‘เช่นนั้นพ่อครูนั่งพักให้อารมณ์เย็นลงก่อน ข้าจะไปตามมันกลับเรือนเอง’
ทองอินทำเพียงพยักหน้า ปล่อยให้ชายหนุ่มลงจากเรือนไปตามบุตรสาวให้ โดยไม่รู้เลยว่าหลังจากที่มะลิวิ่งลงจากเรือนไปนั้น หล่อนก็วิ่งไปที่ท้ายหมู่บ้านแล้วตั้งใจกระโดดแม่น้ำฆ่าตัวตายประชดผู้เป็นพ่อ
เคราะห์ดีที่ไอ้แผนตามไปถูกที่และทันเวลา หล่อนเลยถูกช่วยขึ้นมาได้ ทว่าก็อยู่ในสภาพหมดสติไปสามวัน สามคืน ไม่ตอบสนองสิ่งใดจนบิดาเป็นห่วงไปหมด
แต่หลังจากนั้น หล่อนก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับสีหน้าเหลอหลาซีดเซียว และคำถามแปลกประหลาด
‘ที่นี่...ที่ไหน’
ดูเหมือนหล่อนจะไม่รู้จักใครที่นี่เลย ต้องแนะนำกันใหม่หมดว่าใครเป็นใคร และใช้เวลาพักใหญ่ทีเดียวกว่าที่มะลิจะกลับมาลงร่องลงรอยอย่างเคย
ความจริง...จะบอกว่าลงร่องลงรอยก็ไม่เชิงนัก เพราะนอกจากที่หล่อนจะจำใครไม่ได้แล้ว ยังมีอาการ ผิดปกติไปอีก โดยเฉพาะสายตาที่ใช้มองเขา
ใช่...มองไอ้แผน
สายตานั้นเว้าวอนอ่อนหวาน บางคราก็ฉ่ำเยิ้มคล้ายกับหมาได้เห็นกระดูก จนไอ้แผนขนลุกเกรียวไปทั้งตัว
อะไรไม่ว่า หล่อนเพิ่มความขนลุกขนชันมากขึ้นไปอีกหลังจากลำดับเหตุการณ์ได้ว่าสาเหตุที่ตนไปกระโดดแม่น้ำฆ่าตัวตายเป็นเพราะอะไร
‘โอ๊ย! ใครจะไม่อยากแต่งกับคุณพี่แผน อยากแต่งจะตาย กระโดดน้ำฆ่าตัวตายอะไร ไม่มี้! นั่นมันอุบัติเหตุเจ้าค่ะ! ลื่นตกน้ำๆ!’
แล้วหลังจากนั้น มะลิก็เปลี่ยนไปราวกับหน้ามือหลังมือ โดยเฉพาะการเรียกไอ้แผนว่า ‘คุณพี่’ และแทน ตัวเองว่า...
“เอ็งแน่ใจแล้วนะที่พูดมาน่ะ”
ไม่ทันจะได้คิด เสียงของทองอินที่นั่งฟังคำของว่าที่ลูกเขยอยู่บนแคร่ตัวเดียวกับคนตรงหน้าก็โพล่งขึ้น
ไอ้แผนเหลือบมองใบหน้าหยาบกร้านบ่งบอกการผ่านโลกมาเป็นอย่างดีแล้วพยักหน้ารับ
“ขอรับ ข้าไม่แต่ง”
ไม่เอาแล้ว ไม่แต่ง ไม่ดองอะไรทั้งนั้น ขณะที่ทองอินฟังแล้วก็ถอนหายใจยาว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไอ้แผนมาบอกกับตนเรื่องนี้ เขามาพูดหลายรอบแล้ว ซึ่งทองอินก็เข้าใจในความหมายดี แต่ทว่า...
“แต่มะลิมันอยากแต่งกับเอ็งนะ”
นี่แหละปัญหา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจู่ๆ มะลิก็ลุกขึ้นมาพูดว่า...
‘หนูอยากแต่งเป็นเมียคุณพี่แผนเจ้าค่ะ’
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าดีดดิ้นจะเป็นจะตายให้ได้เมื่อรู้ว่าตนถูกยกให้ชายหนุ่มผู้นี้
“แต่ข้าไม่อยากแต่งกับมันจริงๆ พ่อครู ขอเถอะ อย่าตอแยข้าด้วยเรื่องนี้เลย”
ไอ้แผนพรูลมหายใจ ตอบไปตามสัตย์จริงในใจ เขาไม่ได้รำคาญที่ทองอินมักพูดเรื่องนี้กับตนอยู่บ่อยครั้ง แต่ลำบากใจมากกว่า และก็เชื่อว่าทองอินลำบากใจมากเช่นกันด้วยบุตรสาวเอาแต่พร่ำเพ้อถึงเขาไม่เลิกรา
รอดตายมาได้ก็หัวเพี้ยนจิตผิดปกติไปหมด สงสัยหัวคงจะกระแทกกับโขดหินเข้ากระมัง ถึงได้เปลี่ยนไปเพียงนี้
และมันก็ทำให้ทองอินต้องครุ่นคิด “หรือเอ็งจะรังเกียจเพราะมันเพี้ยนไปจากแต่ก่อนกันวะ”
หญิงวิปลาส ไม่มีผู้ใดอยากได้เป็นเมียหรอก แม้แต่ไอ้แผนเอง
“หาใช่เพราะเหตุผลนั้นดอกพ่อครู”
“เอ้า หาใช่เหตุผลนั้น แล้วเอ็งตัดเยื่อใยเพื่อกระไร”
“ก็ข้า...”
