กุลธิดา สกุลรักษ์ หรือกุล วัย 22 ปี ในวันนี้ หล่อนไม่เหมือนเดิมแล้ว ไม่เหมือนเด็กสาวเมื่อหลายปีก่อนที่เขาย่ำยี ไม่ใช่เด็กแบบเมื่อก่อนแล้ว ตั้งแต่ที่พ่อของเธอจากไปพร้อมกับชดใช้หนี้ที่กาสิโนของเขาจนหมดและมีเงินเหลือติดตัวมาตั้งหลักเรียนต่อ บวกกับเธอทำงานด้วย ชีวิตที่ไม่เคยลำบากก็ต้องมาลำบาก เมื่อต้องไปเรียนและอุ้มท้องไปเรียนด้วย ยอมรับว่าอายเพื่อนๆ ในคณะ แต่ทำยังไงได้เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เธอทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย และอุ้มท้องด้วยในตอนนั้น ชีวิตที่ผ่านมามันไม่ง่าย แต่เธอก็เรียนจนจบ และเมื่อเสียพ่อที่เป็นครอบครัวไปแล้วก็ยังมีลูกน้อยอย่างเด็กชายคชา หรือน้องแอล ลูกชายที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตเดียวดายของเธอให้ไม่เหงา และก็ยิ่งเจ็บปวดเมื่อย้อนถึงอดีต เพราะลูกชายนั้นถอดแบบคนเป็นพ่อมาทุกอย่าง หล่อนเกลียดเขา เกลียดจนทุกวันนี้ ภาพเก่าในอดีตยังคงตามมาหลอกหลอนในฝัน และวันนี้เธอก็ไม่เคยคิดว่าจะได้กลับมาเจอช้อยอีกครั้ง แต่ทุกอย่างก็เล่นตลกทำให้เธอเจอเขาที่ห้างสรรพสินค้า
ทุกห้วงความเจ็บปวด ความต่ำทรามที่เขายัดเยียดให้เมื่อครั้งอดีตยามที่มาเก็บดอกเบี้ยที่บ้านของเธอ เขาทำร้ายเธอราวกับโจรป่าก็มิปาน เขาไม่ต่างจากโจรถ่อยเลยสักนิด แม้ว่าเขาจะดูดี แต่งตัวด้วยชุดแบรนด์เนมราคาแพง แต่มันก็ซ่อนความเลวของเขาไม่ได้อยู่ดี หลายปีมานี้เธอคิดว่าตัวเองมีดีกว่าเมื่อก่อน เพราะไม่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง ตั้งแต่ย้ายมาอยู่คอนโดที่เหลือเป็นสมบัติสุดท้ายที่พ่อทิ้งไว้ให้ ส่วนบ้านหลังใหญ่ที่เคยอาศัยอยู่ก็ถูกกาสิโนยึดไปตั้งแต่ที่ท่านหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันเมื่อหลายปีก่อน
มือเล็กลูบแก้มเนียนของลูกชายตัวน้อยวัยสองขวบสองเดือน ทุกวันนี้เธอเปิดร้านเบเกอรี่เล็กๆ ที่ใต้ตึกของคอนโด โดยมีเดฟเป็นหุ้นส่วนด้วย เดฟคือเพื่อนคนเดียวที่ยังคงอยู่เคียงข้างเธอตั้งแต่สมัยเรียน หนุ่มต่างชาติที่พ่อแม่มาทำงานที่ไทยและได้รู้จักกับเธอ กุลธิดารู้มาตลอดว่าเดฟคิดยังไงกับตนเอง แต่เธอให้เขาเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น คนดีๆ อย่างเดฟต้องเจอคนที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่ผู้หญิงที่มีลูกติดแบบเธอ
“กุลโอเคนะ” เสียงเข้มของหนุ่มตาน้ำข้าวเอ่ยถามเพื่อน เมื่อเห็นว่าตั้งแต่กลับมาถึงคอนโด กุลธิดาเอาแต่จ้องหน้าของลูกน้อยที่หลับสนิทอยู่บนรถเข็น
“เราโอเค ขอบคุณเดฟมากนะ”
“อือ...ไม่เป็นไร ว่าแต่วันนี้จะเข้าร้านไหม”
“วันนี้กุลขออยู่ที่ห้องนะเดฟ อีกอย่างน้องแอลยังหลับไม่ตื่นด้วย ไม่รู้ทำไมวันนี้นอนนานจัง”
เธอยิ้มอ่อนโยนให้ลูกชายตัวเล็กที่เป็นครอบครัวเดียวของเธอและเป็นดวงใจของเธอ หากไม่มีเจ้าตัวเล็ก เธอคงจะฆ่าตัวตายไปนานแล้ว ไม่ปากกัดตีนถีบดิ้นรนมาถึงทุกวันนี้หรอก ไม่ตั้งใจเรียนหนักๆ เพื่อมีวันนี้หรอก แม้ว่าคนอื่นจะนินทา มองเธอไม่ดียังไง เธอก็ไม่สนใจ ขอแค่เธอรอดในสังคมเลวร้ายของปัจจุบันนี้ก็พอ
“งั้นเราไปร้านเองวันนี้ ไปดูเด็กที่ร้านสักหน่อย แล้วเราจะแวะขึ้นมาหาอีกทีตอนจะกลับนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกเดฟ เราโอเค”
“อย่าคิดมากนะ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว อีกอย่างเดฟไม่รู้หรอกว่ากุลกับเขาเป็นมายังไงกัน แต่มันก็ผ่านมาแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยให้กำลังใจเพื่อน ใช่...เธอคือเพื่อนที่เขาอยากเลื่อนสถานะไปเป็นแฟน แต่กุลธิดาไม่เคยเปิดใจให้เขาเลยสักครั้ง ทั้งๆ ที่เขาก็ชัดเจนมาตลอดว่าชอบหล่อน
“เดี๋ยวเราไปส่งนะ”
“ไม่ต้องหรอก น้องแอลหลับอยู่ เดี๋ยวเราอุ้มน้องแอลไปนอนในห้องให้นะ กุลจะได้ไม่ปวดหลังตอนอุ้มเด็กอ้วน”
“ขอบใจนะเดฟ” เธอยืนขึ้นแล้วเดฟก็เดินมาอุ้มลูกชายของเธอขึ้นจากรถเข็นแล้วเดินไปยังห้องนอนที่เปิดประตูทิ้งไว้รออยู่ก่อนแล้ว เดฟคือเพื่อนที่แสนดี และเดฟช่วยเหลือเธอมาตลอด ไม่ว่าลำบากแค่ไหน เดฟก็อยู่ข้างเธอมาตลอด และเธอรู้มาตลอดเช่นกันว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับตัวเอง แต่เธอมองเขาเป็นมากกว่าเพื่อนไม่ได้จริงๆ
“แม่จะทำยังไงดีครับน้องแอล แม่จะทำยังไงดี วันนี้แม่เจอเขา แม่ไม่อยากเจอเขาเลยลูก” เธอเคลื่อนตัวไปบนเตียงแล้วโน้มหน้าเปื้อนน้ำตาลงจุ๊บเหม่งของลูกน้อย เธอไม่อยากอ่อนแอ แต่เรื่องราวในอดีตที่พยายามจะลืมมันย้อนเข้ามาในหัวอีกครั้ง มันย้อนมาตอกย้ำเรื่องเลวร้ายที่ผ่านมา