bc

Rose 'กุหลาบ'

book_age12+
83
ติดตาม
1K
อ่าน
love-triangle
ครอบครัว
จบสุข
มีชู้
ข่มขี่
เจ้านาย
ชายจีบหญิง
เบาสมอง
วิทยาลัย
ความลับ
like
intro-logo
คำนิยม

เมื่อเธอแอบรักเพื่อน แต่เพื่อนคนนั้นกลับรักเพื่อนสนิทของเธอ ความเจ็บปวดจึงมาพร้อมกับการถอยห่างแต่ทำไมกัน ในวันที่เธอเริ่มที่จะตัดใจ เขาถึงได้ทำเหมือนรู้สึกกับเธอเกินกว่าเพื่อน แต่เมื่อเธอเลือกที่จะเปิดเผยความรู้สึก เขากลับเปลี่ยนไป...

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
Rose 1
Rose 1 “มายด์จะกลับไปแต่งตัวก่อนไหม หรือจะรอไปพร้อมกัน” เสียงหวานของเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉันเอ่ยถามอย่างใส่ใจ ส่วนฉันที่กำลังจัดดอกไม้อยู่ก็นั่งครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อน แล้วตอบกลับไปเมื่อตัดสินใจได้แล้ว “ว่าจะกลับก่อนน่ะ อยากอาบน้ำด้วย” ปากเจรจาโต้ตอบ ส่วนมือก็วุ่นกับการปักดอกไม้ใส่แจกันเป็นพัลวัน เพราะต้องรีบทำตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งเข้ามา อ้อ ฉันน่ะชื่อมายด์ ปีนี้อายุยี่สิบเก้าปีแล้ว เหมือนความฝันเลยไม่คิดว่าตัวเองจะอายุใกล้เลขสามมากขนาดนี้ ร้านดอกไม้ที่ฉันทำงานอยู่นี้ ก็เป็นร้านของพิมพ์ใจเพื่อนสนิทของฉันเองค่ะ นอกจากนี้ฉันยังเป็นหุ้นส่วนของที่ร้าน ประมาณสิบเปอร์เซ็นต์ได้มั้งนะ และยังเป็นผู้จัดการร้านด้วย แน่นอนว่าได้ทำงานที่ชอบกับเพื่อนสนิท ตั้งแต่เริ่มเปิดร้านมาจนถึงตอนนี้ จึงไม่มีวันไหนเลยที่ฉันไม่มีความสุข “แล้วแกจะไปยังไง?” พิมพ์ใจยังถามต่อ ถามจบก็เดินไปหยิบกรรไกรที่โต๊ะ ก่อนจะเดินมาใกล้ ๆ เพื่อช่วยฉันจัดช่อดอกไม้ต่อ “คงไปเองแหละ แกล่ะ” ฉันถามกลับไปบ้างอย่างสงสัย วันนี้มีงานเลี้ยงรุ่นน่ะ เรานัดกันที่ร้านอาหาร แต่หากเพื่อนจะดื่มด้วยคงไม่ดีหากจะขับรถไปเอง เหมือนฉันที่รู้ตัวว่าจะดื่มแน่ ๆ เลยเลือกไม่ขับรถไปยังไงล่ะ “ไปเองเหมือนกัน วันนี้ไม่อยากดื่มน่ะว่าจะขับรถไป” อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเราก็เงียบกันไปสักพัก จนน้องมาลีที่จัดดอกไม้อยู่ข้าง ๆ พึมพำอะไรบางอย่างกับตัวเองก่อนจะร้องเยส! ออกมาแล้วอุ้มช่อดอกไม้ที่จัดเสร็จเรียบร้อยแล้วไปเก็บไว้ในตู้แช่ จากนั้นน้องก็วิ่งไปทางหลังร้านทันที “อ้อ เดี๋ยวจะสั่งข้าว แกเอาอะไรพิมพ์” ครั้งนี้ฉันรีบถามเพื่อนสนิท เมื่อเหลือบสายตามองนาฬิกาบนผนังร้าน แล้วเห็นว่าตอนนี้มันสิบเอ็ดโมงครึ่งแล้ว ทุกวันฉันมีหน้าที่สั่งข้าวและกาแฟมาให้ทุกคนในร้านน่ะ เป็นหน้าที่ที่ฉันชอบมาก เพราะได้เลือกร้านอาหารอร่อย ๆ ให้ทุกคนกิน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็มีร้านประจำอยู่ด้วยนะ “อยากกินกะเพราหมูกรอบ” พิมพ์ใจตอบ “ได้เลย งั้นเป็นร้านตามสั่งร้านประจำนะ” ฉันสรุปเสร็จสรรพ มือก็ล้วงโทรศัพท์ออกมากดสั่งข้าว “เหมยเหมย กินอะไรดีลูก” เลือกรายการของพิมพ์ใจเสร็จ ก็เงยหน้ามองน้องเหมยเหมยที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์คอยตอบออเดอร์ของลูกค้าอยู่ด้วยท่าทางตื่นเต้น “ตามสั่งเหรอคะ?” น้องเหมยเหมยถาม “ใช่แล้ว มาลีวันนี้สั่งร้านตามสั่ง กินอะไรไหม” ท้ายประโยครีบเอ่ยบอกน้องมาลี พนักงานอีกคนของร้านที่เปิดประตูเข้ามาพอดี “หนูเอากะเพราหมูสับค่ะพี่มายด์” น้องตอบคำถามฉัน ระหว่างนั้นก็เดินไปประจำจุดของตัวเองต่อ “หนูเอาเหมือนพี่มาลีค่ะ” น้องเล็กอย่างเหมยเหมยตอบกลับมาอีกคน ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ เมื่อโดนมาลีเอ่ยแซวว่าเจ้าตัวคิดเมนูไม่ออกจนต้องขอลอกเมนูกัน ซึ่งน้องเล็กในร้านก็ยอมรับอย่างง่ายดายว่าคิดไม่ออกจริง ๆ “พิมพ์...แล้วของน้องขวัญล่ะ” เอ่ยถามเพื่อนสนิทอีกครั้ง เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่ายังเหลือน้องอีกคนอย่างพิมพ์ขวัญที่ตอนนี้ยังไม่เข้าร้าน น้องขวัญน่ะเป็นน้องสาวของพิมพ์ใจ ที่ฉันเองก็พลอยรักเธอเหมือนน้องสาวแท้ ๆ ไปด้วย “อืม เอาคะน้าหมูสับมาให้น้องก็ได้” พิมพ์ใจสรุป ฉันทำมือโอเคเป็นการรับทราบ แล้วสั่งอาหารผ่านแอปฯ ตามรายการมื้อเที่ยงที่ทุกคนอยากกิน แอบสั่งเพิ่มไข่ดาวให้ทุกคนด้วยจะได้อิ่ม ๆ ส่วนเครื่องดื่มก็หันไปถามเด็ก ๆ ในร้านกับเพื่อนสนิทอีกรอบ จัดการกดสั่งพร้อมกันแล้วมานั่งรอของมาส่ง วันนี้ออเดอร์ที่ร้านเข้าเยอะมากเลยทีเดียว ฉันกับเด็ก ๆ ในร้านยืนจัดดอกไม้กันมือหงิกมืองอ แต่มันก็ดีที่มีลูกค้าสนใจมากขนาดนี้ เพราะนั่นเท่ากับว่าร้านเราจะมีรายได้เข้าร้านเยอะขึ้นยังไงล่ะ ระหว่างที่ยืนจัดดอกไม้อยู่ด้วยความตั้งใจ โทรศัพท์ที่อยู่ในเอี๊ยมสีน้ำตาลอ่อนของตัวเองก็ส่งเสียงเรียกความสนใจ พร้อมกับแรงสั่นน้อย ๆ ทีแรกฉันนึกว่าเป็นไรเดอร์ที่มาส่งอาหาร แต่พอหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนอีกคน อ่า ฉันเองก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าเป็น เพื่อน หรอก “ว่าไง” ฉันพยายามส่งเสียงทักทายอย่างเป็นกันเองกับคนปลายสาย (เย็นนี้จะไปรับ บอกพิมพ์ด้วย) ทว่าหัวใจที่กำลังเต้นรัวอยู่นั้น จู่ ๆ ก็พลันถูกบีบให้ชะงักค้างไป เมื่อได้ยินท้ายประโยคของอีกฝ่าย “อ้อ พิมพ์ใจ อาทิตย์ บอกว่าจะมารับแกนะ” ฉันป้องปากบอกเพื่อนสนิทที่ยืนจัดดอกไม้อยู่ไม่ไกลกันตามเขาบอก แต่ยัยพิมพ์กลับขมวดคิ้วสงสัยแทนการตอบรับเสียอย่างนั้น (...เราจะไปรับเธอด้วย) แต่เมื่อได้ยินฉันพูดแบบนั้น คนปลายสายก็รีบเอ่ยย้ำมาอีกประโยค แต่ฉันก็รู้อีกนั่นแหละว่าแท้จริงแล้วเขาอยากมารับแค่เพื่อนสนิทของฉันน่ะ “บอกเพื่อนหน่อยว่าเดี๋ยวเราไปเอง” พิมพ์ใจตอบกลับมาด้วยสีหน้าลำบากใจ ก็แน่ละ เพื่อนสนิทฉันรู้นี่นาว่าฉันคิดกับอะไรกับเพื่อนคนนี้น่ะ แต่ฉันไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจใครเลยนะ เพราะฉันไม่มีสิทธิ์ยังไงล่ะ “พิมพ์บอกจะไปเอง เราก็จะไปเองเหมือนกัน” ฉันรีบบอกปลายสาย แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นักที่ฉันบอกไปแบบนั้น (เราจะไปรับเธอที่คอนโดฯ ตอนทุ่มครึ่ง แค่นี้แหละ) เอ่ยจบก็วางสายไปทันทีไม่รอฟังฉันเลย “เป็นไง? คิ้วขมวดอะไรขนาดนั้นอะ” พิมพ์ใจเอ่ยถามคล้ายจะแซวกัน แต่คงดูออกว่าฉันไม่สบายใจสักเท่าไหร่ถึงได้เอ่ยถามเพียงเท่านั้น “ไม่ฟังเลย ฉันบอกว่าจะไปเองก็ยังจะมารับอีก” บ่นให้เพื่อนสนิทฟังอย่างไม่สบายใจเท่าไหร่นัก “เอาน่า เขาอยากมาก็ให้เขามาสิ ไม่มีอะไรเสียหายสักหน่อย” พิมพ์ใจพยายามปลอบ แต่ฟังยังไงก็ยังรู้สึกไม่ดีอยู่เหมือนเดิม “ใจฉันนี่ไงเสียหาย พูดแล้วเศร้าอะ เฮ้อ กินเหล้ากันไหม?” ฉันแกล้งเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้เพื่อนเป็นกังวลกับตัวเองไปมากกว่านี้

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook