบนี้" ฉันฟูมฟายหนัก มันเป็นอะไรที่บีบเค้นหัวใจอย่างมาก มันทรมานเหลือเกินกับการที่เลิกกันทั้งๆ ที่ยังรักอยู่เต็มหัวใจ แต่ฉันรั้งเขาไว้ไม่ได้ ไม่ว่าจะทำยังไงเขาก็คงไม่หวนคืนกลับมาหาฉันแล้ว
วันแรกที่เจอกันฉันตกหลุมรักเขาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ฉันไม่รู้ตัวว่าตัวเองเริ่มมองแต่เขาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้อีกทีในสายตาฉันก็มีแต่เขาไปซะแล้ว อีกทั้งวันนั้นเขาก็เดินเข้ามาสานความฝันของฉันให้เป็นจริง ทำให้ฉันมีความสุขมากที่สุด ...และสุดท้ายเขาก็เป็นคนดับฝันของฉันด้วยมือเขาเอง
"นั่งลงแล้วใจเย็นๆ ก่อนนะริน" ฉันเดินลงมานั่งที่ปลายเตียงขิมเองก็นั่งลงข้างๆ ฉันเช่นกัน ตอนนี้ฉันพูดอะไรไม่ออกแล้วก็เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว
จะมีใครเป็นเหมือนฉันบ้างหรือเปล่ากับการที่รั้งคนที่ไม่มีทางอยู่ เสียน้ำตาให้กับคนที่รู้ว่าเขาไม่เห็นค่า แต่ทำไมฉันถึงยังดื้อด้านที่จะทำ ทำไมฉันถึงไม่แคร์ความรู้สึกของตัวเองบ้าง
ทำไมเขาถึงใจร้ายกับฉันเหลือเกิน
ยอมรับว่าเขาคือส่วนนึงในความทรงจำที่ดีของฉัน ถึงแม้เราจะไปกันไม่ถึงฝั่งแต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณเหลือเกินที่ให้โอกาสฉันได้พิสูจน์ตัวเอง ยินดีกับเขาด้วยที่เจอคนที่ตัวเองอยากอยู่ใกล้ อยากใช้ชีวิตด้วย
ใครก็ได้ ..ที่ไม่ใช่ฉันคนนี้
"ริน.. แกเล่าเรื่องที่แกพลาดได้ไหม พี่มันทำอะไรแก"
"ระ เรื่องนั้น.."ฉันกระอึกกระอักก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ มองหน้าเพื่อนรักตัวเองแล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาอีกรอบ
"แกกับมันได้กันแล้วใช่ไหม"
ฉันพยักหน้ารับช้าๆ จะว่าพลาดก็ใช่ เพราะฉันไม่ยอมคิดหน้าคิดหลังให้ดีว่าฉันเองไม่ได้มีอะไรดีที่จะทำให้เขาหันมาสนใจฉันได้เลย ฉันคือรินรดายัยเฉิ่มแว่นหนา ไม่มีลีลาเด็ดอะไรเลยสักอย่าง ฉันไม่มีอะไรที่จะมัดใจผู้ชายที่ไวไฟอย่างพี่เสือได้เลย
ไม่แปลกที่เขาจะเขี่ยฉันทิ้ง..
"ฉันจะไปเอาเลือดหัวมันออก!"
"ขิม.. ขิมจะไปไหน! " ฉันพรวดพราดวิ่งตามขิมลงมาจากด้านบน ก่อนจะเดินไปขวางทางเปิดประตูรถของขิมเอาไว้ ฉันสายหน้าช้าๆ เพื่อบอกว่าฉันไม่เป็นอะไร ทั้งๆ ที่มันเจ็บเจียนตายอยู่แล้ว
ความรู้สึกของฉันพังไม่เป็นท่า..
"แกจะปล่อยไปได้ยังไงวะ ใครมันทำอะไรไว้ มันก็ต้องรับผิดชอบ! "
"อย่าเลยนะ เราไม่อยากมีปัญหา"
"ริน.. อย่ายอมมันดิวะ แกเสียหายนะเว้ย มาหลอกฟันแบบนี้ฉันรับไม่ได้ แกขึ้นรถไปกับฉัน" ขิมลากฉันขึ้นรถไปด้วย แล้วขิมก็คงจะรู้ว่าควรจะไปหาเขาที่ไหนในเวลานี้ เมื่อก่อนฉันก็ออกตามเขาบ่อยๆ เวลาที่พี่เสือชอบไปนั่งดื่มที่ร้านเหล้าและฉันก็ห่วงสุขภาพของเขาเนื่องจากการดื่มหนัก
นับจากนี้คงไม่มีใครห้ามเขาแล้วสินะ..
ร้านเหล้าหลังมอ
ฉันนั่งตัวสั่น มือสั่น ใจสั่นไปหมด ฉันกลัวการเผชิญหน้ากับเขาในครั้งนี้ สายตาของฉันก็สั่นระริกหวาดระแวงสิ่งรอบข้างทั้งเสียงฝน เสียงลมแล้วก็เสียงความคิดของตัวเอง ภาพนี้เหมือนมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งนึง ภาพที่ฉันมาตามพี่เสือบ่อยๆ
แต่คนละความรู้สึกเท่านั้นเอง
"ขิม.."
"มีความมั่นใจหน่อยดิริน มึงต้องไม่เสียหายฟรีๆ นะเว้ย"ขิมพูดเพื่อเรียกความมั่นใจของฉันออกมา แต่ทำไงได้ฉันไม่มีความมั่นใจอะไรเลยในตอนนี้ ยิ่งเห็นเขาอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ แล้วมีสาวสวยรายล้อมแบบนั้นหัวใจของฉันมันก็ยิ่งเจ็บปวด
"ขอคุยด้วยหน่อยดิ"ขิมพูดกับพี่เสือด้วยน้ำเสียงที่แข็งก้าว ฉันเองก็ได้แต่ยืนหลบอยู่หลังขิมไม่กล้าเสนอหน้าตัวเองไปมองเขาหรือเพื่อนๆ ของพี่เสือได้เลย
"มีอะไร"
"ได้มันแล้ว จะทิ้งมันเหรอวะ"
"ถ้ามาหาเรื่องก็กลับไปเหอะ"
"หาเรื่องเหรอวะ ขิมต้องการคำอธิบายว่าทำไมถึงทำแบบนี้กับเพื่อนขิมวะ"
"น้องจะให้พี่อธิบายยังไงล่ะครับ บอกไปเดี๋ยวเพื่อนน้องก็ร้องไห้อีก"พี่เสือตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ซึ่งฉันเองก็หันมองเขาแล้วก็สบตาเขาเช่นกัน
ฉันไม่ได้โง่พอที่จะไม่รู้ว่าเขากำลังสื่ออะไร
"ตอแหล! ผู้ชายห่าอะไรวะ เพื่อนขิมไม่ใช่ของเล่น มันรักพี่มากพี่ก็รู้.. เป็นบ้าอะไรวะ"
"น่าเบื่อ จืดชืด ไม่มีรสชาติ" คำตอบของเขาทำเอาฉันอึ้งไม่น้อย ทุกประโยคที่ออกมามันเหมือนกับที่ผู้หญิงพวกนั้นพูดไม่มีผิด
ฉันมันเฉิ่ม มันน่าเบื่อ ไม่มีอะไรเด็ดอีกไม่นานเขาก็คงจะเขี่ยฉันทิ้ง
เฮอะ สมเพชตัวเองชะมัด
ฉันยืนกำหมัดแน่นท่ามกลางความตกใจของขิมและสีหน้าที่เหว๋อไม่น้อยของเพื่อนๆ พี่เสือ ทุกอย่างมันคงจะชัดเจนเรื่อยๆ แล้วว่าที่ผ่านมา ฉันเองต่างหากที่คิดไปเอง
"งั้นเหรอคะ.."ฉันโผลงขึ้นมา พี่เสือมองฉันนิ่งๆ แล้วเบือนหน้าไปทางอื่น ฉันก้าวมายืนตรงหน้าโต๊ะที่เขานั่งอยู่ ตรงหน้าของพี่เสือพอดี ในร้านคนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่เพราะยังไม่มืดมาก ทุกคนให้ความสนใจเราสองคนเพราะเราค่อนข้างใช้เสียงดังในการโต้ตอบกัน สายตาฉันกวาดมองไปรอบๆ โต๊ะของเขาแล้วแสยะยิ้มขึ้นมาน้อยๆ ก่อนจะปลดกระดุมนักศึกษาของตัวเองออกทีละเม็ด เสียงโห่ปากจากเพื่อนของเขาก็ดังขึ้นมาติดๆ
"จะทำอะไร ไม่อายคนหรือไงหะ"
"รินแกจะทำอะไร "ขิมร้องเสียงหลง แต่ตอนนี้ฉันห้ามความคิดตัวเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ถ้าฉันดีกับเขาขนาดนี้ เขาจะไม่ใยดี มันก็ควรถึงเวลาพอ
"ทำให้เขารู้ว่าฉันไม่ได้จืดชืด ไม่ได้น่าเบื่อ ไม่ได้ไม่มีรสชาติ แต่เขาต่างหากที่เลือกกินไม่เป็น.."ฉันพูดกรอดไรฟันก่อนจะถอดเสื้อนักศึกษาออกเหลือแค่เสื้อกล้ามตัวเล็กกับเสื้อชั้นใน ก่อนที่จะตามมาด้วยกระโปรงพีชยาวคุมถึงตาตุ่ม ฉันก็ถอดออกจนเหลือแค่กางเกงขาสั้นที่ผ่าลึกจนเห็นขาอ่อน
พี่เสือมีอาการตกใจไม่น้อยที่เห็นฉันทำแบบนี้ในที่สาธารณะชน ลมเย็นจากแอร์ก็ไม่ได้ทำให้ใจฉันเย็นลงเลยสักนิด แต่ผู้ชายตรงหน้าฉันต่างหากที่เขากำลังจุดไฟในใจฉันอยู่
คนเลว..
"ริน!"เขาตวาดเสียงดังลั่นร้าน
ฟุ่บ! ฉันถอดกระโปรงออกก่อนจะโยนมันลงไปที่หน้าตักของคนตัวสูง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องโวยวายจากสาวๆ ของเขา แต่ฉันก็ไม่หวั่นสบม่านตาสั่นๆ ของพี่เสือไม่ละสายตาไปไหน เขากำลังโกรธจัดทำไมฉันจะมองไม่ออก ถ้าสิ่งที่ฉันทำในวันนี้มันดูเลวร้ายแล้วถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาทำกับฉันล่ะ
แค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ..
"รินให้ค่ะ ..เผื่อพี่อยากใส่กระโปรงแทนกางเกง"