"จ๋า วันนี้วันศุกร์นะ"
"แล้วไง"
"ไปเที่ยวกัน"
"ฉันยังโดนกักบริเวณอยู่เลย"
"นี่ก็นานแล้วนะ ป่าปี๊ของเธอเอาจริงเหรอครั้งนี้"
ปกติแล้วเห็นจ๊ะจ๋าอ้อนนิดอ้อนหน่อยก็จะทำขึงขังไปได้ไม่เท่าไหร่สุดท้ายแล้วก็ยอมลูกสาวจนได้แต่ครั้งนี้สงสัยจะเอาจริงแฮะส่งสารเพื่อนไม่น้อยเลยครั้งนี้
ทำไงดีล่ะ มันก็นานแล้วจริง ๆ นั่นแหละ เธอเองก็อยากไปเที่ยวไปปลดปล่อยตามประสาสาวโสดกับเพื่อน ๆ เหมือนกัน อีกอย่างวันนี้นอกจากเรียนหนังสือแล้วก็ยังมีเพื่อนคนอื่นมาปรึกษาปัญหาหัวใจกับคนโสดอย่างเธอเนี่ยนะ บางทีก็คิดนะว่าทำไมคนที่มีคู่ถึงมาปรึกษาหรือระบายเรื่องของคนรักให้คนโสดฟัง แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยเธอก็ได้รู้ว่าความรักมีหลากหลายรูปแบบมันเลยไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอะไรเลย เหมือนได้ฟังนิยายเสียงสักเรื่อง จนบางทีก็คิดภาพตามจินตนาการตามเพื่อนไปด้วยถ้าเธอต้องเจอแบบที่เพื่อน ๆ เธอเจอ เธอคงอยู่ไม่ได้แน่ ๆ
"งั้นพวกเธอมารับฉันไหม จอดรถไว้ข้างกำแพงบ้านเดี๋ยวฉันหาทางออกไปเอง"
"ได้ แต่วันนี้ไปคลับเปิดใหม่นะ เห็นว่าผู้หล่อเยอะอ่ะ"
"อ้าว ไม่ใช่บาร์โฮสต์เหรอ"
"ไปก็เจอเพื่อนเธอสิ เคอร์ฟิวส์อะไรนั่นน่ะ เปลี่ยนบรรยากาศบ้างเนอะ"
"ก็ได้ ถ้าผู้หล่อสงสัยจะต้องแต่งตัวจัดเต็มสักหน่อยแล้วล่ะ"
ขณะที่กำลังคุยไปเดินไป ก็เจอเข้ากับเรไรเพื่อนของฮันเตอร์ จ๊ะจ๋ารับรู้ได้ว่าเพื่อนของฮันเตอร์คนนี้ไม่ชอบเธอยังไงก็ไม่รู้ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ หรือการมองทางสายตา แต่ก็ช่างชีวิตเธอมันมีค่ามากกว่าต้องมาสนใจแค่คนคนเดียว
ปึก!
"โทษ!" หรือบางทีการสนใจคนคนเดียวด้วยฝ่ามือก็ดีเหมือนกันนะ ทางเดินออกกว้างขวางแต่ผู้หญิงคนนี้กลับเดินมาเบียด และชนเธอ ทำตัวราวกับหมาจรจัดที่ไล่กัดรถหรูอย่างนั้นแหละ
"ตาบอดเหรอ ที่เยอะแยะถึงได้เดินมาชน หรือไม่ได้ตาบอดแต่อยากกวนบาทาฉัน"
พีนัทกับฮานะรีบคว้าแขนเรียวของจ๊ะจ๋าเอาไว้ทั้งสองข้าง ไม่รู้ว่าเพื่อนของพวกเธอไปกินดีหมีหรือรังแตนมาจากไหนถึงได้โมโหง่ายขนาดนี้ แต่พวกเธอที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็พอเข้าใจได้ เพราะว่าตรงทางเดินพื้นที่ออกกว้างขวางยังจะเดินมาชนเพื่อนเธอได้
"จ๋า เพื่อนพี่เตอร์ไม่ใช่เหรอ"
"เพื่อนเตอร์แล้วไงอะ รู้จักฉันเป็นการส่วนตัวเหรอถึงได้เดินมาหาเรื่องกันขนาดนี้"
"ฉันไม่ได้หาเรื่องเธอ แต่ว่าตอนที่เดินมาฉันเสียหลักล้มจริง ๆ "
"ตอแหลดี พูดอีกสิ อยากฟังคนตอแหลต่อ"
จ๊ะจ๋าปัดมือของเพื่อนที่จับแขนของเธอไว้ทั้งสองข้างออกแล้วกอดอกจ้องมองกับเรไรที่ตอนนี้เหมือนกับว่าไปไม่เป็นเลยทีเดียว จริงอยู่ที่เธอตั้งใจเดินชนจ๊ะจ๋า แต่ว่าเธอไม่ได้คิดว่าจ๊ะจ๋าจะมีการตอบโต้เธอแบบนี้ เธอเข้าใจว่าจ๊ะจ๋าจะนิ่ง ๆ เงียบ ๆ
"ตอแหลต่อไม่ได้แล้วเหรอ งั้นก็อย่ามาสะเออะยุ่งกับฉัน"
"น่ารำคาญจริง ๆ เลย" พูดจบก็หมุนตัวกลับแล้วเดินออกมาเลยปล่อยให้เรไรยืนกำมือโมโหจนหน้าดำหน้าแดงอยู่อย่างนั้น จ๊ะจ๋าเดินออกมาเรื่อย ๆ เธอตั้งใจจะไปซื้อกาแฟยามบ่ายกินสักหน่อย ขณะที่กำลังเดินอยู่กับพีนัทและฮานะก็เจอเข้ากับเปตองที่ถือหนังสือกองโตเอาไว้ในมือ
"หนังสืออะไรทำไมเยอะจัง"
"อาจารย์ศักดิ์ชัยใช้ให้เอาไปวางไว้ที่ห้องพักอาจารย์น่ะ แล้วจะไปไหนกัน"
"จะไปซื้อกาแฟ เอาด้วยไหม"
"เอาลาเต้เย็น เดี๋ยวมาเอาตังนะ"
"โอเค" เปตองเดินไปอย่างรีบร้อน เขาเป็นคนที่เป็นหัวกะทิจริง ๆ และเก่งในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านกิจกรรม กีฬา หรือแม้แต่วิชาการ เขาก็ไม่เคยขาดตกบกพร่องมันก็น่าแปลกใจอยู่ที่เขายอมมาอยู่กลุ่มเดียวกับพวกเธอที่ไม่ค่อยจะสนใจเรียนเท่าไหร่
วันนี้นอกจากจะมีเรื่องปวดหัวของเพื่อนฮันเตอร์แล้ว ทุกอย่างก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง เธอยังคงสนุกกับการมาเจอเพื่อน ๆ ที่มหาวิทยาลัย เรียกได้ว่ามันคือเป้าหมายของการมาเรียนของจ๊ะจ๋าเลยก็ว่าได้ จ๊ะจ๋าไม่เคยหวังผลการเรียนที่สวยงาม เธอหวังเพียงแค่เอาตัวรอดก็เท่านั้นเธอจึงไม่ได้สนใจมากสักเท่าไหร่
กระทั่งมาถึงตอนเย็น เธอกลับบ้านมากับฮันเตอร์เขามาส่งเธอเหมือนเดิม และเธอก็หอมแก้มเขาเป็นการขอบคุณเหมือนอย่างเดิมจนฮันเตอร์ชินไปแล้วที่ต้องถูกเธอหอมแก้มทุกครั้งก่อนที่เธอจะลง หรือขึ้นมาบนรถของเขา
"ขอบคุณที่มาส่งค่าาาา~"
"อย่าไปหอมใครแบบนี้นะ"
"ทำไมล่ะ" ยังจะมาถามอีกว่าทำไม เธอนี่มันน่าทุบจริง ๆ
"เออน่า กับพี่น่ะหอมได้เพราะเราเป็นพี่นะ…!"
"หยุด! เราไม่ใช่พี่น้องกัน นี้น้องจ๋าต้องผ่าสมองของเตอร์ออกมาล้างไหมถึงจะจำได้ว่าเราสองคนไม่ใช่พี่น้องกัน!"
"แล้วเราเป็นอะไรกันล่ะ" ฮันเตอร์ถามขึ้นอีกครั้ง เขาต้องมีสถานะสิ และสถานะที่เขาเล็งไว้ก็คือพี่ชายที่แสนอบอุ่นของน้องสาวคนนี้ อีกอย่างเธอหอมแก้มเขาก็หลายครั้งแล้ว พี่น้องกันก็ต้องหอมกันได้เป็นธรรมดา แต่ถ้าเธอบอกว่าเราเป็นเพื่อนกัน เขาก็อยากจะรู้ว่าเพื่อนที่ไหนมันหอมแก้มกัน มันใช้ปากชนกัน
หรือว่า เธอทำแบบนี้กับเพื่อนทุกคน!
