บทที่4.1

1575 คำ
“อยากให้ทำให้?” ฉันเลิกคิ้ว ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งสำออยก็พอจะเดาได้ รู้จักกันมาเท่าไหร่แล้ว นายดลภาคีมันตอแหล “อือ” ไอ้ดินพยักหน้าหงึกหงักไม่คิดปฏิเสธ ซ้ำยังใช้นิ้วจิ้มมุมปากตัวเองด้วยท่าทางห่าม ๆ แต่ยังคงความออดอ้อนในแบบของมัน อ้อ...อ้อนเท้าน่ะนะ “เจ็บตรงนี้โคตร” “ก็ไปต่อยกับคนอื่นเอง สมควรไหม ไม่ตายก็บุญโข” ฉันยังไม่ขยับเขยื้อน ที่ถามใช่ว่าจะทำให้ ทุกครั้งเลยนะ เวลาไปตีกับชาวบ้านจนได้แผลเยินกลับมา ชอบเคาะประตูเรียกแล้วงอแงจะให้ทำแผล ปกติมันไม่อ้างหรอก แต่วันนี้มาในรูปแบบที่ต่างไปจากทุกที ทั้งเข้าห้องคนอื่นโดยพลการ ไหนจะอ้างโน่นอ้างนี่ให้ตัวเองดูน่าสงสารอีก น่าทำให้เยินกว่าเดิมมากกว่านะฉันว่า “อือ” ตอบรับห้วนสั้น แต่ก้มหน้าเหมือนเด็กโดนดุคือ? “ไม่ต้องมาองมาอือ ออกจากห้องไปเดี๋ยวนี้!” ฉันไล่มันอีกครั้ง อะไรนัก ทำไมชอบมาวอแวฉันเหมือนเจ้ากรรมนายเวร “ไอ้ดิน ยังจะมาหน้ามึน” “อยากโดนเอา...” ฉันชะงัก “...ใจ” จะเว้นให้ฉันตกใจทำไมวะเนี่ย “จะเอาใจหรือเอาแผลเพิ่ม” คราวนี้ฉันไม่อยู่เฉย ก้าวเข้าไปกระชากคอเสื้อพร้อมเค้นแรงที่มีลากมันออกจากห้องตัวเอง ตอนแรกไอ้ดินยื้อพอสมควร หรืออาจเป็นเพราะตัวมันใหญ่จนฉันลากไม่ไหว แต่ท้ายที่สุดมันก็ไหลตามแรง... “ทีหลังหัดทำแผลเอง หรือถ้าไม่มีปัญญาก็ไปให้คนอื่นทำให้ รู้ไหม!” พยักหน้าหนึ่งที ก่อนริมฝีปากหยักลึกจะขยับกล่าม “งั้นทีหลังก็อย่าหาเรื่องมาให้ดิ” ปากบอกเข้าใจ แต่โยนความผิดให้ฉัน? ฉันหาเรื่องให้มันคืออะไร ไม่เห็นจะเข้าใจ ไม่ได้ดั่งใจแล้วพาลเหรอ “ว่าใคร!” ฉันขึ้นเสียง “นางสาวฟาริดาไง” ไอ้ดินพูดชื่อจริงฉันด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ สายตาของมันจับจ้องแค่ฉันซึ่งตอนนี้พยายามบอกตัวเองให้อดทนก่อนจะลงมือฆ่าใครตาย “ฉันทำไม ต่อยไหมจะได้จบ” “ต่อยอีกทีฉันคงตายอยู่หน้าห้องเธอ” ฝ่ายนั้นยกมือลูบแผลตัวเองอีกครั้ง แต่นัยน์ตาคมกริบไม่ยอมเคลื่อนไปไหน “ถึงเวลานั้นอย่าลืมรับผิดชอบด้วยนะ” วันต่อมา ที่มหาวิทยาลัย V “ว๊าย อีฟ่าง! เมื่อกี้อะไรวับ ๆ แวม ๆ ยะ แดงแจ๊ดเชียว” “ยุงกัด...” ตอบเสียงเรียบขณะสางผมมาปิดรอยแดงบริเวณคอซึ่งมันจางลงกว่าเดิมเล็กน้อยแล้ว แต่ก็นั่นแหละ พยายามปกปิดยังไงก็ไม่รอดพ้นสายตาเหยี่ยวของเพื่อน ๆ อยู่ดี ตอนแรกฉันคิดว่าคงไม่มีใครสนใจหรือสังเกต กระทั่งพวกเรามานั่งใต้ตึกคณะหลังจากเรียนเสร็จ ไอ้ฟลุ๊คเป็นคนแรกที่ทักเสียงดังเมื่อผมฉันสยายไปด้านหลังตามแรงลมเมื่อครู่นี้ รอยนี่...ไอ้ดินทำฉันเจ็บแสบมาก ถ้าเพื่อน ๆ รู้ว่ามันจูบยันข้อเท้าของฉันคงอับอายจนอยากมุดดินหนีแน่ ปากก็จูบ คอก็จูบ หน้าอกก็จูบ สะโพกก็จูบ จูบยันข้อเท้า ตัวอะไรวะ เมื่อคืนน่าเอาไม้กวาดฟาดมันให้ตายไปเลย จะได้หายแค้นสักที นึกถึงหน้าไอ้ดินแล้วหงุดหงิดจริง ๆ “ยุงสายพันธุ์นี้ท่าจะดูดเก่งเนอะมึงเนอะ” คราวนี้เป็นเสียงไอ้นนท์ซึ่งนั่งไถโทรศัพท์ส่องพริตตี้เซ็กซี่ ๆ ในเฟซบุ๊ก “ยุงตัวนี้น่าจะตัวใหญ่ด้วย” รายต่อมาเป็นไอ้ธาม อย่างที่รู้ว่ามันอายุน้อยกว่าพวกฉัน ถึงวันนี้จะไม่มีเรียน แต่ก็ลงทุนขับรถมาหาที่มออยู่ดี ไม่ใช่อะไรหรอก ไอ้นนท์มันรับปากน้องไว้ว่าจะเลี้ยงข้าวหลังจากเล่นเกมแพ้ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกมันไปแอบพนันอะไรกันไว้ ไม่ได้ถาม “ยุงตัวนี้มีชื่อว่า ด...” “อยู่แบบไม่เห่าอะทำเป็นไหม” ไม่รอให้ไอ้เอย์พูดจบก็แทรกขึ้นอย่างทันท่วงที ทำเอามันกระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ พวกมันรู้แน่ ๆ ว่าใครเป็นเจ้าของรอยบนคอฉัน “อะไรเจ๊ เขินเหรอ~” ไอ้ธามทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย ฉันเลยเตรียมยกเท้าถีบหน้ามันทั้ง ๆ ที่ยังนั่งอยู่ แต่ไม่ทันยกขึ้นก็มีมือหนามาคว้าไว้ ก่อนบังคับให้ฉันเอาขาลงดี ๆ “เป็นสาวเป็นนางไหม” เสียงทุ้มอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้ฉันตวัดตามองผู้มาใหม่ทันที ไอ้ดินนั่นเอง... ไม่รู้ว่ามันเดินมาตอนไหน ไม่รู้แม้กระทั่งว่ามันอยู่ใกล้ฉันมากชนิดที่ว่าปลายจมูกเราชนกัน นัยน์ตาคมกริบหลุบมองร่องรอยตรงคอฉัน จังหวะนั้นเองที่รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏบริเวณมุมปากซึ่งยังมีรอยแผลให้ดูต่างหน้า “ยุ่ง” ฉันใช้มือดันหน้ามันออกไป และเมื่อกี้นี้ เหมือนแอบได้กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงด้วยแฮะ... เมื่อรู้สึกสงสัย สมองจึงออกคำสั่งให้มองเลยหัวไหล่มันไป กระทั่งพบว่าอีหยงยืนมองมาเราสองคนด้วยสายตาเป็นปกติ หากแต่มีออร่าความเย็นแผ่ออกมา... อ้อ ถึงว่า ตอนมานั่งใต้ตึกฉันไม่เห็นมันสองคนเลย ก่อนหน้านี้คงแอบไปทำอะไรกันมาสินะ ไอ้น้ำหอมกลิ่นหวาน ๆ สไตล์คุณหนูจ๋าเนี่ย กล้าการันตีเลยว่าเป็นของอีหยง เพราะในกลุ่มเราไม่มีใครใช้น้ำแบบนี้ แม้แต่ฉันเองยังใช้น้ำหอมกลิ่นผู้ชาย “โอ๊ย ใกล้เกิ๊นค่า ทำไมไม่ดีปโชว์เหมือนคืนก่อนเลยอะ แบบว่าปากอีฟ่างนี่ฉ่ำเบิร์นมากเวอร์” เสียงไอ้ฟลุ๊คดังมาก ดังจนคนในละแวกนั้นหันมามองอย่างให้ความสนใจ เท้าฉันกระตุกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เหนือสิ่งอื่นใด คนที่ทำให้ฉันคุกรุ่นไม่ใช่ไอ้ฟลุ๊คหรือใคร หากแต่เป็นอีหยง... ตอนแรกสายตามันเป็นปกติดี กระทั่งฉันกระชากคอเสื้อไอ้ดินและดึงเข้าหาตัวจนปลายจมูกเราชนกัน ท่าทางของอีหยงก็เปลี่ยนไป “ไปทำอะไรกับมันมา” ฉันถามเสียงเย็น ให้อารมณ์เหมือนหึงหวง แต่เชื่อเถอะว่าฉันไม่เคยมีความรู้สึกทำนองนั้นเลย “หืม...” เจ้าของเรือนผมสีทองครางอย่างสงสัย นัยน์ตาทอประกายเล็กน้อย “ก็คุย ๆ” “คุย? คุยหรือนัวเนีย?” สายตาฉันเลื่อนกลับไปมองอีหยงอีกครั้ง มันกำหมัดแน่น เหมือนกำลังด่าฉันอย่างหยาบคายผ่านแววตาคู่นั้นที่เริ่มสั่นไหวและแข็งกร้าวในเวลาเดียวกัน “แล้วคิดว่าไง?” ไอ้ดินย้อนถามเหมือนอยากสังเกตท่าที ฉันสอดนิ้วมือเข้าไปในกลุ่มผมนุ่มลื่นทันที ขยุ้มเล็กน้อยจนอีกฝ่ายเบ้หน้าอย่างทนไม่ไหว “ถ้าอยากจีบฉัน อย่ายุ่งกับมัน” “...” เจ้าตัวขมวดคิ้ว ชัดเจนเลยว่ามันตั้งข้อสงสัยอย่างจริงจัง คงไม่คิดว่าฉันจะพูดประโยคนี้ออกมาในสถานการณ์แบบนี้ ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนแบบนี้ “ถ้าทำได้จะให้รางวัล” ฉันอยากเอาชนะอีหยง และอยากดัดนิสัยไอ้ดิน...มันก็แค่นั้น ณ ร้านอาหารตามสั่ง 'แน่จริงมึงลองแดก' “เอากะเพราะหมูววววว” เสียงไอ้นนท์ “ผมเอาไข่เจียวหมูสับ ใส่หัวหอมเยอะ ๆ” ไอ้ธาม “อะไรก็ได้ที่อร่อย” ไอ้เอย์ หลังนั่งสุมหัวกันใต้ตึกคณะชั่วโมงกว่า พวกเราก็ตกลงกันว่าจะหาอะไรแถว ๆ มอกินก่อนแล้วค่อยกลับกัน แน่นอนว่าคืนนี้กลุ่มเรามีนัดที่แอลกอฮอล์อีกตามเคย อ้อ สงสัยใช่ไหมว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เป็นยังไง ไอ้ดินก็...นิ่งไป มันไม่ตอบฉันด้วยซ้ำ ไม่พูด ไม่เออออ เหมือนสิ่งที่ฉันขอมันไม่สามารถทำให้ได้ แต่ตอนเข้ามาในร้านอาหารตามสั่ง มันกลับมานั่งข้าง ๆ ฉัน ทั้งที่ปกติมักนั่งฝั่งตรงข้ามแท้ ๆ “ฟุ๊คฟิกเอาสลัดค่า ช่วงนี้ไดเอตหนักมาก” กะเทยร่างยักษ์จีบปากจีบคอสั่งพนักงานเสร็จก็หันมาทางฉัน “อีฟ่าง เหม่อไร รีบสั่งอาหารสิ! ผัวดินของฟุ๊คฟิกด้วย” “ราดหน้า/ราดหน้า” ฉันและไอ้ดินตอบพร้อมกัน นั่นทำให้เราสองคนหันขวับกลับมามองหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้ ทำไมต้องมาชอบราดหน้าเหมือนกันด้วยนะ! “อูย เนื้อคู่~” ฉันตวัดตามองเจ้าของเสียงแซวอย่างไม่พอใจ เดี๋ยวควักลูกกะตาหลุดเลยไอ้เด็กตาแป๋ว! “เฮ้ออ เหม็นฟามรักกกส์” ไอ้นนท์ถอนหายใจยาวมาก แถมยังสะบัดมือไปมาคล้ายไล่กลิ่นอะไรสักอย่าง ปวดหัวชะมัด ปวดหัวที่ต้องมานั่งทนให้พวกมันแซวแบบนี้เนี่ย ตึง! เพราะเหตุนั้นเอง ฉันจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าห้องน้ำหลังร้านทันที อย่าเข้าใจผิดว่าฉันเขินนะ ดูหน้าด้วย...ไม่พอใจมาก! รำคาญมาก! และไม่รู้จะทำยังไงกับเพื่อนตัวเองที่ ‘ขยันชงแล้วดื่ม’ เบอร์แรงขนาดนั้น เรื่องเรียนขยันแบบนี้บ้างไหม ถามหน่อย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม