เสียงเพลงขันหมากที่ดังมาจากเครื่องไฟในหมู่บ้าน บอกให้รู้ว่ากำลังจะมีงานมงคลสมรสเกิดขึ้น มีเศรษฐีจากต่างจังหวัดมาสู่ขอสาวสวยในหมู่บ้าน มุมปากหยักยกยิ้ม เมื่อคิดว่าเขาคงเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับเชิญไปงานนี้
แทนไทละมือที่กำลังฉุดฟางออกจากหลัก เมื่อมีรถมอเตอร์ไซค์ขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน พร้อมกับเรียกหาเขา
"พี่แทน! พี่แทน! อยู่ไหนน่ะพี่" ขวัญชนกจอดรถอุ้มหลานตัวน้อยลงจากหน้ารถ แล้วร้องเรียกเจ้าของบ้าน
"รออยู่นี่นะรวง เดี๋ยวน้าไปดูก่อนว่าพ่ออยู่ไหน" บอกกับหลานสาว แล้วเดินไปหลังบ้าน เพื่อดูว่าแทนไทอยู่ที่ไหน ระหว่างทางก็ร้องเรียกเขาไปด้วย
"พี่แทน! พี่แทน! อยู่ไหนพี่ แม่ให้เอาไอ้รวงข้าวมาฝาก" ขวัญชนกยังคงร้องเรียกแทนไท เพราะไม่รู้ว่าเขาอยู่ตรงส่วนไหนของบ้าน บ้านเขามีเนื้อที่กว้างขวาง เต็มไปด้วยแปลงผักและนาข้าว หลังบ้านก็เป็นสวนผลไม้ที่มีต้นไม้หนาทึบ บดบังท้องนาเขียวขจีที่อยู่อีกฟากของตัวบ้าน เรียกให้เขาออกมาดีกว่าไปเดินหาให้เสียเวลา เพราะต้องรีบกลับไปช่วยงานที่บ้านอีก
"ว่าไงบัว" ขานรับอดีตน้องเมีย เมื่อเดินออกมาจากโรงเรือนที่เขากำลังทดลองเพาะเห็ดพันธุ์ใหม่ ที่เกษตรอำเภอนำมาให้ทดลอง ก่อนจะแจกจ่ายเชื้อเห็ดให้ชาวบ้านที่สนใจนำไปปลูก เพื่อเป็นรายได้เสริมอีกทาง แทนไทเป็นผู้ใหญ่บ้าน บ้านของเขาจึงไม่ต่างจากแปลงสาธิต เพราะไม่ว่าหน่วยงานไหนจะนำอะไรเข้ามา ก็ต้องผ่านมือเขาก่อนทั้งนั้น
"แม่ให้เอารวงข้าวมาฝากไว้ก่อนน่ะพี่" เมื่อเห็นหน้าอดีตพี่เขยใบบัวก็พูดไม่ออก เธอรู้ว่าแทนไทคงเจ็บมากที่พี่สาวเธอแต่งงาน เพราะทั้งสองคนเพิ่งจะหย่ากันได้ไม่นาน
"อือ...ให้ค้างที่นี่เลยไหม" ถามแล้วเดินนำกลับเข้าไปในบ้าน เพื่อไปหาลูกสาวไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันเขากำลังคิดถึงลูกอยู่พอดี
"น่าจะค้างแหละพี่ ญาติพี่พจน์เขาจะมาค้างที่บ้านบางส่วน แม่กลัวว่า..." คำพูดที่เหลือค้างไว้แค่ริมฝีปาก เมื่อผู้ใหญ่หนุ่มพูดต่อให้
"กลัวว่าเขาจะรู้ว่าช่อมีลูกติด"
"พี่ช่อก็ไม่ได้ปิดบังหรอกพี่ แต่แม่เขากลัวว่าจะไม่สะดวกน่ะพี่"
"อือ...พี่เข้าใจ เอาเสื้อผ้ารวงข้าวมาแล้วใช่ไหม" ถามเพราะที่นี่มีเสื้อกับกางเกงของรวงข้าวแค่ไม่กี่ตัว ตั้งแต่หย่ากันช่อผกาก็เอาลูกไปเลี้ยงที่บ้านของเธอ อนุญาตให้เขาเข้าไปหาลูกได้ปกติ จะรับมานอนด้วยก็ได้ เพราะเขากับช่อผกาจากกันด้วยดี ไม่มีเรื่องใดๆ บาดหมางกัน รู้ว่าช่อผกากำลังจะแต่งงานใหม่ ก็ห่วงลูกอยู่เหมือนกัน แต่คิดว่าพ่อตาแม่ยายน่าจะเอ็นดูหลาน แต่ถ้าถึงขนาดเอาลูกมาแอบเพราะกลัวแขกในงานจะรู้ว่าเจ้าสาวมีลูกติด เขาคงต้องทบทวนเรื่องลูกใหม่ ช่อผกากำลังจะมีครอบครัว ลูกก็คงไม่จำเป็นสำหรับเธอ อีกหน่อยเธอก็คงมีลูกกับสามีใหม่ รวงข้าวก็จะกลายเป็นส่วนเกิน หัวใจแกร่งเจ็บร้าวเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขากับช่อผการักและแต่งงานกัน แต่พอมีโซ่ทองคล้องใจ ก็ไปด้วยกันไม่ได้ ช่อผกาอยากเป็นช่างเสริมสวย จึงขอเขาไปเปิดร้านในตัวจังหวัด ไม่นานเธอก็มีคนใหม่ และหย่ากันในที่สุด เรื่องนี้เขาไม่โทษใคร เพราะแต่ละคนก็มีสิทธิ์เลือกทางเดินให้ชีวิตตัวเอง
"กับข้าวอยู่ในปิ่นโตนะพี่ เดี๋ยวเย็นๆ ฉันเอาเสื้อผ้าไอ้รวงมาให้ ฉันกลับก่อนนะ" ใบบัวพูดขึ้นเพราะต้องกลับไปล้างชามต่อ วันนี้เป็นวันสุกดิบคนมาช่วยงานยังไม่มาก เธอเลยต้องรับหน้าที่นี้ เพราะแขกส่วนใหญ่กินเสร็จก็แช่คากะละมังไว้
"อืม..." ขานรับสั้นๆ พร้อมกับอุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นมาแนบอก
"น้ากลับก่อนนะรวง ตอนเย็นจะเอาขนมมาให้ พี่แทนฉันเอาขนมจีนน้ำยามาให้พี่ด้วยนะ น้ำยาฝีมือป้า
ดวน มีน้ำกะทิลอดช่องอยู่ในถุง แกะป้อนรวงข้าวด้วยนะพี่ ฉันไปล่ะ" ยิ้มให้พี่เขยเพราะรู้ว่าเขาชอบกินขนมจีนน้ำยา ยิ่งเป็นน้ำยาฝีมือป้าดวนยิ่งเด็ด เพราะไม่ได้กินกันได้ง่ายๆ ต้องมีงานใหญ่เท่านั้นป้าดวนถึงจะลงมือทำ บอกพี่เขยเสร็จคนตัวเล็กก็คร่อมมอเตอร์ไซค์แล้วขับออกไป แทนไทยืนมองปิ่นโตเถาใหญ่ที่ใบบัวแขวนหนีมดไว้ใต้ถุนบ้าน ใบบัวคงไม่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร ที่เห็นกับข้าวและขนมงานแต่งของคนที่เคยใช้ชีวิตร่วมกัน ที่เธอทำแบบนี้ก็เพราะเป็นห่วงเขากับหลาน ว่าจะไม่คิดเรื่องนี้แล้วเชียว แต่ลูกก็ทำให้เขาคิด งานแต่งแม่ลูกกลายมาเป็นส่วนเกิน ช่อผกาไม่ได้ปิดบังเรื่องลูกกับสามีใหม่ก็จริง แต่เขาก็คิดว่าผู้ชายคนนั้นคงไม่ชอบรวงข้าว อดีตแม่ยายถึงได้ให้ใบบัวพาหลานมาหลบอยู่ที่นี่
"ไม่เป็นไรนะลูก ไม่เป็นไรนะ หนูยังมีพ่อ" น้ำตาลูกผู้ชายรื้นหัวตา เมื่อก้มหอมศีรษะลูกรัก รวงข้าวคือชื่อที่เขาตั้งใจตั้งให้ลูก เพราะมันเหมือนกับชื่อของคนเป็นแม่ ช่อผกากับรวงข้าวพิมพ์รัก ช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน มือหนาคว้าขวดเหล้าขาวที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วกระดกลงคออึกใหญ่ ว่าจะไม่แตะมันแล้วแต่ก็ทนไม่ไหวจริงๆ
"พ่อจ๋า...พ่อร้องไห้" มือเล็กกลมป้อมใช้หลังมือเช็ดน้ำตาให้เขา นั่นยิ่งทำให้แทนไทจุกในอก ทำไมถึงเป็นแบบนี้ครอบครัวที่เขาคิดว่าจะต้องอบอุ่นและสมบูรณ์แบบที่สุด กลับต้องพังลงเพราะคำว่าไปด้วยกันไม่ได้ เขาทำแต่งานจนไม่มีเวลาให้เมีย จึงทำให้เธอมีคนอื่น เหล้าขาวในมือถูกกลืนลงคอรวดเดียวหมดขวด เปิดขวดใหม่แล้วดื่มมันเหมือนน้ำเปล่า แทนไทต้องการใช้มันบรรเทาความเจ็บปวด ร่างสูงทิ้งตัวนอนเหยียดยาวกับพื้น โดยมีรวงข้าวนั่งอยู่ในอ้อมแขน น้ำตาพากันไหลออกมา เมื่อนึกถึงภาพในวันวาน บรรยากาศชื่นมื่นในวันแต่งงาน ครั้งหนึ่งมันก็เคยเกิดขึ้นกับเขา ช่อผกาคงมีความสุขที่ได้แต่งงานกับคนที่เธอรัก ในขณะที่เขาเจ็บจนแทบขาดใจ ลูกยังไร้เดียงสาเกินกว่าจะรับรู้ความรู้สึกของเขา
"พ่อจ๋า น้ำตาพ่อไหลอีกแล้ว"
"ไม่เป็นไรนะลูก พ่อไม่เป็นไร" สะอื้นไห้ออกมา
เมื่อความเจ็บปวดตีตื้นขึ้นมาอัดแน่นอยู่กลางอก ยิ่งคนตัวเล็กปลุกปลอบ เขาก็เจ็บจนแทบขาดใจ ทุกอย่างเป็นอดีตไปแล้วเขารู้ว่าเอากลับมาไม่ได้ ถึงจะไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่ครั้งนี้ทนไม่ไหวจริงๆ เสียงเพลงงานแต่งที่ดังเข้าหู เป็นเหมือนมีดทิ่มแทงและบาดลึกลงไปในหัวใจของเขา