"เราเป็นเพื่อนไง"
"ไม่เอา ไม่อยากเป็นเพื่อน"
"อย่ามางอแงนะเตอร์ ก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานจะมาอยากเป็นพี่เป็นน้องอะไรไร้สาระ น้องจ๋าไม่เอาด้วยหรอกนะ"
บ่นฮันเตอร์เสร็จก็ไป ปล่อยฮันเตอร์เอาไว้ในรถเขามองตามคนตัวเล็กเดินเข้าไปในบ้านก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วส่ายหัวเบา ๆ กับท่าทางของเธอ
"เพื่อนเหรอ? งั้นก็เป็นเพื่อนไปคนเดียวแล้วกัน พี่ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนเราสักหน่อย" เพราะเขาต้องเป็นพี่ชายของเธอเหมือนกับลูกเพื่อนพ่อคนอื่น ๆ ทำไมเธอถึงให้คนอื่นเป็นพี่ เป็นน้องได้ แต่กับเขาทำไมเธอถึงบอกให้เป็นเพื่อน หรือเพราะความใกล้ชิด หรือเพราะว่าเขาเป็นเพื่อนเล่นกับเธอมาตั้งแต่เด็ก หรือเป็นเพราะคำพูดของเขาที่เคยบอกอดีตคนเคยเกือบคุยกันว่าเธอเป็นเพื่อน
ดับเบิ้ลอาร์คลับ
ในที่สุดก็หนีออกมาจากบ้านได้สำเร็จ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะทำได้ จ๊ะจ๋าหนีออกมาจากบ้านครั้งแรก และเธอก็ทำได้เพราะว่าออกมาหลังจากที่พ่อกับแม่ของเธอเข้านอนไปแล้ว
วันนี้เธอใส่ชุดสวยมากเลยทีเดียวสวยชนิดที่ว่าเพื่อนสาวของเธอทั้งสองคนสามารถตะลึงกับเสื้อผ้าที่เธอใส่มาได้ แม้ว่าเธอจะไม่อยากมีความรักแต่ว่าเธอก็ชอบมองดูผู้ชายหล่อ ๆ ชอบที่จะบริหารความสวยไปด้วยเพราะเธอก็อยากจะรู้ว่าเธอยังมีเสน่ห์อยู่ไหม
"วันนี้เธอสวยมาก ตอนที่เห็นเธอเดินออกมาจากบ้านฉันแทบจำไม่ได้เลย" ฮานะพูดขึ้นมาหลังจากที่เห็นว่าจ๊ะจ๋าขึ้นมาบนรถแล้ว วันนี้ฮานะอาสาขับรถเองเลยนะเพราะว่าอยากจะไปเที่ยวที่คลับแห่งใหม่
"นั่นสิ เล่นเอาพวกฉันหมองไปเลย" พีนัทเองก็พูดขึ้น เพราะถึงแม้ว่าพวกเธอจะแต่งตัวอวดความสวยมาด้วย แต่ก็ยังแพ้เพื่อนตัวเล็กของเธออยู่ดี
เอาน่าพวกเธอก็สวยดูสิ ฉันชอบเกาะอกของเธอมากเลยนะพีนัท
"แล้วเสื้อปาดไหล่ของฮานะก็สวยเข้ากับเธอมากเลย พวกเธอต้องมั่นใจในตัวเองหน่อยนะ ใครจะดูถูกเราก็ได้ช่างมัน แต่เราอย่าดูถูกตัวเองเข้าใจไหม"
ว่าแล้วก็พากันเดินเข้าไปด้านในของคลับหรู ที่ต้องมีบัตรสมาชิกเท่านั้นถึงจะเข้ามาได้ แน่นอนว่าเรื่องนี้ทั้งฮานะกับพี่นัทก็จัดการให้ได้อยู่แล้วไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย
"ว่าแต่ ทำไมถึงเข้ามาได้ง่ายจัง ไหนว่าได้เฉพาะคนที่มีบัตรสมาชิกไง"
"อ๋อ ฉันเพิ่งสมัครสมาชิกไปน่ะก็ที่ฉันยืมเงินเธอมาสามแสนไง"
"หา อย่าบอกนะว่า…"
"ใช่ ยืมมานอนบัญชีเฉย ๆ พอได้บัตรสมาชิกมาก็คืนเธอเลย" ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพื่อนของเธอจะลงทุนอะไรแบบนี้ แต่ก็ช่างเถอะเพราะยังไงก็เข้ามาได้แล้ว
บรรยากาศด้านในของคลับค่อนข้างเย็น สำหรับโซน VIP จะมีโต๊ะให้ไม่มีเก้าอี้ให้หรอกนะ เพราะต้องการจะให้คนที่มาร่วมสนุก และวาดลวดลายกัน แต่ว่าสำหรับโซน VVIP มีทั้งแบบห้องส่วนตัว และแบบด้านนอกซึ่งมีโซฟากับโต๊ะเอาไว้ให้ เพราะลูกค้าโซนนี้ส่วนมากจะไม่ค่อยชอบยืน ไม่ค่อยชอบออกลวดลายเอง แต่ที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นการมองดูคนอื่น ๆ เต้นอยู่ด้านล่างมากกว่า
"สุดยอดเลย เดี๋ยวถ่ายรูปก่อนนะ"
"อย่าถ่ายติดฉันนะ ฉันหนีที่บ้านมาอ่า"
"ได้ งั้นเดี๋ยวถ่ายแล้วแท็กแล้วแสร้งทำเป็นชวนเธอมาเที่ยวดีไหม"
"ดี ๆ " สาว ๆ ได้โต๊ะกันเรียบร้อย พวกเธออยู่ในโซน VIP และคนส่วนใหญ่ก็อยู่โซนนี้กันมากทีเดียว
หลังจากที่โพสต์รูปลงไปแล้วพีนัทก็โพสต์ลงอินสตาแกรมแล้วแท็กทั้งจ๊ะจ๋ากับฮานะพร้อมกับแคปชันว่า
Pnut น่าสงสารคนอดมาเที่ยวเลย @NJaja @hanana
จากนั้นไม่นานทั้งสามสาวก็เริ่มปฏิบัติการดื่มแอลกอฮอล์ราวกับน้ำเปล่า อย่างสนุกสนาน ในบรรยากาศที่แสนครึกครื้นไปด้วย
...
"ไอ้เตอร์"
"ว่า"
"เมาแล้วเหรอวะ" ราล์ฟสะกิดเพื่อนเพราะเห็นว่าฮันเตอร์เริ่มไม่ค่อยพูด และเงียบลง
"ม่ายมาว ขอกูนั่งเฉย ๆ แป๊บ" หน้าของฮันเตอร์แดงขนาดนั้นยังบอกอีกเหรอว่าตัวเองไม่เมาแถมกลิ่นแอลกอฮอล์ก็ฟุ้งราวกับฉีดแอลกอฮอล์แทนน้ำหอม
"กูเห็นน้องมึงเช็กอินด้วย" เพราะราล์ฟจำได้ว่าฮันเตอร์เคยบอกว่าน้องสาวของเขาคนที่ไม่ยอมเป็นน้องแต่จะปีนเกลียวเป็นเพื่อนให้ได้น่ะ คนนั้นกำลังถูกกักบริเวณอยู่
"อือ" เออ ก็แค่น้องต่างพ่อ ต่างแม่ มันอาจจะไม่สนใจก็ได้ราล์ฟคิดแบบนั้นก่อนจะเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋ากางเกงแล้วหันไปหามาร์ช ทั้งสองคนกำลังคุยกันไปดื่มกันไปโดยปล่อยให้ฮันเตอร์นั่งก้มหน้าถือแก้วอยู่อย่างนั้น
"ไอ้มาร์ช มึงร่วงก่อนกูอีกเหรอวะ"
"ใครร่วง มึงอย่ามาพูดปากพล่อย ๆ นะเว้ย"
"มึงไง"
"โน้น คนร่วง" มาร์ชชี้ไปที่ฮันเตอร์ ที่นั่งเหม่อมองมาที่พวกเขานิ่ง ๆ ราวกับร่างไร้วิญญาณ มือขวาถือแก้ววิสกี้โดยการจับคร่อมที่ปากแก้ว ส่วนมือซ้ายก็พาดไปที่พนักพิงโซฟา
"สัส" เอ้า! เหมือนรู้ตัว ว่าถูกเขาสองคนรวมหัวกันแกล้ง ไอ้นี่มันเมาจริงไหมเนี่ย
"มึงเมาจริงไหมเนี่ย"
"เมา" คนเมาบอกว่าตัวเองเมา มีจริงเหรอวะ?