ไม่อยากถูกนางรวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัวน่ะสิ!
ไอ้เรื่องเพี้ยนไปไม่เท่าไร แต่ถูกสายตาของหล่อนแทะโลมทั้งวี่ทั้งวัน มันทำให้ชายหนุ่มอย่างเขากระดากอยู่ ไม่น้อย ทั้งกระดากใจและกระดากอาย
แต่ไม่ทันจะได้พูด เสียงหวานของใครบางคนก็ดังแว่วมาให้ได้ยินแล้ว
“คุณพี่แผน!”
หาใช่ใครที่ไหน เสียงของมะลิที่แสล๋นหน้ามาพร้อมกับขันน้ำในมือนั่นล่ะ
มาแล้ว!
ไอ้แผนคิดในใจ ขมวดคิ้วยู่ ขณะที่มะลิตรงมานั่งข้างๆ แล้วยื่นขันน้ำให้
“คุณพี่มาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำดื่มท่าก่อนสิเจ้าคะ หนูเอามาให้”
‘หนู’...เป็นการเรียกแทนตัวเองของมะลิในตอนนี้ ซึ่งมันแปลกหูเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับเขา
หนูอะไร ไม่ได้น่าเอ็นดูสักนิด!
ทว่าจะตัดไมตรีเลยก็เกรงใจสายตาพ่อครูที่มองมา ได้แต่รับขันน้ำมาแล้วว่าพึมพำ
“ขอบใจ”
มะลิยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มองดูไอ้แผนกระดกดื่มน้ำในขันอย่างระแวดระวัง
ย่อมแน่ว่าเขาเกรงนังมะลิจะวางยาในน้ำให้เป็นอะไรตายห่าขึ้นมาสักอย่าง เผลอๆ จะเล่นคุณไสยกับเขา ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่พอดื่มเข้าไปแล้วไม่เป็นไร ไอ้แผนก็หายใจทั่วท้อง
“แล้วพ่อกับคุณพี่แผนคุยอะไรกันอยู่รึเจ้าคะ หนูเห็นนั่งคุยอยู่ตั้งนานสองนานแล้ว”
รู้ทั้งรู้ก็ยังจะมาถามว่าคุยเรื่องอะไร ไอ้แผนโผล่หน้ามาคุยเรื่องนี้บ่อยแล้ว จึงไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมา ให้มะลิได้กระเด้งตัวน้อยๆ
“อ๊ะ หรือว่า...จะคุยเรื่องแต่งงานกันอยู่เจ้าคะ”
เป็นเรื่องนั้นแหละ ไอ้แผนเบือนหน้าหนี ไม่อยากจะมองดวงหน้าสวยได้รูปที่กระดี๊กระด๊าจนเกินงามสักเท่าไรนัก
เพี้ยนจริงๆ ด้วย วิปลาสไปหมดแล้ว
ขณะที่ทองอินเห็นจริตของบุตรสาวแล้วก็ได้แต่ออกปากดุ
“ให้มันน้อยๆ หน่อยนังมะลิ อย่าออกหน้าออกตานัก”
“ก็แหม หนูดีใจนี่คะที่พ่อกับคุณพี่มาปรึกษาเรื่องนี้กันทุกวันเลย อยากแต่งงานกับหนูก็ไม่บอก”
ยังจะตบท้ายด้วยการหันไปหัวร่อต่อกระซิกกับไอ้แผนที่ทำหน้าเคร่งเครียด
นี่หล่อนดูไม่ออกหรือไรว่าไอ้แผนขยาดหล่อนเต็มทนแล้วน่ะ!
ทองอินได้แต่คิดในใจ แล้วก็ห้ามปรามบุตรสาวอีกครั้ง
“ข้าบอกอย่าออกหน้าออกตานัก มันไม่งาม ก็ยังไม่ฟัง ประเดี๋ยวก็ฟาดด้วยขัน”
ไม่พูดเปล่า ยังจะแย่งขันจากมือไอ้แผนมาหมายจะเคาะหัวบุตรสาวด้วย ดีนะที่ไอ้แผนถือไว้แน่น ไม่อย่างนั้นมะลิได้หัวปูดเป็นลูกมะกรูดแน่
“พ่ออ้ะ ก็หนูอยากรู้นี่ว่าเมื่อไรจะได้แต่งงานกับคุณพี่เขา”
มะลิทำแก้มป่อง จีบปากจีบคอพูดอย่าง...น่ารักกระมัง
ไม่มีผู้ใดเลยมองว่าหล่อนน่ารัก แม้ว่าหน้าตาในยามนี้จะน่าเอ็นดูสำหรับสายตาของชายอื่นก็ตาม แต่สำหรับ ทองอินและไอ้แผนแล้ว ยิ่งมองก็ยิ่งต้องเบือนหน้าหนีพร้อมกับความระอา
โผล่มาทีไรเป็นต้องได้เรื่องทุกที เรียกว่ามาทีวงแตกก็เป็นได้
และก่อนที่บุตรสาวจะทำหน้าทำตาชวนโดนตีนของเขาไปมากกว่านี้ ทองอินก็ต้องพูดขึ้นมา